ปั่นจักรยาน กินลม ชมดอกบัว ที่เมืองยางพยอง นอกกรุงโซล

การเดินทางสำหรับคนที่รักการท่องเที่ยวในประเทศเกาหลีใต้ นอกจากการเดินเล่น ซื้อของในย่านยอดฮิตอย่างมยองดง รวมไปถึงการหาร้านคาเฟ่น่ารัก ๆ เพื่อพักผ่านแล้ว การได้ออกไปสัมผัสการท่องเที่ยวแบบท้องถิ่นก็เป็นเสน่ห์อีกแบบหนึ่งของการมาเยือนประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งวันนี้อยากแนะนำเมืองท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองโซลมากนัก เดินทางไม่ยากด้วยรถไฟฟ้า ใช้เวลาเดินทางไม่มากและคุณสามารถฆ่าเวลาในทั้งวันไปกับการปั่นจักรยานท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นของชนบท

นั่งรถไฟเพลิน ๆ ไปเยือนสถานียางสุ (Yangsu Station) ในเมืองยางพยอง (Yangpyeong County)

สถานที่ท่องเที่ยวอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงที่เรียกว่าเมืองยางพยอง (Yangpyeong County)  อยู่ในจังหวัดคยองกี ประเทศเกาหลีใต้ เมืองขนาดเล็กที่มีบรรยากาศร่มรื่น แต่เพียบพร้อมไปด้วยสถานที่เที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ หากเริ่มต้นการท่องเที่ยวในเมืองนี้ หากคุณเริ่มต้นที่กรุงโซล คุณก็ต้องพาตัวเองขึ้นรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน Gyeongui-Jungang Line มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่สถานียางสุ (Yangsu Station) ใช้เวลาในการเดินทางเพียงชั่วโมงกว่า ๆ แต่คุณอาจรู้สึกว่าเป็นเวลาที่ไม่นาน เพราะการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าที่พาคุณออกมาจากความวุ่นวายของตัวเมือง ทำให้คุณเพลิดเพลินกับวิวธรรมชาติที่สวยงามตลอดสองข้างทางที่รถไฟแล่นผ่าน ยิ่งถ้าหากเดินทางช่วงเช้า คุณจะมีเพื่อนร่วมทางที่เป็นผู้สูงอายุ แต่ร่างกายยังแข็งแรงกันเกือบทั้งขบวนรถไฟ

ปั่นจักรยานเที่ยว ตามรอยซีรี่ส์สุดฮิต

เมื่อรถไฟฟ้าพาคุณมาถึงจุดหมาย หากคุณมาเยือนช่วงต้นของฤดูหนาวที่สภาพอากาศยังเย็นสบาย ราว ๆ กลางเดือนตุลาคมที่อุณหภูมิราว ๆ 23 องศาเซลเซียส คุณจะได้สัมผัสความสดชื่นของลมที่พัดและแสงแดดที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เราขอแนะนำกิจกรรมที่ขาดไม่ได้เลย นั่นก็คือ การปั่นจักรยาน ซึ่งเมื่อเดินลงมาด้านนอกสถานีก็จะมีร้านให้เช่าจักรยาน ราคาให้เช่าก็คิดตามชั่วโมง คุณสามารถลองเลือกจักรยานที่คุณถูกใจ ทำการจ่ายเงินก็เป็นอันเรียบร้อย พาจักรยานของคุณปั่นสำรวจไปตามเส้นทางจักรยานที่มีได้เลย

ตามเส้นทางจักรยานที่คุณปั่นไปเรื่อย ๆ ทางการอากาศสดชื่นนั้น คุณจะพบว่ามีนักท่องเที่ยวไม่น้อยที่ปั่นจักรยานสวนกับคุณไปมา บางคนก็เปิดเพลงสร้างบรรยากาศในการปั่นจักรยานของตัวเองไปด้วย ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ดูจะเพลินกับบรรยากาศร่มรื่นของเมืองยางพยองแห่งนี้ แลนด์มาร์คสำคัญที่คุณจะได้แวะมาเยือนก็คือ Bukhangang Railroad Bridge ถ้าหากคุณเป็นคอซีรี่ส์เกาหลีเรื่อง Hotel Del Luna คุณก็จะคุ้น ๆ ว่าสะพานแห่งนี้ก็คือแบบจำลองของสะพานที่นางเองแสนสวยของเรื่องเดินข้ามไป

ชมบึงดอกบัว ต่อด้วยถ่ายภาพกับกรอบรูปยักษ์บรรยากาศทะเลสาบกว้างใหญ่

สิ่งที่น่าสนใจของเมืองพยองยางที่นักท่องเที่ยวนิยมมากันไม่ได้มีแค่สะพานเหล็กขนาดใหญ่เพียงเท่านั้น แต่ที่เมืองนี้ยังมี Semiwon Garden ซึ่งเป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่เน้นจัดแสดงดอกบัวเป็นสวนใหญ่  ในช่วงฤดูร้อนจะมีดอกบัวบานสะพรั่งเต็มบึง แต่หากนอกฤดูที่นี่ก็จะถูกตกแต่งด้วยดอกไม้ตามฤดูการเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว นับว่าเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมของเมืองก็ว่าได้

ใกล้กันนั้นจะมีจุดชมวิวที่น่าสนใจที่เรียกว่า ทะเลสาบดูมุลมอรี (Dumulmeori Lake) ที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญอีกที่ที่ต้องมาเยือน ดื่มด่ำความเงียบสงบของบรรยากาศท้องถิ่น ถ่ายรูปกับกรอบรูปขนาดยักษ์พร้อมวิวภูเขาสูงใหญ่ และทะเลสาบกว้างสุดลูกตา

ที่เล่ามาด้านบนเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเที่ยวเมืองพยองยางเท่านั้น เพราะเมืองนี้ยังมีที่เที่ยวไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างคุณอยู่อีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น สวนสตรอเบอรี่, Nungnae Station ซึ่งเป็นสถานีรถไฟเก่าแก่ยุค 90, สวนป่าธรรมชาติและพิพิธภัณฑ์พื้นเมือง ที่รอการมาเยือนของคุณ

เครติดภาพ : https://pixabay.com/fr/photos/deux-t%C3%AAtes-de-l-eau-cor%C3%A9e-paysage-1171468/

Singapore Sports Hub สนามกีฬาที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สุดทันสมัย

สิงคโปร์ สปอร์ต ฮับ (Singapore Sports Hub) เป็นศูนย์รวมกีฬาขนาดใหญ่อันดับหนึ่งของประเทศสิงคโปร์ ตั้งอยู่ที่เมืองแกลัง (Kallang) เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2010 จนเสร็จในปี 2014 สิงคโปร์ สปอร์ต ฮับถูกสร้างเพื่อรองรับการเป็นเจ้าภาพการจัดแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่สิงคโปร์รับบทบาทเป็นเจ้าภาพ ซึ่งทั้งพิธีเปิดและพิธีปิดนั้น ถูกจัดขึ้นที่สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ที่เป็นส่วนหนึ่งที่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์ สปอร์ต ฮับ

ศูนย์รวมกีฬาและความบันเทิงยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศ

สิงคโปร์ สปอร์ต ฮับ ถูกสร้างขึ้นตามคำแนะนำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาชุมชนและกีฬาของประเทศสิงคโปร์ เพื่อใช้ทดแทนสนามกีฬาแห่งชาติเดิม ซึ่งนอกจากใช้เป็นสนามกีฬาแล้ว สิงคโปร์ สปอร์ต ฮับ ยังเป็นแหล่งรวมกิจกรรมสร้างความบันเทิงให้กับคนที่รักการออกกำลังกาย รวมถึงบุคคลทั่วไปที่ต้องการสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ เป็นการตอบโจทย์ความต้องการของคณะกรรมการการกีฬาแห่งสิงคโปร์ ที่ต้องการส่งเสริมวัฒนธรรมการกีฬาในเมืองได้เป็นอย่างดี

เป้าหมายการสร้าง สิงคโปร์ สปอร์ต ฮับ นั้นเพื่อต้องการให้เป็นแหล่งอำนวยความสะดวกด้านการกีฬาแห่งแรก และเป็นการก่อสร้างที่นับเป็นโครงการก่อสร้างที่ใหญ่ระดับโลกอีกด้วย

สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งกีฬาและความบันเทิงแสนครบครัน

สิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่รวมอยู่ในสิงคโปร์ สปอร์ต ฮับ นั้น มีเยอะแยะมากมาย ได้แก่

                – สนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์ ที่มีความจุผู้ชมได้มากถึง 55,000 คน ความน่าทึ่งอยู่ที่หลังคาของสนามสามารถพับเก็บได้ รวมถึงที่นั่งของผู้ชมสามารถปรับระดับได้ตามใจคุณอีกด้วย

                – สนามกีฬาในร่มแห่งสิงคโปร์ ความสามารถในการรองรับผู้ชม 12,000 คน

                – ศูนย์กีฬาทางน้ำ OCBC Aquatic Center ที่ได้ตรงตามมาตรฐานสหพันธ์ว่ายน้ำระหว่างประเทศ (FINA) สนามนี้จุผู้ชมได้ถึง 6,000 คน

                – สนามกีฬา OCBC Arena ที่ได้ชื่อว่าเป็นสนามบาสเกตบอลที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของสิงคโปร์ รองรับผู้ชมได้ถึง 3,000 คน ภายในสนามสามารถปรับขนาดด้วย

                – ศูนย์กีฬาทางน้ำ ที่คุณสามารถพายเรือคายัคหรือเรือแคนู เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจในวันหยุดของคุณได้

                – ห้าสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ที่ชื่อว่า Kallang Wave ห้างสรรพสินค้าที่มีขนาดกว้างใหญ่ถึง 41,000 ตารางเมตร ภายในห้างแห่งนี้ ได้รวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกและความบันเทิง อย่างเช่น หน้าผาจำลองเพื่อให้คุณได้ปีนเขาในที่ร่ม หรือสวนสนุกสำหรับเด็กเล็ก Splash N Surf  ที่ประกอบด้วยสวนน้ำสำหรับเด็ก, โมเดลปลากระเบนขนาดใหญ่และแม่น้ำสายเล็ก ๆ ให้เด็ก ๆ ได้สนุกสนานในวันหยุดพร้อมครอบครัว

                – ลู่ทางเดิน 100 Plus ที่เป็นทางให้ได้เดิน วิ่ง ออกกำลังกาย เป็นทางที่ล้อมรอบสนามกีฬาแห่งชาติสิงคโปร์

                – พิพิธภัณฑ์ยุวชนโอลิมปิกแห่งสิงคโปร์ และ พิพิธภัณฑ์กีฬาแห่งสิงคโปร์

                – ห้องสมุด

                – Shimano Cycling World เป็นที่จัดแสดงนิทรรศการที่น่าสนใจและเปิดประสบการณ์ของคุณ คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และเทคโนโลยีของจักรยาน ภายในนั้นใช้เทคนิคที่ล้ำสมัยที่เรียกว่า “ดรีมแมชชีน” เป็นจอแสดงผลที่สร้างความตื่นเต้นและแรงบันดาลใจให้ผู้คนที่หลงรักการขี่จักรยาน

                – สิ่งอำนวยความสะดวกด้วยกีฬามากมาย เช่น ลานกีฬากลางแจ้งที่ใช้แข่งวอลเล่ย์บอลชายหาด สนามพื้นแข็งที่ใช้แข่งขันฟุตซอล บาสเกตบอล ฯลฯ สนามหญ้า รวมถึงเส้นทางลู่วิ่ง และทางจักรยาน

จากความยิ่งใหญ่ของสิงคโปร์ สปอร์ต ฮับ ที่กล่าวมาทั้งหมด ก็คงไม่ต้องสงสัยว่าเพราะอะไรสิงคโปร์ สปอร์ต ฮับถึงได้เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางของคนที่ต้องการออกกำลังกาย เพราะถ้าหากได้ลองเข้าไปเยือนดูสักครั้งก็คงเป็นการออกกำลังกายที่สมบูรณ์แบบของคุณเลยก็ว่าได้

เครดิตภาพ : https://www.straitstimes.com/sport/parliament-sports-hub-can-do-more-to-enhance-vibrancy-mccy

สนามฟุตบอล สวยงามอลังการ ควรค่าแก่การมาเยือน

นอกจากเสียงเชียร์ของผู้ชมที่ตะโกนให้กำลังใจนักฟุตบอลที่ทำหน้าที่ของตัวเองอยู่ในสนามแล้วนั้น สนามฟุตบอลก็มีส่วนช่วยเพิ่มอารมณ์ของผู้เล่นให้พุ่งทะยานสูงเมื่ออยู่ในสนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากได้ลงแข่งในสนามกีฬาที่ได้รับการออกแบบมาอย่างชาญฉลาด ก็ช่วยจรรโลงใจให้นักเตะทั้งหลายมีความกระตือรือร้นเพิ่มมากขึ้น

5 อันดับสนามฟุตบอลที่สวยที่สุดในโลก

วันนี้เรามาทำความรู้จักสนามกีฬาที่มีความสวยงาม 5 อันดับแรกของโลก ซึ่งมีทั้งสนามกีฬาขนาดใหญ่ โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ทันสมัยสวยงาม ตั้งอยู่ในหลายประเทศดังต่อไปนี้

1.Soccer City หรือชื่อสนามอย่างเป็นทางการก็คือ First National Bank Stadium (FNB Stadium) ตั้งอยู่ที่เมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ เป็นหนึ่งในสนามฟุตบอลและรักบี้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ได้รับการปรับปรุงใหม่ครั้งใหญ่ ในปี 2009 และเมื่อประเทศแอฟริกาใต้ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกเมื่อปี 2010 ก็ถูกใช้เป็นสนามจัดการแข่งขัน รูปแบบของสนามถูกออกแบบมาในลักษณะของหม้อแอฟริกัน (African pot) ด้านนอกหุ้มด้วยโมเสคสะท้อนแสงไฟและมีแสงไฟที่เป็นวงแหวนวิ่งไปรอบ ๆ สนาม และด้านล่างของโครงสร้างก็จำลองให้ดูเหมือนไฟที่โชติช่วงอยู่ใต้หม้อ ภายในสนามจุผู้ชมได้มากเกือบ 100,000 ที่นั่ง จึงทำให้ Soccer City เป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

2. Maracanã Stadium เป็นสนามกีฬาที่อยู่ในเมืองริโอเดอจาเนโร ประเทศบราซิล ซึ่งเป็นเมืองที่ได้ชื่อว่ามีความสวยงามที่สุดเมืองหนึ่งของโลก ผู้คนก็ให้ความสนใจในกีฬาฟุตบอลมากด้วยเช่นกัน สำหรับ Maracanã Stadium เป็นส่วนหนึ่งของสปอร์ตคอมเพล็กซ์ที่ได้รับความนิยม และสนามกีฬาแห่งนี้ได้ใช้จัดการแข่งขันกีฬารายการใหญ่ ๆ มากมาย เช่น ฟุตบอลโลกรอบชิงชนะเลิศในปี 1950, ฟุตบอลโลกปี 2016 ที่บราซิลเองเป็นเจ้าภาพ หรือแม้กระทั่งมหกรรมโอลิมปิกในปี 2016 เป็นต้น

3. The Allianz Arena ตั้งอยู่ที่เมืองมิวนิค, บาวาเรีย ประเทศเยอรมัน เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อปี 2005 และยังเป็นสนามฝึกซ้อมของทีมฟุตบอลของมิวนิค อย่างเช่น ทีมบาเยิร์นมิวนิค และ ทีม 1860 มิวนิค สนามกีฬาแห่งนี้มีการออกแบบที่โดดเด่นด้วยแผ่นพลาสติก ETFE ที่พองตัวออกและสามารถเปลี่ยนสีผนังภายนอกจากสีแดงเป็นสีน้ำเงินและสีอื่น ๆ ได้ ขึ้นอยู่กับทีมที่ลงแข่ง รองรับผู้ชมได้ถึง 75,000 คน ทำให้ The Allianz Arena ถือเป็นสนามกีฬาที่ชื่อเรื่องการออกแบบที่ดีที่สุดในโลกก็ว่าได้

4. Wembley Stadium เป็นสนามฟุตบอลตั้งอยู่ที่เมือง Wembley ในสหราชอาณาจักร เปิดใช้เมื่อปี 1923 และได้รับการปรับปรุงครั้งใหญ่เมื่อปี 2007 Wembley Stadium สามารถรองรับผู้ชมได้กว่า 90,000 ที่นั่ง ได้รับการขนานนามว่าเป็นสนามฟุตบอลที่ได้รับการออกแบบอย่างสวยงามที่สุดในสหราชอาณาจักร มีความสูง 134 เมตร มีโครงสร้างซุ้มประตูที่ทอดยาวไปทั่วอาคาร มองเห็นเป็นจุดเด่นสะดุดตาประจำเมืองเวมบลีย์

5. Floating Stadium เป็นสนามกีฬาลอยน้ำที่อยู่ในประเทศสิงคโปร์ สร้างขึ้นในปี 2007 ซึ่งเป็นสนามกีฬาลอยน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นสนามกีฬาที่ทอดตัวยาวสู่ชายฝั่งของอ่าวมารีน่าเบย์ ใช้เป็นที่แข่งขันกีฬาและจัดแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับโลกมากมาย สามารถรับน้ำหนักของผู้เข้าชมได้มากถึง 9,000 คน

ที่กล่าวมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของสนามฟุตบอลที่ขึ้นชื่อว่าสวยงามติดอันดับโลกที่นำมาแนะนำให้คุณได้ทำความรู้จัก ซึ่งบางครั้งเราก็ให้ความสนใจแต่เกมกีฬาที่ทำการแข่งขันในสนามกีฬาเพียงเท่านั้น แต่ถ้าหากคุณลองหันมามองความสวยงามของสนามกีฬาดังกล่าว ก็เปรียบได้กับการเสพงานศิลปะผ่านปติมากรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของเมืองนั้น ๆ ไปด้วย

เครดิตภาพ : https://www.pinterest.com/pin/668925350886714430/

สนามกีฬารังนก (Beijing National Stadium) สนามกีฬาโดดเด่นเน้นความอลังการ

หลายคนคงจะเคยได้ยินคำว่า “สนามกีฬารังนก” ที่เป็นสนามกีฬารูปลักษณ์สะดุดตา จนแค่เห็นครั้งเดียวก็เข้าใจในชื่อสนามกีฬารังนกได้ทันที แต่ชื่ออย่างเป็นทางการของสนามกีฬารังนกนั้นก็คือ สนามกีฬาแห่งชาติปักกิ่ง (Beijing National Stadium) ตั้งอยู่ที่ Olympic Green สนามแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2008 ได้รับการออกแบบจากทีมนักออกแบบสนามกีฬาที่มีชื่อเสียง  เป็นสนามกีฬาขนาดความจุ 90,000 ที่นั่ง ทางการจีนทุ่มงบประมาณกว่า 428 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเนรมิตให้สนามกีฬามีความน่าทึ่งและน่าจดจำด้วยการออกแบบที่มีแนวคิดมาจากถ้วยเซรามิกจีนโครงสร้างเหล็กที่ถูกทำให้โค้งพาดกันไปมาเพื่อซ่อนการพับหลังคาเก็บ จนมองดูเหมือนรังนกขนาดใหญ่

นอกจากนั้นรูปลักษณ์ที่จะมองเห็นอย่างชัดเจนนั้นก็คือทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกของสนามจะสูงกว่าทางด้านเหนือและด้านใต้ของอัฒจันทร์เพื่อให้ผู้ชมเห็นชัดมากขึ้น ที่นั่งที่ไกลที่สุดจากกึ่งกลางของสนามคือ 140 เมตร จากกึ่งกลางสนาม ระบบไหลเวียนอากาศสามารถถ่ายเทได้ดี

สนามกีฬาแห่งชาติ ศูนย์รวมกีฬาและความบันเทิงประจำปักกิ่ง

เมื่อสาธารณรัฐประชาชนจีนได้รับหน้าที่ให้เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันมหกรรมโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2008  สนามกีฬารังนกก็ถูกใช้งานตลอดการจัดงาน และยังได้ใช้สนามกีฬารังนกในการแข่งขันกีฬาพาราลิมปิกในปี ค.ศ.2551 และยังมีแผนการที่จะใช้สนามรังนกอีกครั้งในการแข่งขันโอลิมปิก ฤดูหนาวและพาราลิมปิก ในปี 2022

นอกจากจุดประสงค์หลักที่สร้างสนามแห่งนี้ขึ้นเพื่อใช้เป็นสนามแข่งขันหลักของกีฬาโอลิมปิก ยังมีการวางแผนที่จะสร้างศูนย์การค้า รวมถึงโรงแรมเพื่อช่วยดึงดูดให้ประชาชนได้เข้ามาใช้สนามกีฬาแห่งนี้กันเพิ่มมากขึ้น จนมีคำกล่าวที่ว่า “สนามกีฬาแห่งชาติปักกิ่งจะกลายเป็นพื้นที่สาธารณะที่สำคัญที่สุดในปักกิ่ง”

สนามกีฬาแห่งนี้นอกจากจะใช้จัดแข่งขันกีฬาโอลิมปิกแล้ว ยังมีการใช้เพื่อการแข่งขันรายการกีฬาอีกหลายประเภท ตัวอย่างเช่น

– การแข่งขัน Race of Champions motor racing carnival ในปี 2014 และปี 2015

– การแข่งขันชิงแชมป์กรีฑาโลก ในพ.ศ. 2015

– สนามกีฬาได้เป็นเจ้าภาพการแข่งขัน League of Legends World Championship 2017 รอบชิงชนะเลิศ

เมื่อพูดถึงความบันเทิงสนามกีฬารังนกก็ถูกใช้เป็นเวทีคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ ซึ่งศิลปินคนแรกที่เข้ามาใช้สนามกีฬาในการคอนเสิร์ตก็คือ เฉินหลง หรือ Jackie Chan หลังจากนั้นก็มีศิลปินมากมายที่เข้ามาเปิดคอนเสิร์ตในสนามกีฬารังนก ไม่ว่าจะเป็น Leehom Wang ศิลปินชาวอเมริกัน เชื้อสายจีน, วง Mayday ซึ่งเป็นวงดนตรีชาวไต้หวันที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก นอกจากนั้นยังมีศิลปินเกาหลีใต้มากมายที่เข้ามาใช้ภายในของสนามกีฬารังนก ทั้งการจัดคอนเสิร์ตเดี่ยว และคอนเสิร์ตรวมศิลปิน เช่น EXO, BoA, Super Junior หรือ Girls ‘Generation  เป็นต้น

หากมีสักครั้งหนึ่งในชีวิตที่คุณได้ไปเยือนประเทศจีน คุณก็ไม่ควรพลาดที่จะไปเห็นสนามกีฬารังนกแห่งนี้ด้วยตาตัวเอง ไม่แน่ว่าสนามกีฬาที่ใช้งบประมาณการสร้างมหาศาลแห่งนี้ อาจกลายเป็นสนามกีฬาที่คุณประทับใจก็เป็นได้

เครดิตภาพ : https://www.pinterest.com/pin/45739752441207056/

Major League Baseball ความใฝ่ฝันของนักเบสบอลที่ไม่มีแค่ในการ์ตูน

ย้อนไปเมื่อวัยเด็กเมื่อเราได้ดูการ์ตูนญี่ปุ่นหลายเรื่องที่เกี่ยวกับเด็กนักเรียน จะต้องมีบ้างที่มักพูดถึงกีฬาในคาบเรียนวิชาพละ ที่เป็นกีฬาเบสบอล ทำให้บางครั้งก็อาจคิดไปเองว่ากีฬาเบสบอลเป็นกีฬาประจำชาติของประเทศญี่ปุ่น แต่ในความจริงกีฬาเบสบอลมีต้นกำเนิดมาจากเมืองชิคาโก้ ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งในปัจจุบันยังมีลีกเบสบอลมืออาชีพ ที่เรียกว่า เมเจอร์ลีกเบสบอล  (Major League Baseball) หรือเรียกย่อ ๆ ว่า MLB ซึ่งนับว่าเป็นลีกที่กีฬาอาชีพเก่าแก่ที่สุดในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา มีทั้งหมด 30 ทีมที่รวมกันอยู่ในเมเจอร์ลีกเบสบอลแห่งนี้ แบ่งเป็น 15 ทีมจาก Nation League และอีก 15 ทีม American League

เปิดราคาตั๋วเข้าชม ตั้งแต่แพงที่สุดจนถึงถูกที่สุดใน Major League Baseball

ค่าตีตั๋วเข้าชมการแข่งขันในแต่ละครั้งจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับที่ตั้งของสนาม รวมถึงทำเลที่นั่งที่คุณเลือก หากคุณต้องการที่นั่งที่ดีที่สุด ก็ย่อมเป็นธรรมดาที่ต้องยอมควักกระเป๋าจ่ายเพื่อให้ได้นั่งในที่ที่คุณจะลุ้นเกมส์ได้ชัดที่สุด

นอกจากนี้ราคาตั๋วจะแพงขึ้นหรือถูกลงก็ขึ้นอยู่กับฤดูการการแข่งขันอีกด้วย ตัวอย่างราคาตั๋วในฤดูกาล 2018 ที่ผ่านมา เมื่อนำมาเฉลี่ยราคาค่าตั๋วของทั้ง 30 ทีม จะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฤดูกาลเก่า ๆ เช่น เพิ่มขึ้น 55.10 % จากช่วงฤดูกาล 2011 ราคาตั๋วจะอยู่ที่ $ 49.00 และเพิ่มขึ้น 8.57 %  เนื่องจากค่าตั๋วเฉลี่ยอยู่ที่ $ 70.00 ต่อตั๋วหนึ่งใบ ในฤดูกาล 2016

3 ทีมใน Major League Baseball ที่ราคาตั๋วแพงที่สุด

                – ทีมชิคาโก คับส์ (Chicago Cubs) เป็นทีมแชมป์โลกที่มีราคาตั๋วแพงที่สุดในตลาด ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ $ 119.00 เพิ่มขึ้นจากฤดูกาล 2011 ถึง 98.33 %

                – ทีมนิวยอร์กแยงกี้ (New York Yankees) ทีมที่มีราคาตั๋วแพงเป็นอันดับสอง สถิติราคาเมื่อได้เป็นทีมเหย้าที่สนามแยงกี้เฉลี่ยอยู่ที่ $ 115.00 ต่อตั๋ว เพิ่มขึ้น 61.97% จากฤดูกาล 2011

                – แอตแลนต้า เบรฟ (Atlanta Braves) ทีมที่มีราคาตั๋วแพลงลำดับที่สาม เป็นเกมการแข่งขันที่ Sun Trust Park ในแอตแลนต้า ราคาตั๋วเฉลี่ยอยู่ที่ $ 101.00 ต่อตั๋ว เพิ่มขึ้นถึง 110.41 % ตั้งแต่ฤดูกาล 2011

2 ทีมใน Major League Baseball ที่ราคาตั๋วถูกที่สุด

                – ไมอะมี่ มาร์ลิน (Miami Marlins) เป็นการแข่งขันที่มาร์ลิน พาร์ค บ้านเกิดของทีมที่มีราคาตั๋วต่ำที่สุดในตลาด คือ  $ 55.00 ต่อตั๋ว แต่ก็นับว่าเพิ่มขึ้นจากฤดูกาล 2011 อยู่ 77.41 %

                – มินนิโซต้า ทวิน (Minnesota Twins) แข่งขันที่สนามมินนิอาโปลิส ราคาเฉลี่ยของตั๋วเข้าชมมีราคาเพียง $ 50.00 ต่อตั๋ว ในฤดูกาลปี 2018 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากฤดูกาล 2011 เพียง 6.38% เท่านั้น

ในเมื่อคุณได้รู้ถึงราคาเฉลี่ยของตั๋วคร่าว ๆ ทั้งแพงระดับท็อปจนถึงถูกแบบจับต้องได้แล้ว ถ้าอยากลองทำตามความฝันว่าสักครั้งอยากไปนั่งดูการแข่งขันเบสบอลอาชีพสักครั้งในชีวิต คุณสามารถเข้าเช็คราคาตั๋วได้ด้วยตัวเองก่อนล่วงหน้าจากเว็บไซต์ออนไลน์ที่คอยอัพเดทราคาตั๋ว รวมถึงเสนอรูปแบบการจองตั๋วที่เป็นแพ็คเกจทัวร์ให้คุณได้รับความสะดวกสบายอีกด้วย

เครดิตภาพ : https://pixabay.com/fr/photos/rangers-ballpark-baseball-1402096/

พาชมสนามแข่งเบสบอลในเมเจอร์ลีกเบสบอล (MLB)

เมื่อคนเราชอบและหลงใหลในการดูกีฬาประเภทใดประเภทหนึ่งแล้ว นอกจากผลการแข่งขันของบรรดาผู้เล่นที่เป็นสิ่งดึงดูดใจให้ผู้ชมแล้ว การได้เห็นผู้แข่งขันอยู่ในสนามกีฬาที่สร้างมุมมองที่ดีในขณะที่เกมดำเนินไปก็คือความจรรโลงใจของผู้ชมอยู่ไม่น้อย อย่างเช่น การแข่งขันกีฬาเบสบอลที่ในการแข่งขันแต่ละครั้งจะมีผู้เข้าชมในสนามนับหมื่น ๆ คน ถ้าหากได้เข้าชมในสนามที่ดี ก็จะสร้างความประทับใจในการแข่งขันอยู่ไม่น้อย

สำหรับการแข่งขันเบสบอลในเมเจอร์ลีกเบสบอล (MLB) ที่มีทีมร่วมอยู่ทั้งสิ้น 30 ทีมทั้งจากสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ทุกทีมล้วนมีสนามที่ใช้เป็นที่ฝึกซ้อมและแข่งขันประจำทีมแตกต่างกันไปว่า 30 แบบ ซึ่งแต่ละสนามก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไปตามพื้นที่ประจำถิ่นของตัวเอง จึงทำให้แต่ละที่นั้นก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกแตกต่างกันไปอีกด้วย ในวันนี้จึงอยากแนะนำสนามกีฬาที่ขึ้นชื่อว่าสวยงามที่สุดของทีมในเมเจอร์ลีกเบสบอลที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาให้คุณได้รู้จัก เผื่อว่าวันข้างหน้าคุณอยากไปเยือนด้วยตัวเองดูสักครั้ง

5 สนามแข่งเบสบอลที่สวยที่สุดในสหรัฐอเมริกา

                – PNC Park – Pittsburgh Pirates ได้ชื่อว่าเป็นสนามเบสบอลที่สวยที่สุดในประเทศ PNC Park เป็นมุมมองที่ดีที่สุดของผู้ชมมากกว่า 38,000 คน ผู้ชมจะมองเห็นเส้นขอบฟ้าของเมืองพิตต์สเบิร์ก ไปจนถึงสะพาน Roberto Clemente เปิดใช้อย่างเป็นทางการเมื่อปี 2001 สนามแห่งนี้เป็นสนามแห่งแรกที่มีพื้นที่น้องกว่าสามชั้น ทำให้เหล่าแฟนเบสบอลได้เข้าใกล้กับเกมการแข่งขันอย่างใกล้ชิด

                – SunTrust Park – Atlanta Braves เป็นสนามแห่งใหม่ของทีม Atlanta Braves ที่มีความสวยงาม ใน SunTrust Park มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่คอยให้บริการแฟน ๆ ของทีม รวมทั้งมีหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่ชื่อ The Battery มีทั้งโรงแรม ร้านอาหาร คลับ บาร์ หรือแม้กระทั่งโรงภาพยนตร์ สนามนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นงานศิลปะที่สร้างขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบเพื่อกีฬาเบสบอล

                – AT&T Park – San Francisco Giants มีสัญลักษณ์ที่เป็นขวดโค้กขนาดใหญ่ มีถุงมือเบสบอล และวิวสวยงามของอ่าวซานฟรานซิสโก มากไปกว่านั้นสิ่งที่น่าตื่นเต้นอีกอย่างคือการได้เห็นผู้คนพายเรือแคนูและเรือคายัคอยู่ใน Mc Covey Cove หรือไม่ก็พยายามไล่จับลูกบอลที่กลิ้งไปมา AT&T Park เป็นสนามเบสบอลแห่งเดียวที่สามารถเดินทางมาโดยทางเรือและมีอัฒจันทร์เพียงชั้นเดียว ทำให้แฟน ๆ คอเบสบอลได้รู้สึกใกล้ชิดผู้แข่งขันมากขึ้น

                – Petco Park – San Diego Padres สนามเบสบอลที่ตั้งอยู่ในตัวเมืองซานดิเอโก ผู้มาเยือนจะได้มองเห็นทิวทัศน์ที่สมบูรณ์ที่สุดของเมือง โดยมีอาคารสูงและตึกระฟ้าตั้งตระหง่านเหนือสนามเบสบอล ประกอบกับอากาศที่เย็นสบายในซาดิเอโกทำให้ผู้ชมต่างประทับใจเมื่อได้มาเยือน นอกจากนั้น Petco Park ยังมีโรงเบียร์หลายแห่งที่พร้อมให้บริการเบียร์และอาหารหลากหลายประเภทอีกด้วย

                – Wrigley Field – Chicago Cubs สนามเบสบอลที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ แต่ก็ได้ชื่อว่าเป็นสนามเบสบอลที่เก่าแก่ที่สุดเป็นอันดับสอง และเป็นหนึ่งสนามเบสบอลที่สวยที่สุดในประเทศ Wrigley Field เปิดให้บริการเมื่อ ค.ศ.1914 และยังคงสภาพเดิมในมีลักษณะคล้ายโรงเรียนเก่าที่มีไม้เลื้อยตามผนังด้านนอก เสน่ห์อีกอย่างก็คือแฟน ๆ สามารถดูเกมการแข่งขันจากหลังคาอพาร์ทเม้นท์ใกล้ๆ ได้อีกด้วย

คุณจะเห็นว่าสนามแข่งเบสบอลที่สวยที่สุดแต่ละสนามนั้น มีจุดเด่นของตัวเองที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่เหมือนกันก็คือความชื่นชอบในกีฬาเบสบอลของแฟน ๆ ที่ยังคงมีมากว่าร้อยปี จึงยังทำให้กีฬาชนิดนี้ได้รับความนิยมจนถึงปัจจุบัน

เครดิตภาพ : https://pixabay.com/fr/photos/pnc-park-pittsburgh-pennsylvanie-1587285/

เสนายัน นรกทีมเยือน สวรรค์นักท่องเที่ยว

สนามเกอโลราบุงการ์โน (Stadion Utama Gelora Bung Karno) หรือที่เรียกติดปากคนไทยว่าสนามเสนายัน เป็นสนามที่แฟนบอลไทยยุคหนึ่งจำได้ดีว่าเป็นสนามที่น่าขนลุกสนามหนึ่งสำหรับทีมชาติไทย นั่งเพราะความใหญ่โตขนาดความจุแฟนบอลได้มากกว่า 100,000 คน และด้วยวัฒนธรรมการเชียร์แบบสุดลิ่มทิ่มประตูของแฟนบอลอินโดนีเซีย ก็ทำเอานักฟุตบอลทีมชาติไทยในยุคนั้นที่ไปเยือนต่างยอมรับกันว่ามีขาสั่นเหมือนกัน แม้ว่าในปี 2018 จะมีการปรับปรุงสนามใส่เก้าอี้ทุกที่นั่งทำให้จำนวนที่นั่งลดลง แต่ก็ยังมากกว่า 70,000 ที่นั่งอยู่ดี ไม่ว่าใครมาเยือนก็ใช่ว่าจะรอดกลับไปได้ง่าย ๆ

แต่ถ้าไม่ได้มาไฟว้กับเจ้าถิ่น สนามแห่งนี้ก็เป็นสวรรค์ของคนชื่นชอบกีฬาได้เหมือนกัน

                ที่ตั้งของสนามเกอโลราบุงการ์โน ตั่งอยู่ในกลางเมืองจาการ์ต้าร์ และเป็นสปอร์ตคอมเพล็กขนาดใหญ่ เนื้อที่ถึง 279 เอเคอร์ ซึ่งรวมไว้ทั้งสนามกีฬาหลักและกีฬาอื่น ๆ เช่น สนามบาสเก็ตบอล สนามเทนนิส หรือว่ายน้ำ มีศูนย์ฝึกฟุตบอล ศูนย์ราชการและศูนย์ประชุม เรียกว่าครบครันและใหญ่ที่สุดในอาเซียน เกอโลราบุงการ์โนสปอร์ตคอมเพล็กจึงเป็นสถานที่หลักสำหรับการจัดการแข่งขัน และการประชุมใหญ่ ๆ ของประเทศ และในอีกมุมหนึ่งก็เป็นสวนสาธารณะ ลานออกกำลัง ของประชาชนนักท่องเที่ยวและผู้อาศัยทำงานในจากาตาร์ด้วยเช่นกัน เราจะเห็นผู้คนมาปิกนิก ปั่นจักรยาน เล่นกีฬาต่าง ๆ ทุกเย็นและสุดสัปดาห์ มีแม้กระทั่งโยคะและเต้น Sumba ด้วยนะ ซึ่งก็คล้าย ๆ กับสนามศุภ ฯ หรือสนามราชมัง ฯ ของไทยเรานั่นเอง

                ด้วยความเป็นหน้าเป็นตาของกรุงจากาต้าร์ เกอโลราบุงการ์โน จึงรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการเดินทางทั้งสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือรถประจำทาง แต่จากการเข้าพื้นที่จริงของ VWIN แนะนำว่าควรใช้รถไฟใต้ดิน เพราะกรุงจากาต้าร์ก็ขึ้นชื่อเรื่องการจราจรไม่ต่างกับกรุงเทพมหานครเลย นอกจากการมาใช้บริการสปอร์ตคอมเพล็กแล้ว รอบ ๆ พื้นที่ยังอยู่ใกล้โรงแรม ร้านอาหาร และช้อปปิ้งมอลขนาดใหญ่ถึงสามแห่ง และเดินได้ในระยะทางไม่ถึงหนึ่งกิโล

หรือถ้าใครอยากจะเข้าถึงประชาชนชาวจากาต้าร์จริง ๆ ล่ะก็ สตรีทฟู้ดของที่นี่ก็มีชื่อเสียงไม่น้อยกว่ากรุงเทพเลย เราสามารถเดินชิมได้ตามถนนตรอกซอกซอยในจากาต้าร์ได้อย่างเต็มที่ ส่วนร้านอร่อยมีร้านไหนบ้างนั้นอาจจะต้องสอบถามคนในพื้นพี่ดู

                แม้ว่าจากาต้าร์จะไม่ใช่จุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยวเมื่อพูดถึงอินโดนีเซีย แต่สำหรับนักท่องเที่ยวสายวัฒนธรรม ที่อยากไปสัมผัสคนประเทศนั้น ๆ จะไปทำธุรกิจ หรือไปเชียร์กีฬา หากต้องอยู่หลายวัน เป็นสัปดาห์ สนามเกอโลราบุงการ์โนก็เป็นสถานที่น่าสนใจแห่งหนึ่งที่น่าจะเยือนสักครั้ง อย่างน้อย ๆ การได้ไปดูสนามกีฬาใหญ่ยักษ์ติดอันดับโลกที่มีประวัติยาวนานแบบที่บ้านเราไม่มี มันก็ทำให้หัวใจพองโตได้เหมือนกัน แต่สำหรับแฟนบอลคนหนึ่งบอกตรง ๆ เลยว่าอิจฉา

ทัวร์ดูบอลดีอย่างไร เหตุใดแฟนบอลถึงควรใช้บริการ

สำหรับแฟนฟุตบอลนอกจากความใฝ่ฝันจะได้เห็นทีมรักประสบความสำเร็จแล้ว การได้ไปเยือนถึงสนามเหย้าชมเกมการแข่งขันของทีมโปรดก็เป็นอีกหนึ่งความฝันอันสูงสุดเช่นเดียวกัน แน่นอนว่าด้วยค่าครองชีพความต่างของสกุลเงินและปัญหาต่าง ๆ นานาทำให้โอกาสที่ชาวไทยอย่างเราจะพาตัวเองไปเชียร์บอลถึงต่างประเทศค่อนข้างจะเป็นเรื่องยากพอสมควร แต่อย่าเพิ่งท้อใจไปเพราะใช่ว่าฝันนั้นจะเป็นความจริงไปไม่ได้ ปัจจุบันนี้โอกาสต่าง ๆ ของคนไทยเปิดกว้างมากขึ้น โดยเฉพาะการมีทัวร์สำหรับแฟนบอลเกิดขึ้นมากมาย และการซื้อทัวร์ดูบอลก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่เข้าทีกว่าด้วยข้อดีต่าง ๆ ที่เราสรุปมาดังต่อไปนี้

ประหยัดเงิน ฟุตบอลคู่สำคัญทุกวันนี้ค่าตั๋วเข้าชมค่อนข้างแพงเลยทีเดียว เมื่อต้องบวกค่าเดินทาง ค่าที่พัก รวมทั้งค่าใช้จ่ายเกี่ยวเนื่องต่าง ๆ เข้าไปด้วย มีสิทธิ์ทะลุไปหลายแสนบาท แต่หากใช้บริการของทัวร์ดูบอลจะช่วยลดค่าใช้จ่ายไปได้มากเพราะบริษัทนำเที่ยวจะได้ส่วนลดพิเศษในฐานะที่เป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทต่าง ๆ รวมทั้งสโมสรฟุตบอล พวกเขาจึงสามารถให้บริการแก่ลูกค้าในราคาที่ถูกกว่าเดินทางไปดูเองเกือบครึ่งเลยทีเดียว

ระบบผ่อนจ่าย หนึ่งในตัวช่วยที่ทำให้ฝันของแฟนบอลเป็นจริง นั่นคือการซื้อทัวร์ระบบผ่อนจ่ายนั่นเอง การซื้อทัวร์แบบผ่อนจ่ายมีข้อดีตรงที่แฟนบอลไม่ต้องรอเก็บเงินให้ครบ เพราะบางทีการเก็บเงินอาจช้าเกินไปทำให้แฟนบอลพลาดเกมสำคัญของทีม แถมการซื้อทัวร์ยังค่อนข้างสบายใจกว่า เพราะสามารถใช้จ่ายพ็อกเก็ตมันนี่ที่มีโดยไม่ต้องเป็นกังวลจนทำให้การเที่ยวหมดสนุกนั่นเอง

โปรโมชั่น บริษัทนำเที่ยวชมฟุตบอลมีโปรโมชั่นให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นโปรโมชั่นลดราคา ดูฟุตบอลบิ๊กแมตซ์สองคู่ในราคาถูกกว่า หรือแม้แต่การซื้อทัวร์แยกที่สามารถเลือกเกมที่ต้องการไปเชียร์ได้ด้วยตัวเองแถมได้ไปชมเกมฟุตบอลแบบส่วนตัวไม่ต้องไปร่วมเดินทางกับกรุ๊ปทัวร์อย่างนี้เป็นต้น

การดูแล อีกหนึ่งข้อดีที่สุดของการซื้อทัวร์ก็คือการได้รับความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ แฟนบอลอาจมีปัญหาในด้านการสื่อสารภาษา อาจเจ็บป่วยระหว่างการเดินทาง หรือแม้กระทั่งเรื่องยุ่ง ๆ ด้านวัฒนธรรมและกฏหมาย เรื่องเหล่านี้หากแฟนบอลเดินทางไปชมฟุตบอลในต่างประเทศด้วยตัวเองอาจจะหาที่พึ่งไม่ได้เว้นเสียแต่จะมีเพื่อน คนรู้จัก หรือญาติมิตรอยู่ในต่างประเทศเท่านั้น

การท่องเที่ยว นอกจากแฟนบอลจะบรรลุจุดมุ่งหมายได้ไปเชียร์ทีมโปรดสมใจแล้วเวลาที่เหลือบริษัททัวร์ยังมีโปรแกรมพาเที่ยวชมสถานที่ต่าง ๆ อันเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมือง รวมทั้งจับจ่ายซื้อสินค้าและชิมอาหารขึ้นชื่อในท้องถิ่นนั้น ๆ ด้วย ดังนั้นการซื้อทัวร์ดูบอลจึงไม่ใช่แค่การไปชมฟุตบอลเท่านั้นแต่ยังเป็นทริปที่แฟนบอลได้ท่องเที่ยวเพื่อเติมเต็มประสบการณ์ในชีวิตอีกด้วย

สำหรับแฟนฟุตบอลที่มีความใฝ่ฝันอยากสัมผัสบรรยากาศในสนามของทีมรักสักครั้ง อยากไปร้องเพลงเชียร์ให้สุดเสียง นี่คืออีกหนึ่งช่องทางที่เราแนะนำ ส่วนจะมีบริษัทนำเที่ยวเจ้าไหนน่าสนใจ มีราคาที่เหมาะสม หรือการบริการดีเลิศอย่างไร เชื่อว่าท่านผู้อ่านคงหาข้อมูลได้ไม่ยากและไม่แน่เราอาจหยิบยกมานำเสนอในโอกาสต่อไปก็เป็นได้

MotoGP 2019 จังหวัดบุรีรัมย์ เวิร์ล อีเว้นท์ที่พูดได้เต็มปากเต็มคำว่าประสบความสำเร็จสุด ๆ

เสร็จสิ้นไปแล้วสำหรับการเป็นเจ้าภาพสนามที่ 15 ของการแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลกปีที่สองในชื่อ พีทีที ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2019 ณ สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิตที่จังหวัดบุรีรัมย์ งานนี้หัวเรือใหญ่ของงานอย่างคุณเนวิน ชิดชอบและคณะได้รับเครดิตไปเต็ม ๆ เพราะทั้งสื่อมวลชนทั่วโลก นักแข่ง รวมทั้งแฟนกีฬาต่างออกปากชมว่าอีเว้นท์ระดับโลกบนแผ่นดินเซาะกราวน่าประทับใจสุด ๆ ส่วนจะมีอะไรน่าประทับใจบ้างนั้นเราได้รวบรวมมาฝากกันดังนี้

กิจกรรมหลัก แน่นอนว่าไฮไลท์สำคัญคือการแข่งขัน PTT Thailand Grand Prix 2019 แต่นอกจากนั้นยังมีการจัดเต็มความบันเทิงแก่แฟนมอเตอร์สปอร์ตด้วยไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตจาก ช้าง มิวสิคคอนเนคชั่น ให้แฟน ๆ ได้สนุกไปกับบทเพลงของศิลปินชื่อดัง และศึกมวยไทยวิถีอีสานใต้ เติมเต็มความมันสำหรับคอกีฬา ตบท้ายด้วยรถแห่ซาวด์ซิ่งโชว์ที่เข้ามาสร้างบรรยากาศให้งานเป็น Festival อย่างสมบูรณ์

กิจกรรมรอง ภายในงานยังขนกองทัพสินค้าให้แฟน ๆ ได้เลือกช้อปอย่างจุใจไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ระลึกเกี่ยวกับการแข่งขัน สินค้าเกี่ยวกับมอเตอร์สปอร์ต ซุ้มอาหารและเครื่องดื่ม ยิ่งไปกว่านั้นเพื่อเอาใจแฟน ๆ ยังมีกิจกรรมกระทบไหล่นักแข่งระดับโลกที่เปิดโอกาสให้แฟน ๆ ได้เข้าคิวขอลายเซ็นหรือแชะภาพร่วมกับนักแข่งอีกต่างหาก

สนามแข่ง เดิมทีสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิตเป็นสนามแข่งที่ถือเป็นหน้าเป็นตาของจังหวัดบุรีรัมย์และเมืองไทยอยู่แล้ว แต่เพื่อยกระดับให้กลายเป็นสนามแข่งระดับแนวหน้าของเอเชียผู้บริหารจึงได้อัดฉีดงบประมาณปรับปรุงไซด์สแตนด์ให้มีมาตรฐาน มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อีกหนึ่งเป็นการตอบคำถามที่ว่าการลงทุนกับกีฬามอเตอร์สปอร์ตนั้นมีกำไรหรือไม่ ซึ่งนั่นเป็นคำถามที่คุณเนวินตอบด้วยประโยคเดิมมาตลอดว่าการลงทุนนี้คุ้มค่าอย่างแน่นอน

บัตรผ่านประตู นี่เป็นเรื่องเซอร์ไพรส์แฟน ๆ ไม่น้อยเพราะบัตรผ่านประตูมีสิทธิพิเศษสุดเอ็กซ์คลูซีฟอยู่ด้วย ไม่มีใครคาดคิดว่านอกจากตั๋วราคา 200 บาทนี้จะเที่ยวได้ตลอดงานทั้งชมมวยคู่เด็ดและดูคอนเสิร์ตแล้วยังสามารถนำเอาไปเป็นบัตรผ่านประตูเข้าชมการแข่งขัน PTT BRIC Superbike อีก 4 สนามได้ตลอดทั้งปี ไม่เพียงเท่านั้นยังสามารถเอาไปชม Asian เอเชีย 4 จำนวน 2 สนามได้แบบฟรี ๆ

ส่วนลด ปีนี้ผู้ชมได้ใช้สิทธิประโยชน์เต็ม ๆ ไม่ว่าจะโชว์บัตร Chang International Circuit Friend Club โชว์กุญแจรถจักรยานยนต์ฮอนด้าและยามาฮ่า รวมทั้งลูกค้าที่มีบัตรเดบิตของ SCB สามารถนำไปเป็นส่วนลดค่าเข้าชมการแข่งขัน PTT Thailand Grand Prix 2019 ได้ถึง 20% ยิ่งไปกว่านั้นลูกค้าที่ครอบครอง PTT blue card ได้สิทธิพิเศษกว่าใครเพื่อนสามารถนำไปเป็นส่วนลดได้ถึง 25% เลยทีเดียว

PTT Thailand Grand Prix 2019 จัดขึ้นในวันที่ 4-6 ตุลาคม พ.ศ.2562 ที่ผ่านมา สำหรับผู้ไม่ได้ไปชมในปีนี้ไม่ต้องเสียดายเพราะกิจกรรมกีฬาดี ๆ แบบนี้ในอนาคตยังคงมีการสานต่อความสำเร็จอย่างแน่นอน ส่วนใครที่อยากไปลองสัมผัสบรรยากาศสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ก็สามารถไปเยี่ยมชมกันได้ตลอดทั้งปีเพราะยังมีกีฬาท้าความเร็วรายการอื่น ๆ ให้ชมอย่างไม่ขาดสายสมกับอีกฉายาของจังหวัดบุรีรัมย์ที่ว่า “แลนด์มาร์คกีฬาของเมืองไทย”

5 บริษัททัวร์ดูบอลที่ดีที่สุดในเมืองไทย

ทศวรรษที่ผ่านมากระแสบอลนอกในประเทศไทยเราเรียกได้ว่าบูมสุด ๆ ไม่ว่าจะเป็นสื่อฟุตบอล ช่องโทรทัศน์เกี่ยวกับกีฬา หรือแม้แต่บริษัทนำเที่ยวชมฟุตบอลล้วนถือกำเนิดขึ้นมากมาย สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้เกิดขึ้นเพื่อรองรับความต้องการของแฟนบอลผู้คลั่งไคล้เกมลูกหนังเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะทัวร์ดูบอลที่เป็นเหมือนบริการเติมเต็มความฝันของเหล่าแฟนบอลชาวไทยนั้นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และสำหรับคอบอลหน้าใหม่หรือผู้ยังไม่เคยใช้บริการบริษัทนำเที่ยวประเภทนี้อาจจะยังลังเลเพราะเลือกไม่ถูกว่าควรซื้อทัวร์ของบริษัทไหนดี วันนี้เราจึงจะมาคลายข้อสงสัยต่าง ๆ ด้วยการแนะนำ 5 บริษัททัวร์ดูบอลที่ดีที่สุดของเมืองไทย

Real Fan Travel&Sport บริษัททัวร์ดูบอลน้องใหม่ที่มาแรงสุด ๆ ด้วยราคาแบบเย้ายวนใจ Real Fan Travel&Sport จะเน้นไปที่ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษและส่วนมากจะเป็นคู่บิ๊กแมตซ์ของฤดูกาลทั้งสิ้น ซึ่งถึงแม้จะเปิดให้บริการได้ไม่นานนักแต่ก็นับเป็นบริษัทที่มีมาตรฐานสูงและถูกพูดถึงในหมู่แฟนบอลมากพอสมควรทีเดียว พิเศษยิ่งกว่าเจ้าอื่นคือฤดูกาล 2019-2020 นี้หากซื้อทัวร์กับ Real Fan Travel&Sport มีสิทธิ์ได้ร่วมคณะไปกับคอลัมนิสต์กีฬาชื่อดังและคนมีชื่อเสียงในวงการกีฬาของเมืองไทยด้วยเพราะบริษัทเป็นผู้สนับสนุนสื่อกีฬายักษ์ใหญ่ในประเทศนั่นเอง

Nexttour ทัวร์ดูฟุตบอลมาตรฐานสูงอีกเจ้าในเมืองไทย Nexttour มีจุดแข็งตรงที่คัดสรรโปรแกรมชมฟุตบอลมาเอาใจแฟนบอลได้อย่างหลากหลายไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลพรีเมียร์ลีกของอังกฤษ บิ๊กแมตซ์เอล กลาซิโกในสเปน รวมทั้งเกมยูฟ่า แชมป์เปี้ยนส์ลีกด้วย นอกจากนี้ยังมีแพ็คเกจสุดคุ้มอย่างชมฟุตบอลเกมใหญ่สองคู่หรือ Double Match ในราคาที่ถูกกว่าอีกต่างหาก

eTravelWay แฟนบอลหลายคนโดยเฉพาะแฟนบอลยุค 90 ตาลุกวาวแน่ ๆ เมื่อเห็นโปรแกรมการท่องเที่ยวของทัวร์เจ้านี้ เนื่องจากโปรแกรมของ eTravelWay ไม่ได้มีเพียงการชมฟุตบอล ช้อปปิ้ง และเที่ยวชมสถานที่สำคัญเท่านั้นแต่ยังพาทัวร์สนามฟุตบอลของทีมต่าง ๆ ทั้งสนามชื่อดังของบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ในพรีเมียร์ลีกหรือแม้กระทั่งสนามของทีมเก่าแก่ในโลกฟุตบอลอย่างน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์, ลีดส์ ยูไนเต็ด และแอสตัน วิลล่า เป็นต้น

thananuntravel แม้ทัวร์เจ้านี้จะมีโปรแกรมทัวร์ชมฟุตบอลให้เลือกไม่มากนักและทั้งหมดเป็นโปรแกรมของทีมหงส์แดงล้วน ๆ แต่ต้องบอกว่าบริการเสริมของเขาน่าสนใจจริง ๆ เพราะมีการจำหน่ายตั๋วชมฟุตบอลต่างประเทศครบทุกลีกใหญ่ทุกเกมการแข่งขันสำหรับแฟนบอลที่ต้องการเดินทางไปชมฟุตบอลด้วยตัวเองไม่ว่าจะเป็นพรีเมียร์ลีก, ลา ลีก้า, กัลโช่ เซเรีย อา และบุนเดสลีก้า ทั้งนี้ลูกค้ายังสามารถเลือกที่นั่งได้เองอย่างอิสระอีกด้วย

siamsport ทัวร์เฉพาะกิจของสื่อกีฬาชั้นแนวหน้าของเมืองไทยเปิดบริการไม่บ่อยนัก ทว่าเป็นกิจกรรมสุดเอ็กซ์คลูซีฟทีเดียวเพราะแฟนบอลจะได้ร่วมคณะและได้รับการเทคแคร์จากผู้สื่อข่าวรวมถึงคอลัมนิสต์ชื่อดังของเมืองไทยไม่ว่าจะเป็น แจ็คกี้ อดิสรณ์ พึ่งยา, บอ.บู๋, ลิตเติ้ลโจ และไก่ป่า ที่แฟนบอลคุ้นเคยจากผลงานกันเป็นอย่างดี

การท่องเที่ยวชมฟุตบอลในต่างประเทศทุกวันนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไปแล้ว ทั้งการซื้อโปรแกรมท่องเที่ยวตามที่เราแนะนำหรือเดินทางไปเชียร์ด้วยตัวเองก็ตาม เพราะยุคนี้โอกาสเปิดกว้างมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นข้อมูลต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ต เที่ยวบินตรงสู่ประเทศปลายทาง หรือคอมมูนิตี้คนไทยในต่างแดน ดังนั้นการไปเชียร์ทีมโปรดถึงขอบสนามจึงไม่ใช่แค่ความฝันเพราะไม่ว่าใครก็ให้ของขวัญชิ้นนี้กับตัวเองได้ ของขวัญที่ไม่ใช่แค่สนองความต้องการแต่เป็นสิ่งเติมเต็มความภาคภูมิใจและเป็นการแสดงออกถึงความผูกพันธ์ที่ทุกคนมีต่อสโมสรอันเป็นที่รัก