เสนายัน นรกทีมเยือน สวรรค์นักท่องเที่ยว

สนามเกอโลราบุงการ์โน (Stadion Utama Gelora Bung Karno) หรือที่เรียกติดปากคนไทยว่าสนามเสนายัน เป็นสนามที่แฟนบอลไทยยุคหนึ่งจำได้ดีว่าเป็นสนามที่น่าขนลุกสนามหนึ่งสำหรับทีมชาติไทย นั่งเพราะความใหญ่โตขนาดความจุแฟนบอลได้มากกว่า 100,000 คน และด้วยวัฒนธรรมการเชียร์แบบสุดลิ่มทิ่มประตูของแฟนบอลอินโดนีเซีย ก็ทำเอานักฟุตบอลทีมชาติไทยในยุคนั้นที่ไปเยือนต่างยอมรับกันว่ามีขาสั่นเหมือนกัน แม้ว่าในปี 2018 จะมีการปรับปรุงสนามใส่เก้าอี้ทุกที่นั่งทำให้จำนวนที่นั่งลดลง แต่ก็ยังมากกว่า 70,000 ที่นั่งอยู่ดี ไม่ว่าใครมาเยือนก็ใช่ว่าจะรอดกลับไปได้ง่าย ๆ

แต่ถ้าไม่ได้มาไฟว้กับเจ้าถิ่น สนามแห่งนี้ก็เป็นสวรรค์ของคนชื่นชอบกีฬาได้เหมือนกัน

                ที่ตั้งของสนามเกอโลราบุงการ์โน ตั่งอยู่ในกลางเมืองจาการ์ต้าร์ และเป็นสปอร์ตคอมเพล็กขนาดใหญ่ เนื้อที่ถึง 279 เอเคอร์ ซึ่งรวมไว้ทั้งสนามกีฬาหลักและกีฬาอื่น ๆ เช่น สนามบาสเก็ตบอล สนามเทนนิส หรือว่ายน้ำ มีศูนย์ฝึกฟุตบอล ศูนย์ราชการและศูนย์ประชุม เรียกว่าครบครันและใหญ่ที่สุดในอาเซียน เกอโลราบุงการ์โนสปอร์ตคอมเพล็กจึงเป็นสถานที่หลักสำหรับการจัดการแข่งขัน และการประชุมใหญ่ ๆ ของประเทศ และในอีกมุมหนึ่งก็เป็นสวนสาธารณะ ลานออกกำลัง ของประชาชนนักท่องเที่ยวและผู้อาศัยทำงานในจากาตาร์ด้วยเช่นกัน เราจะเห็นผู้คนมาปิกนิก ปั่นจักรยาน เล่นกีฬาต่าง ๆ ทุกเย็นและสุดสัปดาห์ มีแม้กระทั่งโยคะและเต้น Sumba ด้วยนะ ซึ่งก็คล้าย ๆ กับสนามศุภ ฯ หรือสนามราชมัง ฯ ของไทยเรานั่นเอง

                ด้วยความเป็นหน้าเป็นตาของกรุงจากาต้าร์ เกอโลราบุงการ์โน จึงรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางทั้งสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือรถประจำทาง แต่จากการเข้าพื้นที่จริงของ VWIN แนะนำว่าควรใช้รถไฟใต้ดิน เพราะกรุงจากาต้าร์ก็ขึ้นชื่อเรื่องการจราจรไม่ต่างกับกรุงเทพมหานครเลย นอกจากการมาใช้บริการสปอร์ตคอมเพล็กแล้ว รอบ ๆ พื้นที่ยังอยู่ใกล้โรงแรม ร้านอาหาร และช้อปปิ้งมอลขนาดใหญ่ถึงสามแห่ง และเดินได้ในระยะทางไม่ถึงหนึ่งกิโล

หรือถ้าใครอยากจะเข้าถึงประชาชนชาวจากาต้าร์จริง ๆ ล่ะก็ สตรีทฟู้ดของที่นี่ก็มีชื่อเสียงไม่น้อยกว่ากรุงเทพเลย เราสามารถเดินชิมได้ตามถนนตรอกซอกซอยในจากาต้าร์ได้อย่างเต็มที่ ส่วนร้านอร่อยมีร้านไหนบ้างนั้นอาจจะต้องสอบถามคนในพื้นพี่ดู

                แม้ว่าจากาต้าร์จะไม่ใช่จุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยวเมื่อพูดถึงอินโดนีเซีย แต่สำหรับนักท่องเที่ยวสายวัฒนธรรม ที่อยากไปสัมผัสคนประเทศนั้น ๆ จะไปทำธุรกิจ หรือไปเชียร์กีฬา หากต้องอยู่หลายวัน เป็นสัปดาห์ สนามเกอโลราบุงการ์โนก็เป็นสถานที่น่าสนใจแห่งหนึ่งที่น่าจะเยือนสักครั้ง อย่างน้อย ๆ การได้ไปดูสนามกีฬาใหญ่ยักษ์ติดอันดับโลกที่มีประวัติยาวนานแบบที่บ้านเราไม่มี มันก็ทำให้หัวใจพองโตได้เหมือนกัน แต่สำหรับแฟนบอลคนหนึ่งบอกตรง ๆ เลยว่าอิจฉา

“ช้าง อารีน่า” ศูนย์รวมความสุขของทุกครอบครัว

ในสมัยก่อน หากถามถึงสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อในจังหวัดบุรีรัมย์ ทุกคนต้องเอ่ยถึง “ปราสาทหินพนมรุ้ง” เป็นเสียงเดียวกันอย่างแน่นอน ด้วยสถาปัตยกรรมอันงดงาม และประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่าพันปี แต่ในวันนี้ยังมีอีกหนึ่งแลนด์มาร์คที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมุ่งหน้าไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่สักครั้งที่ “ช้าง อารีน่า”

                ช้าง อารีน่า เป็นสนามฟุตบอลประจำทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลชั้นนำของประเทศไทย เปิดใช้งานอย่างเป็นทางการในปี พ.ศ. 2555 ภายใต้ชื่อ “ไอ-โมบาย สเตเดียม” ก่อนจะเปลี่ยนมาใช้ชื่อ ช้าง อารีน่า ตามผู้สนับสนุนหลักของสโมสรในปี พ.ศ. 2560 ปัจจุบันสนามแห่งนี้มีความจุผู้ชมถึง 32,600 ที่นั่ง

                ด้วยงบประมาณการก่อสร้างกว่า 500 ล้านบาท (โดยไม่รวมค่าที่ดิน) สนามเหย้าของทีมปราสาทสายฟ้า ถือเป็นสนามฟุตบอลแห่งแรกของประเทศไทยที่ไม่มีลู่วิ่งมาคั่นกลางระหว่างสนามและผู้ชมให้เสียอรรถรส เช่นเดียวกันสนามฟุตบอลชั้นนำทั่วโลก โดยผ่านการรับรองมาตรฐานจากสหพันธ์ฟุตบอลระหว่างประเทศ (ฟีฟ่า) ระดับเวิร์ลคลาส และผ่านการรับรองมาตรฐานจากสหพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (เอเอฟซี) ระดับเอคลาส นอกจากนั้นสนามแห่งนี้ยังถูกบันทึกกินเนสบุ๊ค ว่าเป็นสนามฟุตบอลระดับฟีฟ่า ที่ใช้เวลาในการก่อสร้างน้อยที่สุดในโลก เพียง 256 วันเท่านั้น

                ในวันที่มีแมตช์การแข่งขัน ช้าง อารีน่า จะคลาคล่ำไปด้วยแฟนบอลเซาะกราวที่เดินทางมาให้กำลังใจทีมโปรดของตัวเอง จนลานหน้าสนามรวมไปถึงลานจอดรถกว่า 1,000 คันแคบลงไปถนัดตา แต่ในวันที่ทีมปราสาทสายฟ้าไม่ได้ลงทำการแข่งขัน สนามแห่งนี้ก็ยังเปิดให้แฟนบอลและประชาชนทั่วไป เข้าชมสนามได้โดยไม่เสียค่าบริการใด ๆ ทั้งสิ้น จึงทำให้มีผู้มาเยี่ยมเยือนสนามแห่งนี้อย่างไม่ขาดสาย อีกทั้งยังมี บุรีรัมย์ เมกะสโตร์ จัดจำหน่ายสินค้าที่ระลึกต่าง ๆ ให้แก่ผู้มาเยือน จนสินค้าที่ระลึกภายใต้ตราสัญลักษณ์สโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กลายเป็นของฝากยอดฮิตไปในที่สุด และแน่นอนว่าสำหรับการแข่งขันไทยลีกนั้น คุณสามารถเลือกวางเดิมพันที่ VWIN ได้อย่างมั่นใจว่าแทงถูกจะได้เงินจริง

                นอกจากนี้ในบริเวณใกล้เคียงกับ ช้าง อารีน่า ยังเป็นที่ตั้งของ “บุรีรัมย์ คาสเซิล” คอมมูนิตี้มอลล์ที่เต็มไปด้วยร้านอาหารชื่อดัง ร้านจำหน่ายสินค้าอันหลากหลาย และสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอย่าง ปราสาทหินพนมรุ้งจำลอง สวนไม้ดอกไม้ประดับ และมหาศิวลึงค์ รองรับนักท่องเที่ยวทั้งที่เป็นแฟนบอลหรือประชาชนทั่วไปได้ทั้งครอบครัว

                ช้าง อารีน่า ไม่เพียงถูกใช้ในการแข่งขันฟุตบอลเท่านั้น ยังถูกเลือกใช้เป็นสถานที่จัดงานเทศกาลรื่นเริงประจำปีให้แก่ชาวบุรีรัมย์และชาวจังหวัดใกล้เคียงอยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นเทศกาลสงกรานต์ หรือเทศกาลปีใหม่ ซึ่งจัดอย่างยิ่งใหญ่ในทุก ๆ ปี นอกจากนั้นบริเวณภายนอกสนามในวันที่ไม่มีการแข่งขันยังอนุญาตให้ใช้เป็นพื้นที่สำหรับกิจกรรมนันทนาการต่าง ๆ ทั้งฟุตซอล, เซปักตะกร้อ และกีฬาเอ็กซ์ตรีมต่าง ๆ เรียกได้ว่า ช้าง อารีน่า คือสนามของชุมชนอย่างแท้จริง

                ด้วยระยะทางที่ไม่ไกลจากตัวเมืองบุรีรัมย์ อีกทั้งยังมีเส้นทางคมนาคมที่สะดวกสบาย ช้าง อารีน่า จึงกลายมาเป็นจุดหมายปลายทางของเหล่านักท่องเที่ยวทั้งในและต่างจังหวัด ทำให้บุรีรัมย์ไม่ได้เป็นเพียงแค่จังหวัดชายแดนที่ห่างไกลและมีปราสาทหินโบราณเป็นเครื่องดึงดูดเดียวเพียงแห่งเดียวอีกต่อไป

พาทัวร์ 5 อันดับสนามฟุตบอลทั่วโลก เอาใจเหล่าคอบอลทั้งหลาย

สำหรับคอบอลทั้งหลายที่ชื่นชอบการชมฟุตบอลมากที่สุด และอยากจะไปเชียร์แบบใกล้ชิดติดขอบสนามกันดูสักครั้ง วันนี้เราก็จะพาคุณไปทัวร์ 5 อันดับสนามฟุตบอลยอดนิยมจากทั่วโลกกันก่อน ไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีที่ไหนบ้างและจะมีจุดเด่นที่น่าสนใจอย่างไร

1.Maracana Stadium

สนามฟุตบอลยอดนิยมในประเทศบราซิล โดยที่นี่ก็เคยใช้เป็นสนามแข่งขันฟุตบอลโลกมาแล้ว รวมถึงการแข่งขันโอลิมปิกด้วย ซึ่งสนามฟุตบอลแห่งนี้จะมีลักษณะเป็นโดมขนาดใหญ่ มีหลังคาโดมที่ช่วยกันแดดให้กับผู้ชมได้เป็นอย่างดี ทั้งยังมีขนาดใหญ่มากด้วยความจุถึง 74,000 ที่นั่งเลยทีเดียว

2.Estadio Municipal De Braga

ใครที่เคยชมการแข่งขันฟุตบอลในประเทศโปรตุเกส ก็คงจะเคยเห็นสนามฟุตบอลแห่งนี้กันมาบ้างแล้ว แต่จะดีกว่าไหมหากได้ลองมาเที่ยวชมสัมผัสอย่างใกล้ชิดกันดูสักครั้ง โดยสนามฟุตบอลแห่งนี้ก่อสร้างขึ้นในปี 2003 ซึ่งถูกห้อมล้อมไปด้วยหุบเขา จึงทำให้ได้บรรยากาศที่เย็นสบายและได้กลิ่นอายความเป็นธรรมชาติสูงมาก แถมยังมีวิวทิวทัศน์สวย ๆ ที่จะทำให้คุณได้ชมทั้งการแข่งขันฟุตบอลและภาพวิวทิวทัศน์ที่โดนใจกันเลย ส่วนความจุก็สามารถจุคนดูได้ประมาณ 30,000 คน

3.Pancho Aréna

พลาดไม่ได้เลยสำหรับสนามฟุตบอลแห่งนี้ ใครที่ชอบแทงบอลและดูบอลสดกับ VWIN เป็นประจำ แนะนำว่าลองเปลี่ยนจากการดูบอลสดมาชมการแข่งขันแบบชิดขอบสนามที่ Pancho Aréna กันบ้างดีกว่า ซึ่งที่นี่ก็มีขนาดไม่ใหญ่มาก สามารถจุผู้ชมได้ 5,000 คน แต่ก็มีความโดดเด่นและน่าสนใจไม่แพ้สนามฟุตบอลแห่งไหนเลยทีเดียว ที่สำคัญจะทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในโบสถ์มากกว่ากำลังอยู่ในสนามฟุตบอลซะอีก ทั้งนี้จะเป็นอย่างไรก็ต้องลองมาเที่ยวกันดู

4.Allianz Arena

สนามฟุตบอลชื่อดังที่คงไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะมีจุดเด่นในเรื่องของการใช้พลาสติก ETFE มาก่อสร้างเป็นสนามฟุตบอลขนาดใหญ่ ซึ่งมีการอัดก๊าซเรืองแสงไว้ด้านในอย่างสวยงาม โดยเฉพาะตอนกลางคืนจะมองเห็นได้อย่างชัดเจนมาก ทั้งยังสามารถเปลี่ยนสีได้ถึง 3 สี คือ สีแดง สีขาว และสีน้ำเงิน ตามสัญลักษณ์ของทีมที่ลงแข่งนั่นเอง ซึ่งนักท่องเที่ยวก็สามารถเข้ามาชมกันได้ หรือหากต้องการมาชมการแข่งขันฟุตบอล ที่นี่ก็สามารถบรรจุผู้ชมได้มากถึง 75,000 คน

5.Luzhniki Stadium

สนามฟุตบอลที่มีความจุมากถึง 80,000 ที่นั่ง โดยเป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดในรัสเซียเลยทีเดียว แถมยังได้รับการรับรองมาตรฐานจากยูฟ่าถึง 4 ดาว และเนื่องจากสนามฟุตบอลแห่งนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมอสโกพอดี จึงทำให้มีบรรยากาศที่เย็นสบาย ประกอบกับหลังคาโดมที่ช่วยกันแดดได้เป็นอย่างดี เหล่าคอบอลจึงสามารถมาร่วมเชียร์กันได้อย่างสนุกโดยไม่ต้องกังวลกับแดดที่ร้อนจัดกันเลย

ต้องบอกเลยว่าสนามฟุตบอลแต่ละแห่งนั้นมีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นคอบอลทั้งหลาย ห้ามพลาดที่จะลองแวะมาเที่ยวชมกันดู หรือจะไปร่วมชมการแข่งขันแบบชิดขอบสนามก็ได้เหมือนกัน

รวบรวมเสน่ห์ของตลาดโต้รุ่งหัวหิน กี่ปีผ่านไปก็ยังอยู่ได้นักท่องเที่ยวเพียบเหมือนเดิม

ตลาดโต้รุ่งกับความสบายพุงจนรุ่งเช้า

ตลาดโต้รุ่ง เป็นตลาดกลางคืนที่เรียกขานและรู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นใจกลางหัวหินแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลยยอดนิยม จะว่าไปแล้วหัวหินกับตลาดโต้รุ่งเป็นของคู่กันที่มีมานานแล้ว ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปี ๆ ก็ยังคงอยู่ไม่ปิดหนีหายไปไหนแถมนักท่องเที่ยวก็ยังแวะเวียนมาเที่ยวอยู่สม่ำเสมอ เรียกได้ว่าเป็นตลาดโต้รุ่งที่ไม่มีวันตาย แน่นอนเรื่องอาหารยังคงเป็นจุดเด่นที่ทำให้ตลาดแห่งนี้มีมนต์เสน่ห์ ใครที่เคยมาตลาดแห่งนี้จะเห็นร้านอาหารทะเลหลายร้านคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ จบอาหารคาวแล้วจะต่อด้วยร้านขนมหวานชื่อดังอีกหลายร้าน ไม่ว่าจะเป็นร้านไอศกรีม ร้านของหวาน ร้านผลไม้ตามฤดูกาล ข้าวเหนียวมะม่วง ทุเรียน ลำไย ฯลฯ ของกินเล่น เช่น ข้าวโพดปิ้ง ข้าวโพดต้ม หมึกย่าง ไก่ทอด โรตี เครป เต้าทึง น้ำเต้าหู้ รับรองมีให้กินกันยันดึกอิ่มแปล้ไปจนถึงเช้า

สถานที่ท่องเที่ยวอื่นซบเซาจะเจ๊งแหล่ไม่เจ๊งแหล่แต่ไม่ใช่ที่ตลาดโต้รุ่งนะจ๊ะ

เป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าช่วงนี้หันไปไหนก็เศรษฐกิจซบเซา แม้แต่การท่องเที่ยวก็เหมือนกันสถานที่ท่องเที่ยวหลายที่ในเมืองไทยได้รับผลกระทบจากการที่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวน้อยลง ไม่เว้นแม้กระทั่งหัวหินหลาย ๆ ที่เริ่มซบเซามาได้สักระยะ อาทิ เพลินวาน สถานที่ท่องเที่ยวย้อนยุคให้เห็นวิถีชีวิตคนไทยโบราณเอย หรือเวเนเซีย Community Mall ก็ตามหากใครมีโอกาสมาเที่ยวในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ที่ไม่ใช่เทศกาลแล้วละก็จะเห็นผู้คนบางตาจนน่าใจหาย แต่ตลาดโต้รุ่งไม่ใช่เลย ยังคึกคักเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวขาตะลุยกินที่ยังเดินทางมากระจุกตัวกันในยามค่ำคืนจนหาที่จอดรถแทบไม่ได้เลยล่ะ เพราะของกินที่มีให้เลือกกินอย่างละลานตา โดยเฉพาะอาหารทะเล กุ้งตัวโต ๆ ลอบสเตอร์ขนาดใหญ่เบิ้มที่ใครเห็นก็อยากลองควักตังก์ในกระเป๋าจ่ายกันสักครั้งในชีวิตเพื่อลิ้มลองรสชาติของมัน จะมาเป็นกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัวก็สามารถนั่งกินพูดคุยดื่มด่ำค่ำคืนสนุกสนานได้ถึงเที่ยงคืน พ่อค้าแม่ค้าก็เป็นมิตรแถมบางร้านน่ารักมากดูแลใส่ใจทั้งลูกค้าชาวไทยและต่างชาติแบบไม่เลือกปฏิบัติ ถ้าเป็นลูกค้าคนไทยก็จะขายราคาคนไทยไม่บวกเพิ่มอีกต่างหาก นี่คงเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่เราสามารถสัมผัสได้ว่านักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ จึงไม่เคยพลาดมาฝากท้องไว้กับที่นี่เพราะความน่ารักเป็นกันเองของพ่อค้าแม่ค้าที่ยังคงเป็นยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นธรรมชาติและมีเสน่ห์แบบไม่ต้องปรุงแต่งใด ๆ เลย  สำหรับคนที่ไม่เคยมาตลาดโต้รุ่งแห่งนี้เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนถึงเที่ยงคืนนะจ๊ะ หากมีเวลาเรียนเชิญมาฝากท้องที่นี่กันได้น๊า

ภูเก็ตที่เปลี่ยนไปในวันนี้ หาดทรายสีขาวกลับมาแล้ว

ภูเก็ตไข่มุกแห่งอันดามัน สวรรค์คนชอบทะเล

ไม่แปลกใจเลยที่ภูเก็ตจังหวัดที่เป็นหมู่เกาะทางภาคใต้ที่ใคร ๆ ก็รู้จักต่างขนานนามให้ว่า “ไข่มุกแห่งอันดามัน” เพราะมันสวยสมคำร่ำลือสวยเหมือนไข่มุกที่เจิดจรัสหาอะไรเปรียบมิได้  เราเคยไปภูเก็ตครั้งแรกเมื่อประมาณสิบกว่าปีที่แล้วทะเลสวยยังไงกลับไปวันนี้ก็ยังสวยอย่างนั้นไม่เคยเปลี่ยน น้ำทะเลใสแจ๋ว หาดทรายขาวคลื่นซัดสาดฝั่งไม่หยุด เปรียบเสมือนสาวพันปีสวยไม่สร่างยังไงก็ยังสวยอย่างนั้น

ร่มผ้าใบหลากสีหายไป หาดทรายขาวได้กลับมีชีวิตชีวาอีกครั้ง  

สิบกว่าปีที่แล้วถ้าหากใครไปเยือนหาดป่าตองชายหาดที่มีชื่อเสียงที่สุดของภูเก็ตแล้วล่ะก็คงจะเห็นแค่ชายหาดที่เต็มไปด้วยร่มผ้าใบริมชายหาดหลากสีที่กางเรียงรายเต็มพรืดไปหมด กว่าสายตาจะมองทะลุร่มพวกนี้ไปเจอน้ำทะเลได้ต้องจ้องมองกันเบ้าตาแทบทะลุเลยล่ะ เป็นอย่างนั้นจริง ๆ นะ เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้ เอาจริง ๆ ก็เกะกะสายตามากพอดู ชายหาดไม่เหมือนชายหาด ดูเกะกะวุ่นวายเสียงดังเจี๊ยวจ๊าวเต็มไปด้วยพ่อค้าแม่ค้าที่ทำมาหากินกับนักท่องเที่ยว ไหนจะร้านอาหาร ไหนจะร้านทำผม (ถักเปียริมหาด) ไหนจะร้านนวดเอย เดินกันให้ควัก บางครั้งนักท่องเที่ยวอย่างเราก็ไม่ได้อยากกินอาหารตลอดเวลา ไม่อยากถักเปียให้สวย ไม่อยากนวดเพราะไม่เมื่อย แต่อยากนั่งชมวิวทะเลเงียบ ๆ ปล่อยอารมณ์ไปบ้างตามประสาวิ่งลงทะเลเล่นน้ำอย่างเป็นส่วนตัวบ้างอะไรบ้างแต่ก็ทำไม่ได้ จะเดินไปทางไหนก็โดนเรียกโดนตื้อจนแทบจะเขวี้ยงข้าวของที่มีติดมือทิ้งแล้วกลับไปนั่งกอดเข่ามองสระน้ำที่โรงแรมก็ได้ แต่พอกลับไปอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ภูเก็ตเปลี่ยนไปแล้ว ป่าตองจ๋าร่มผ้าใบหลากสีหายไปแล้ว อยากจะโห่ร้องด้วยความดีใจชายหาดสงบน้ำทะเลเขียวใสกลับมาแล้วอย่างไม่น่าเชื่อ จะด้วยการจัดระเบียบทำให้ทะเลที่ภูเก็ตในวันนี้ดูสงบเงียบอย่างที่มันควรจะเป็น นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติอย่างเรา ๆ เป็นปลื้มอยากเอนหลังนั่งพิงต้นมะพร้าวดื่มอะไรเล็กน้อยเพลิน ๆ คนเดียวก็ทำได้ อยากเล่นน้ำทะเลกับเพื่อนก็ถอดเสื้อ (เสื้อคลุมน๊าหาใช่ความล่อนจ้อนอย่าคิดมาก ฮิฮิ) ใช่แล้วถอดเสื้อคลุมสลัดผ้าวิ่งลงทะเลไปเล่นน้ำได้อย่างสบายใจ ไม่มีใครตื๊อให้ทำนู่นทำนี่ที่ไม่อยากทำแล้ว คนที่ห่างหายจากภูเก็ตไปนานเพราะเบื่อความวุ่นวาย อยากให้กลับไปอีกครั้งจังแล้วคุณจะชอบภูเก็ตในวันนี้วันที่ภูเก็ตเปลี่ยนไปภูเก็ตแบบเดิมแบบที่เคยสงบกลับมาเหมือนเดิมแล้วน๊า

ทะเลใกล้กรุงเทพฯ ไม่ได้มีแค่หัวหิน อยากได้ความสงบไปเที่ยวปราณบุรีดีกว่า

เที่ยวทะเลแบบสง๊บสงบใกล้กรุงเทพฯ ให้ไปปราณบุรี

อยากเที่ยวทะเลคุณคงนึกถึงหัวหินกับพัทยาล่ะสิ ใช่ไหมล่ะ ใครก็ต่อใครก็คิดแบบนี้จนทำให้ลืมไปว่าปราณบุรีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ก็เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบทะเล สามารถมาสูดบรรยากาศบริสุทธิ์รับกลิ่นอายทะเล สัมผัสความเค็มของน้ำทะเลได้เหมือนกัน ปราณบุรีอยู่ในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เมืองพี่เมืองน้องของหัวหินนี่แหละ หากมาจากกรุงเทพก็ขับเลยหัวหินมาเพียงแค่ 30 กิโลเมตรเท่านั้นเอง ไม่ใกล้ไม่ไกลแต่ให้ความรู้สึกสงบได้เหมือนห่างตัวเมืองออกไปหลายร้อยกิโลเมตร (ว่าไปโน่น) ทะเลปราณบุรีสงบมากนักท่องเที่ยวที่ชอบความสงบเป็นส่วนตัว ส่วนใหญ่มักจะมาหลบพักผ่อนที่นี่เพราะมีรีสอร์ทริมทะเลติดชายหาดให้เลือกมากมาย ราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันและหลักหมื่นให้เลือกสรร ใครงบน้อย ใครงบเยอะก็เชิญเลือกตามสบายได้เลย

ปราณบุรีมีอะไรให้เที่ยวบ้าง

จะมาเที่ยวทั้งทีไม่อยากนั่ง ๆ นอน ๆ อยู่แต่ในรีสอร์ทก็ออกไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ได้เหมือนกันนะ ที่ปราณบุรีก็มีแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียงให้เราไปเที่ยวได้เหมือนกัน มีอะไรบ้างนี่เลย หาดนเรศวร ความโดดเด่นของที่นี่จะมีชายหาดยาวร่วม 7 กิโลเมตร น้ำทะเลตื้นสามารถลงเล่นน้ำได้มีร้านอาหารกระจายตัวเป็นจุด ๆ ไว้บริการนักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังมีเกาะนมสาว เกาะที่มีลักษณะรูปทรงเหมือนนมสาว ใครมาแถวนี้อยากดำน้ำทะเลดูปะการังก็ทำได้ด้วยน๊า นอกจากนี้ยังมีตลาดเก่าปราณบุรีไว้ให้นักท่องเที่ยวได้เดินเล่นซื้อของ มีวณอุทยานปราณบุรีให้เราได้ศึกษาศูนย์การเรียนรู้อันเนื่องมาจากพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนารถ มีทั้งพรรณไม้และสิ่งมีชีวิตทางทะเล ป่าชายเลนและป่าสน

สิ่งที่หัวหินให้ไม่ได้แต่สามารถหาได้ง่ายที่ปราณบุรี

ใครต่อใครก็นึกถึงแต่หัวหินจนทำให้ปราณบุรีไม่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ก็เพราะหัวหินเป็นด่านแรกที่คนชอบทะเลนึกถึง ในขณะที่ปราณบุรีต้องขับรถเลยไปอีก 30 กิโลเมตรจากหัวหินอีกแน่ะ แต่อย่างที่บอกไปแล้วว่าปราณบุรีมีความสงบมากกว่าให้ความรู้สึกใกล้ชิดทะเลได้มากกว่าหัวหินที่มีตึกสูงและบ้านเรือนสิ่งปลูกสร้างเต็มไปหมด จะหาที่พักริมชายหาดราคาสบายกระเป๋าก็หายาก แต่ในขณะที่ปราณบุรีแค่หลักพันต้น ๆ ก็สามารถจองห้องพักริมทะเลได้แล้ว

ไปทะเลใกล้กรุงเทพฯ คราวหน้าไปปราณบุรีสิ

                ใครที่เบื่อหัวหินถิ่นมีหอยคราวหน้าก็ปราณบุรีเลยจ้า ขับรถไปแค่ไม่กี่นาทีก็ได้สัมผัสรีสอร์ทชิล ๆ ริมทะเลได้แล้วเหมือนกัน ไม่อยากให้คุณต้องจำเจอยู่กับที่หัวหิน ว่าง ๆ คราวหน้าไปปราณบุรีกันนะ แล้วคุณจะชอบ

เที่ยวญี่ปุ่นยังไงไม่ให้เสียมารยาทในบ้านของเขา

ญี่ปุ่นฟีเว่อร์ กระแสแรงดีไม่มีตก

กระแสท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นยังมาแรงในหมู่คนไทยอย่างเรา ๆ หลายคนไปเที่ยวญี่ปุ่นกับบริษัททัวร์ บ้างก็เลือกไปเที่ยวด้วยตัวเอง แต่เชื่อไหมว่ามีน้อยคนนักที่จะศึกษาใส่ใจมารยาทและวัฒนธรรมของคนประเทศนี้ว่าเขามีกฎระเบียบข้อห้ามยังไงบ้าง เรามีข้อแนะนำที่ควรรู้มาให้เพื่อน ๆ ได้อ่านเรียนรู้ไว้ไม่เสียหายแน่นอน อยากรู้ไหมมีอะไรบ้าง

คนญี่ปุ่นมักทำตัวเป็นใบ้และทำตัวลีบในรถสาธารณะ

ใบ้ในที่นี้หมายถึงเขาจะสงบปากสงบคำและทำตัวมีมารยาทสุด ๆ เวลาต้องขึ้นรถไฟหรือรถประจำทาง คนญี่ปุ่นจะได้รับการปลูกฝังเรื่องมารยาทและกฎระเบียบที่เคร่งครัดมาก เขาค่อนข้างเคร่งครัดเรื่องเสียงดัง การพูดคุยเฮฮาในรถไฟเป็นเรื่องที่ไม่มีใครทำกันหรอก แม้แต่เสียงโทรศัพท์ทุกคนจะตั้งโหมดสั่นเท่านั้น เพราะฉะนั้นเพื่อนคนไหนที่ไปเที่ยวระหว่างอยู่ที่นี่ตั้งโหมดโทรศัพท์ให้เป็นระบบสั่นไว้ตลอดการเดินทางจะดีที่สุดจ๊ะ การพูดคุยก็ควรคุยกันเบา ๆ เท่าที่จำเป็นอย่าโหวกเหวกเสียงดังไม่ดีเลยน๊า อย่าทำเลยจ้า อีกอย่างหนึ่งคนญี่ปุ่นเวลาเดินทางไปไหนหากมีสัมภาระติดตัวมามากแค่ไหนก็ตาม เขาจะไม่วางเกะกะใครเด็ดขาดเขาจะต้องหอบและหนีบสัมภาระของตัวเองไว้ในพื้นที่ที่ตัวเองยืนหรือนั่งเท่านั้น เพราะฉะนั้นเราก็เหมือนกันควรถือสิ่งของของตัวเองไว้ให้รบกวนคนอื่นน้อยที่สุดจะดีมากเลย ถ้าหากเป็นกระเป๋าเดินทางในรถไฟความเร็วสูงแล้วส่วนใหญ่จะมีที่วางกระเป๋าไว้เป็นสัดส่วน เราสามารถวางกระเป๋าแล้วเดินไปนั่งได้อย่างสบายใจไม่ต้องกลัวหายเพราะที่นี่ผู้คนซื่อสัตย์มากที่สุดประเทศหนึ่งในโลกเลยล่ะ

คันโตชิดซ้าย คันไซชิดขวา

เรื่องนี้อาจจะพอคุ้นหูกันมาบ้างแล้วว่าเวลาไปญี่ปุ่นที่โตเกียว (ภูมิภาคคันโต) เขาจะใช้บันใดเลื่อนแบบยืนชิดซ้าย เวลาเดินค่อยเดินทางขวา ส่วนเกียวโต ( ภูมิภาคคันไซ) จะยืนชิดขวาเดินทางซ้ายแทน หวังว่าจะไม่งงกันเนอะ จำไว้ว่าไปเที่ยวโตเกียวเวลาขึ้นลงบันใดเลื่อนยืนชิดซ้ายไว้เสมอนะจ๊ะ อย่าขึ้นตรงไหนแล้วยืนตรงนั้นเหมือนบ้านเราเดี๋ยวเขาจะพูดได้ว่าคนไทยไม่มีมารยาทไม่ดีอย่าทำเลยน๊า

เวลากินไม่เดิน เวลาเดินไม่กิน

                เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่คนญี่ปุ่นเขาถือมากคือการเดินกิน คนญี่ปุ่นจะไม่ทำเด็ดขาดเพราะเขามองว่ามันไม่ดีอาจทำให้ขยะหกเลอะเทอะ แต่คนไทยเราเคยชินกับการเดินกินนี่เนอะ ถ้าเป็นไปได้เวลาไปญี่ปุ่นควรเตือนตัวเองไว้เสมอว่าซื้ออะไรมาควรกินให้เสร็จก่อนเดินนะจ๊ะ ท่องไว้ว่ากินไม่เดิน เดินก็ต้องไม่กินจ้า

หวังว่าข้อมูลเล็ก ๆ น้อยๆ นี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ เที่ยวประเทศญี่ปุ่นอย่างสบายใจกันนะจ๊ะ เข้าเมืองหลิ่วต้องหลิ่วตาตามเรียนรู้ไว้ไม่เสียหลายแน่นอน

 

หวานให้สุดชวนคนรักไปชิลที่ Veranda Resort and Spa Hua Hin

ทริปหวานทริปชิลทริปเที่ยวที่เดียวกัน

หัวหินอีกแล้ว สถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลที่ไปกันบ่อยมากกก มากจนจำไม่ได้ว่าไปมากี่ครั้งแล้ว แต่ละครั้งที่ไปมาบอกเลยว่าไม่เคยไปพักสถานที่สวยหรูอะไรมากมาย ด้วยความที่เราเป็นคนง่าย ๆ กินง่ายนอนง่ายไม่เรื่องมากเนอะ นอนที่ไหนก็เหมือนกัน ทุกครั้งที่ไปหัวหินโรงแรม 2 ดาว 3 ดาวก็สบายใจแล้ว แต่รอบนี้คนพิเศษเตรียมเซอร์ไพรส์ไว้ให้เราเลยได้มาพักที่นี่ วีรันดา รีสอร์ท แอนด์ สปา หัวหิน

VERANDA JACUZZI ห้องพักสุดโรแมนติกเหมาะสำหรับคู่รัก ฮันนี่มูนก็ได้ฉลองครบรอบก็ดี๊ดี

ห้องพักที่เราจองกันไว้เป็นห้องพัก Veranda Jacuzzi เป็นโซนที่ไม่ติดทะเลแต่สามารถมองเห็นทะเลได้จากมุมสูง ความพิเศษของห้องพักนี้ คือเป็นห้องพักที่อยู่บนตึกสูงในมุมที่เป็นส่วนตัวหันหน้าไปทางทะเล ตรงระเบียงจะมีผนังกั้นสองด้านซ้ายและขวา ด้านหน้าเปิดโล่งมองเห็นทะเลได้สุดลูกหูลูกตา ที่พิเศษมากและเราชอบมากคือจะอ่างอาบน้ำ Jacuzzi สามารถนอนแช่น้ำชิลได้ทั้งวันตามที่เราต้องการเลยล่ะ ยิ่งถ้าได้มาเป็นคู่โรแมนติคอย่าบอกใครเลย ส่วนห้องพักก็สวยห้องเปิดโล่งเห็นวิวทะเลจนไม่อยากออกไปไหนเลย แนะนำว่าถ้าอยากพักผ่อนเต็มที่ขลุกตัวอยู่แต่ในห้องก็ฟินแล้วจริง ๆ นะเธอ

สวรรค์ของคนที่ชอบเล่นน้ำ

รีสอร์ทนี้มีไฮไลต์อีกอย่างที่พลาดไม่ได้คือสระว่ายน้ำที่สวยมว้ากก หลายคนที่มาแทบจะไม่พลาดเล่นน้ำทั้งเด็กทั้งผู้ใหญ่ เสียดายที่เราไม่ได้เก็บภาพของสระว่ายน้ำมาฝาก แต่เพื่อน ๆ สามารถ Search ดูได้จากกูเกิ้ลได้เลยน๊า สระว่ายน้ำของที่นี่สามารถเล่นน้ำได้เกือบตลอดทั้งวันเพราะมีต้นไม้ใหญ่ริมสระให้ร่มเงาไม่ร้อนเลย แถมมีเครื่องเล่นสำหรับเด็ก ๆ อีกด้วยสนุกกันทั้งครอบครัวเลยค่ะ

ดินเนอร์ใต้แสงเทียนริมชายหาด ดื่มด่ำความสุขภายใต้บรรยากาศสุดโรแมนติค

                อีกอย่างหนึ่งที่คู่รักไม่น่าพลาดคือที่นี่จะมีสถานที่ริมชายหาดที่ทางรีสอร์ทจัดเอาไว้ให้เป็นที่พิเศษมาก ๆ ใครที่กำลังอินเลิฟสุด ๆ อยากมีโมเมนต์โรแมนติกภายใต้แสงเทียนยามค่ำคืนริมชายหาดบอกเลยต้องไม่พลาด เสียดายที่ตอนเราไปมีคนจองไว้ก่อนแล้วแถมมีแค่ที่เดียวด้วย (ไม่แน่ใจว่าสามารถจัดได้หลายที่หรือเปล่า เพื่อน ๆ ลองเช็คกับทางรีสอร์ทได้โดยตรงน๊า)  ส่วนอาหารเช้าของรีสอร์ทบอกได้คำเดียวว่าตั้งแต่ไปเที่ยวมา ที่นี่บริการอาหารเช้าได้โดนใจเรามาก ทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่ง นม น้ำผลไม้ ข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยว ผัดไทย ปาท่องโก๋ นมข้นหวาน ผลไม้นอกจากแตงโมแล้ว เราชอบอีกอย่างคือมีส้มโอผลไม้สุดโปรดอีกด้วยหวานฉ่ำฟินได้ใจ นั่งละเลียดอาหารเช้ากันไม่รู้เบื่อเลยล่ะค่ะ ทริปหน้าไปหัวหินถ้าใครยังลังเลเรื่องที่พักลองไปใช้บริการดูนะคะ ที่นี่เขามีบริการสปาด้วย เราก็ไม่พลาดไปลองมาแล้วฟินมากจนไม่อยากกลับกรุงเทพฯ เลย

เที่ยวสุราษฎร์กินอะไรดี เคียงเลซีฟู้ดสิจ๊ะรออะไร

หอยสดกินที่ไหนก็ได้ แต่ไปสุราษฎร์ต้องกินที่นี่ ที่เคียงเลซีฟู้ด

สุราษฎร์ธานี จังหวัดท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยที่ไม่มีใครไม่รู้จัก รู้จักเกาะสมุยไหม? เคยไปหรือเปล่าเขื่อนเชี่ยวหลาน? นี่ไงจังหวัดนี้แหละที่มีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลและภูเขาที่บอกไว้ให้เราได้สัมผัสกันอย่างชุ่มปอด ไปสุราษฎร์ทั้งทีไม่ได้กินอาหารทะเลโดยเฉพาะหอยนางรมสด ๆ นี่ถือว่ามาไม่ถึงเลยนะ เพราะที่นี่ขึ้นชื่อลือชาในเรื่องหอยใหญ่ไข่แดงจนเป็นคำขวัญประจำจังหวัดที่ฟังทีไรก็ติดหูทู้กที หอยใหญ่ที่ว่านี่คือหอยนางรมสด ๆ นี่แหละ ที่เคียงเลซี้ฟู้ด ย่านร้านอาหารทะเลในหมู่บ้านชาวประมงที่ อำเภอกาญจนดิษฐ์ นี่แหละของเขาดีนักดีหนาที่ขนาดนักท่องเที่ยวไปเที่ยวอยากหิ้วกลับบ้าน ทางร้านสามารถแพ็คลงกล่องอัดน้ำแข็งให้เราโหลดขึ้นเครื่องมาฝากคนที่บ้านกันได้อย่างสบายใจเลยล่ะ

อาหารทะเลสด ๆ บรรยากาศริมทะเลโอบล้อมด้วยหมู่บ้านชาวประมง

สำหรับร้านเคียงเลซีฟู้ด นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องหอยนางรมสด ๆ พร้อมเครื่องเคียงสุดแจ่มแล้ว เขายังมีอาหารทะเลอื่นที่อร่อยจนต้องยกนิ้วให้ เคล็ดลับความอร่อยของร้านนี้ไม่มีอะไรมากนอกจากวัตถุดิบที่สดมากนี่แหละ จึงทำให้เขามีชื่อเสียงครองใจลูกค้ามาอย่างยาวนาน อยากกินกุ้งทะเลเผา กุ้งแม่น้ำเผา ปูนึ่ง กั้งเผา แกงส้มปูไข่ หรือจะเป็นยำไข่เจียวทะเล อื้อหือเครื่องทะเลทั้งเนื้อปูก้อน กุ้งสด ๆ ตัวอวบกำลังดีเอยอัดแน่นมาเต็มจาน ใครที่ชอบอาหารทะเลสด ๆ รับรองไม่ผิดหวัง นั่งกินไปดูวิวทะเลบรรยากาศริมน้ำรายล้อมไปด้วยหมู่บ้านชาวประมง คิดดูสิจะได้บรรยากาศมากแค่ไหน

กินหอยใหญ่ติดใจอยากเอากลับบ้านขอแค่บอก รับรองได้กินฟินกันทั้งบ้านแน่นอน

ทุกครั้งที่ไปที่นี่หอยนางรมสดมักเป็นที่ติดอกติดใจจนต้องซื้อกลับบ้านทุกที และก็ไม่เคยผิดหวังแค่บอกทางร้านเขาว่าจะเอาขึ้นเครื่อง เขาก็แพ็คใส่ลังอัดน้ำแข็งให้อย่างดี ซีลฝากล่องไว้อย่างแน่นหนาสามารถโหลดขึ้นเครื่องเอากลับมากินที่บ้านได้โดยไม่เสียรสชาติ ใครที่ชื่นชอบหอยนางรมตัวใหญ่ ๆ สด ๆ เนื้อเด้งหวานกรอบชูรสด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ดกับครอบครัวต้องไม่พลาดอยากกินต้องได้กิน

ไปย่านนี้ทั้งทีต้องซื้ออาหารทะเลกลับมา

เนื่องจากร้านอาหารทะเลแถบนี้อยู่ในหมู่บ้านชาวประมง เพราะฉะนั้นอาหารทะเลตากแห้ง ปลาเค็ม ปลาหมึก กะปิและอาหารแห้งพื้นบ้านมีให้เลือกซื้อกลับบ้านเยอะเหมือนกัน ก่อนกลับก็สามารถหิ้วติดมือแพ็คขึ้นเครื่องกลับได้ ซื้อสินค้าจากชาวประมงพื้นบ้านตัวจริงแบบไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางเป็นการกระจายรายได้สู่ครัวเรือนกันเลยทีเดียว

Debo Cafe อาหารเที่ยงอร่อยเด็ดราคาเบากระเป๋าในบรรยากาศชิล ๆ ที่หัวหิน

นึกอะไรไม่ออกก็ไปหัวหินสิ

หัวหิน แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่ขึ้นชื่อและเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมานาน หลายคนคงไปเยือนบ่อยเราก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกันค่ะไปเที่ยวหัวหินไม่ต่ำกว่า 5 ครั้ง เพราะหัวหินอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เดินทางง่ายขับรถมาแค่ 2 – 3 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว เวลาเหนื่อยจากงานอยากพักสมองก็บึ่งรถไปเล้ยยย เวลาไปหัวหินร้านอาหารเที่ยงมักจะเป็นโจทย์ให้เราต้องคิดตลอดว่าจะไปกินอะไรที่ไหนดีนะที่รสชาติอร่อย ราคาไม่แพงมากแต่ให้บรรยากาศดีแบบนั่งชิลได้ด้วยเลยมาเจอที่นี่ Debo Cafe หัวหิน 37 เข้าซอย หัวหิน 37 ปากซอยเป็นร้าน Golden Place ร้านอยู่ขวามือเปิดบริการทุกวัน

ร้านอาหารสุดชิค นั่งสุดชิล อิ่มอร่อยราคาไม่แพงด้วย

ไปหัวหินจะหาร้านอร่อยบรรยากาศดีเหมือนนั่งร้านอาหารมื้อหนักแต่ให้อารมณ์แบบเหมือนกินอาหารตามสั่งราคาไม่แพงนี่ก็หายากนะ คือร้านตามสั่งมันหากินไม่ยากหรอกรสชาติก็ไม่แย่แต่ต้องแลกมาด้วยกลิ่นและบรรยากาศไม่น่านั่ง เรามาเจอร้านนี้ชื่อ Debo Cafe ร้านอาหารตามสั่งบรรยากาศดีมีสไตล์และรสชาติดีงามมาก เข้าไปนี่แบบ หืมมมม ร้านอะไรจะเข้าคอนเซ็ปต์ได้ขนาดนี้ คืออาหารง่าย ๆ คล้ายตามสั่งทั่วไปแต่ให้บรรยากาศเหมือนร้านราคาแพงแต่ราคาไม่ได้แพงเว่อร์เลยนะทั้งที่เป็นเมืองท่องเที่ยว เมนูอาหารมีทั้งอาหารจานเดียว อาหารทานเล่น และก๋วยเตี๋ยว

ก๋วยเตี๋ยวรสเด็ดท็อปปิ้งแน่น เครื่องทะลัก แซ่บแสบทวารทั้งเก้า!

เพื่อน ๆ คนไหนที่ชอบทานก๋วยเตี๋ยวต้มยำรสแซบ ขอแนะนำ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำที่สามารถเพิ่มท็อปปิ้งได้ตามใจชอบ เขามีให้เลือกเยอะมาก เช่น ไข่ยางมะตูม เบค่อน หมูแพนเค้ก (หมูเด้ง)  กุ้งแม่น้ำ กุ้งทะเล และปลาหมึกไข่ ใครชอบแบบไหนสั่งกันได้เลย บอกเลยว่าของเขาเด็ดจริง ๆ กุ้งเป็นกุ้ง หมึกเป็นหมึกและสดเนื้อขาวอวบเด้งดึ๋งเคี้ยวหนึบมากก  อีกเมนูที่อยากแนะนำคือ ยำไข่มะตูมเมนูสุดมุ้งมิ้งแต่รสชาติจัดจ้านมาก เมนูนี้เป็นอีกเมนูที่เราไปทุกครั้งต้องสั่งทุกครั้งเพราะมันเด็ดตรงไหนรู้ไหม น้ำยำของเขาเป็นเหมือนน้ำจิ้มซีฟู้ดที่ปรุงรสได้แจ่มมากนำมาราดบนไข่ต้มยางมะตูมโปะด้วยเบค่อนและหมูสับรวนนุ่ม ๆ คุณเอ๊ยยย แซ่บอย่าบอกใคร

อร่อยโดยไม่ต้องปรุง ไม่ใส่ท้อปปิ้งเพิ่มก็อิ่มได้อร่อยด้วยประหยัดอีกต่างหาก

ใครที่ไม่อยากเพิ่มท้อปปิ้งก็ได้นะ ปกติร้านนี้ถ้ากินก๋วยเตี๋ยวอย่างเดียวไม่เอาท็อปปิ้งเพิ่มเขามีให้ครบทั้งหมูสดลูกชิ้นและตับสด ราคา 35 บาท คุณพระ! ยกมือทาบอก ราคานี้ยังมีอยู่อีกเหรอในเมืองท่องเที่ยวที่ทุกอย่างแพงหูฉี่ไปหมดแบบนี้ แต่มีจ้า.. เราลองมาแล้วแบบไม่ใส่อะไรเพิ่ม อร่อยเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือประหยัดเงินในกระเป๋าไปอี๊ก ใครไปหัวหินบ่อยอยากให้ไปลองมาก จดไว้ในลิสต์เลยนะร้านนี้มีโดนซ้ำนะบอกเลย