One Day Gourmet Trip ตะลุยชิม! ร้านอาหารนานาชาติ ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ศูนย์กลางการเดินทางโดยระบบขนส่งมวลชน การเดินทางมาย่านนี้มีหลากหลายวิธี ทำให้แต่ละวันมีผู้คนจำนวนมากมากแวะเวียนเติมความอร่อย โดยร้านที่เรานำเสนอเป็นร้านที่เหมาะกับการตะลุยชิมตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป เนื่องจากแต่ละร้านมีเมนูที่น่ารับประทานหลากหลายเมนู

 

  • เต็มอิ่มมื้อเช้าที่ร้านอาหารญี่ปุ่นInari – เปิดบริการ 09.00-23.00

การเดินทาง : รถเมล์หรือรถไฟฟ้า BTS ลงที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ จากนั้นเดินบน sky walk เพื่อลงเกาะดินแดง หรือถ้าขับรถมาแนะนำให้จอดที่เซ็นเตอร์วัน แล้วเดินข้ามฝั่ง ร้านจะอยู่ติดกับธนาคารไทยพาณิชย์

ร้านนี้บรรยากาศดี สะอาดสะอ้าน ราคาน่ารักเมื่อเทียบกับคุณภาพ อาหารที่อยากแนะนำ คือ แซลมอนซาซิมิ ยำแซลมอน ข้าวไก่ย่างเทอริยากิ ข้าวหน้าเนื้อย่าง เทมปุระ สำหรับเครื่องดื่มที่อยากให้ลอง (ถ้าไม่กลัวอ้วน) คือ ช็อกโกแลตชีส ที่มีรสชาติหวานมันเข้มข้น มื้อนี้อิ่มได้ในราคาประมาณ 250 บาท

 

  • อิ่มอร่อยมื้อเที่ยงที่ร้านอาหารเวียดนามMadame Ong – เปิดบริการ 11.00 – 21.00 .

การเดินทาง : รถเมล์หรือรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีอนุสาวรีย์ชัย จากนั้นเดินเข้าถนนรางน้ำ หรือใช้บริการรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างสาธารณะ ร้านนี้จะอยู่ชั้นล่างของอาคารวีพี ทาวเวอร์ (เกือบท้ายซอยชวกุล)

ลักษณะร้านจะเป็นห้องกระจก มีแอร์  อาหารที่นี่สด อร่อย และมีคุณภาพ ที่สำคัญคือราคาไม่แพง เฉลี่ยจานละ 70 -200 บาท แล้วแต่ปริมาณว่าจานเล็กหรือจานใหญ่ เมนูที่ร้านมีหลากหลาย อาทิ แหนมเนือง พิซซ่าเวียดนาม ก๋วยจั๊บญวณ ปากหม้อญวน แหนมซี่โครงหมูทอด ปิดท้ายด้วยของหวาน ทั้งขนมหวานเป็นถ้วย ไอศกรีมหลากรส ที่อยากให้ลองคือกล้วยหอมทอดแสนอร่อย

 

  • ชิล ๆ มื้อเย็นที่ร้านอาหารอินเดียเนปาลEverest – เปิดบริการ 11.00 – 23.00 .

การเดินทาง : รถเมล์หรือรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีอนุสาวรีย์ชัย ต่อด้วยรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างสาธารณะ หรือกรณีขับรถมาสามารถจอดที่ห้างเซ็นจูรี่ เดอะ มูฟวี่พลาซ่า หรือห้างเซนเตอร์วัน และใช้บริการรถรับจ้างสาธารณะเพื่อมาที่ร้าน ซึ่งจะอยู่ติดกับทางเข้าคอนโด เดอะ คอมพลีท ตรงข้ามซอยราชปรารภ 20

เชฟที่นี่เป็นชาวเนปาลแท้ ๆ พนักงานที่ร้านมีคนพูดภาษาไทยได้คนเดียว ต้องใช้ความสามารถด้านภาษาอังกฤษนิดหน่อยในการสั่งอาหาร เมนูที่อยากแนะนำคืออาหารจำพวกแกง ทั้งแกงไก่ แกงแพะ แกงปลา ที่เรียกกันว่า Masara ทานคู่กับ แผ่นนาน นานชีส หรือ นานกระเทียม (นาน คือแผ่นแป้งที่นำไปปิ้งจนได้ที่มีความกรอบนอกนุ่มใน) ข้าวหมกที่นี่ก็รสชาติดี เมนูทานเล่นก็ใช้ได้ ทานกันเต็มที่ อิ่มพุงกางงบประมาณคนละ 300 – 500 บาท (ไม่รวมเครื่องดื่ม)

 

  • ส่งท้ายมื้อค่ำที่ร้านอาหารเกาหลีSupia – เปิดบริการ 11.00-22.00

การเดินทาง : รถเมล์หรือรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีอนุสาวรีย์ชัย  จากนั้นเดินบน sky walk เพื่อมาลงเกาะดินแดง หากขับรถมาแนะนำให้จอดที่เซ็นเตอร์วัน และเดินข้ามฝั่ง โดยร้านปิ้งย่างเกาหลีสุเพียร์นี้ จะอยู่แถวซอยราชวิถี 6

เจ้าของร้านเป็นชาวเกาหลีแท้ ๆ จึงไม่ต้องห่วงเรื่องรสชาติ ที่นี่มีทั้งสั่งแยกเป็นจานและบุฟเฟต์ บุฟเฟต์ต้องทาน 2 คนขึ้นไป ผู้ใหญ่สนนราคา 299 บาท เด็ก 199 บาท (ไม่รวมเครื่องดื่ม) มีเนื้อหมูให้เลือก 5 แบบ คือ แทจีโกชูจัง หมูพลูโกกิ เทจีไคบิ ซัมยอกซา และโกชูจัง ซัมยอกซา เนื้อประเภทอื่น ๆ สามารถสั่งแยกได้ ส่วนเครื่องเคียงผัก ที่นี่เค้าจัดเต็มให้ คุ้มค่าคุ้มราคาจริง ๆ

 

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 4 ร้านใจกลางเมือง ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ที่อยากให้คุณได้ลองลิ้มชิมรส การเดินทางอาจจะไม่ได้สะดวกสบายเหมือนไปรับประทานอาหารในห้าง แต่ก็ไม่ได้ลำบาก เพราะทั้ง 4 ร้านนี้อยู่ในย่านที่มีระบบรถสาธารณะให้เลือกใช้บริการหลากหลายอีกด้วย

 

Le Negresco โรงแรมหรูระดับตำนานริมชายฝั่งเฟรนช์ ริเวียร่า

โรงแรม Le Negresco อาคารที่มีความโดดเด่นด้วยโดมสีชมพู ตั้งอยู่หัวมุมถนนริมชายฝั่ง เฟรนช์ ริเวียร่า เมืองนีซ แคว้นโปร์วองซ์ ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส (ระหว่างเมืองคานส์กับโมร็อคโค) สถานที่งดงามแห่งนี้มีอายุมากกว่า 100 ปีแล้ว และเป็นโรงแรมเก่าแก่ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของเมืองนีซ คุณมักจะเห็นได้ทั่วไปทั้งในโปสการ์ด และของที่ระลึกต่าง ๆ เช่น แม่เหล็กติดตู้เย็น กระเป๋า ฯลฯ ตั้งแต่ที่คุณได้ย่างก้าวเข้าสู่เมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งนี้

อีกทั้งที่นี่ยังเป็นที่นิยมของเหล่าราชวงศ์ชั้นสูง เศรษฐี นักการเมือง และผู้มีชื่อเสียง มาอย่างยาวนานอีกด้วย ความพิเศษและน่าสนใจของโรงแรมแห่งนี้นั้นมีมากมายหลายอย่าง จึงอยากบอกเล่าจากประสบการณ์ที่ได้พบเห็น เมื่อครั้งที่เคยได้มีโอกาสเข้าพัก

 

  • เสมือนเข้าพักในพิพิธภัณฑ์ศิลปะตั้งแต่แรกเริ่มที่ก้าวเข้าสู่โรงแรม คุณจะได้พบกับงานศิลปะล้ำค่าหายากหลายชิ้นจากทั่วทุกมุมโลก ที่ประดับตกแต่งตามมุมต่าง ๆ จากหลากหลายศิลปิน ในหลายยุคสมัย เมื่อเดินตรงเข้าไป ผ่านลิฟท์แบบโบราณที่อยู่ทางซ้ายมือ คุณจะได้พบกับห้องโถงใหญ่ มีหลังคาเป็นโดมกระจกสีสันและลวดลายงดงาม ตรงกลางโดมแขวนโคมไฟระย้าอลังการที่ได้รับพระราชทานจากพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2  ซึ่งในส่วนของห้องโถงนี้ ทางโรงแรมได้นำศิลปะยุคใหม่มาหมุนเวียนจัดแสดง ผู้เข้าพักสามารถใช้เวลาดื่มด่ำไปกับการเดินดูงานศิลปะตั้งแต่ชั้นล่างสุดจนถึงชั้นห้องพัก ซึ่งในระหว่างโถงทางเดินแต่ละชั้น จะมีงานศิลปะระดับมาสเตอร์พีซให้ดูอย่างเพลิดเพลิน

 

  • ราวกับพำนักในพระราชวังห้องพักทั้งหมดถูกตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์พิเศษ ที่สื่อถึงความรุ่งเรืองของศิลปะยุคคลาสสิก-บาร็อคในฝรั่งเศส  ห้องพักแบบธรรมดาที่นี่มี 96 ห้อง และห้องสูท 21 ห้อง มีทั้งห้องพักวิวสวนและวิวทะเล สิ่งที่โดดเด่นและน่าสนใจมาก ๆ คือ ทุกห้องจะมีการตกแต่งที่เป็นลักษณะเฉพาะตัว อย่างเช่นห้องพักที่ผู้เขียนเข้าพักอยู่ที่ชั้น 5 ฝั่งวิวทะเล จะถูกตกแต่งด้วยโทนสีเขียว-ชมพู กลางห้องเป็นเตียงโบราณที่ถูกประดับตกแต่งหัวเตียงด้วยผ้าม่านมีชายระย้างดงาม ส่วนห้องของเพื่อนผู้เขียนจะอยู่ถัดไปและมีประตูเชื่อมถึงกัน (สามารถให้พนักงานมาทำการปลดล็อคให้ได้) ในห้องนั้นจะเป็นโทนสีขาว-ฟ้า และมีเตียงโบราณประดับม่านเช่นกัน ทั้งสองห้องใช้เฟอร์นิเจอร์หลุยส์ซึ่งถูกจัดวางอย่างลงตัว มีโต๊ะจิบชาข้างระเบียงเล็ก ๆ ให้สามารถออกไปชื่นชมบรรยากาศของอ่าวและชายหาดเฟรนช์ ริเวียร่า

 

  • รับประทานอาหารในเทพนิยายภัตตาคาร La Rotonde Brassserie สำหรับให้ผู้เข้าพักรับประทานอาหารเช้า จะถูกตกแต่งในธีมม้าหมุน สีสันสดใส และจะดูสวยงามยิ่งขึ้นเมื่อกระทบกับแสงแดด อย่าพลาดที่จะตื่นขึ้นมารับประทานอาหารเช้าที่นี่ ก่อนที่จะออกไปเดินย่อยในสวนสวยของโรงแรม

 

หากใครได้มีโอกาสมาเที่ยวเมืองนีซ อยากให้ลองมาสัมผัสความงดงามของโรงแรมแห่งนี้ โดยเฉพาะผู้ที่หลงใหลในงานศิลปะ รับรองว่าคุณจะได้เสพงานศิลปะในทุกส่วนของโรงแรมอย่างแน่นอน

 

เคล็ดลับเล็ก ๆ ที่ทำแล้ว “ดีต่อใจ” เมื่อไปต่างแดน

การเดินทางท่องเที่ยวในแต่ละครั้ง นอกจากจะเตรียมทริปการเดินทาง เสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว ยารักษาโรค และเอกสารต่าง ๆ แล้ว ยังมีเคล็ดลับเล็ก ๆ ที่เคยทำแล้วพบว่า “ดีต่อใจ” มาแนะนำนักเดินทางมือใหม่ให้ลองนำไปปรับใช้ตามสะดวก

 

  • ทำตัวเป็นเพื่อนร่วมทริปที่ดีในการไปเที่ยวเป็นหมู่คณะ ต้องคำนึงถึงส่วนรวมเป็นหลัก ในการเตรียมตัวท่องเที่ยวแต่ละวัน คงไม่มีใครอยากจะมารอคุณแต่งตัวเป็นแน่ โดยเฉพาะการไปแบบทัวร์ที่ต้องเดินทางร่วมกับคนที่เราไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว ทั้งยังมีเวลาแน่นอนในการออกเดินทาง คุณสามารถประหยัดเวลาในการแต่งตัว ด้วยการแบ่งเสื้อผ้าที่ใช้แต่ละวันแยกเป็นชุด ๆ ในถุงซิปล็อกใบใหญ่ ส่วนเสื้อผ้าที่สามารถใช้ซ้ำกันได้ในแต่ละวัน เช่น เสื้อคลุม เสื้อโค้ท ควรแยกไว้นอกถุงเพื่อหยิบใช้ได้สะดวก

 

  • ส่งโปสการ์ดให้ตัวเองและคนที่คิดถึงการส่งโปสการ์ดนั้นง่ายและประหยัด ทั้งยังเป็นสิ่งที่สามารถส่งต่อความรู้สึกดี ๆ และส่งความคิดถึงเมื่อต้องห่างไกล แนะนำให้เลือกโปสการ์ดที่มีภาพสถานที่สวยงาม หรือมีภาพศิลปะท้องถิ่น ผู้ได้รับจะรู้สึกถึงคุณค่าและอยากเก็บไว้ แต่ที่ลืมไม่ได้เลยคือส่งให้ตัวคุณเองโดยบันทึกความรู้สึกดี ๆ ในทริปเดินทางลงไปด้วย เมื่อไหร่ที่คุณเหน็ดเหนื่อย ลองหยิบมาอ่านอีกครั้งจะทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่าเมื่อนึกถึงความรู้สึกดี ๆ ในการได้ออกเดินทาง

 

  • พกของที่ระลึกเล็ก ๆ น้อย ๆ จากเมืองไทยงานหัตถกรรมทำด้วยมือในบ้านเรา อาจจะเป็นพวงกุญแจ กระเป๋าใส่เหรียญ เลือกที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา สัก 5-10 ชิ้น สำหรับพกติดตัวใส่ไว้ในกระเป๋าสะพาย เมื่อพบมิตรภาพดี ๆ ในระหว่างการเดินทาง ทั้งคนที่ช่วยเหลือหรือคนที่ดีกับคุณ คุณสามารถหยิบยื่นของที่ระลึกตอบแทนพวกเขาได้ และแน่นอนว่าหากพวกเขาทำงานในสายงานบริการ มีหน้าที่บริการให้กับคุณ คุณจะได้รับการบริการที่น่าประทับใจเป็นการตอบแทน

 

  • เก็บของที่ระลึกฟรีจากสถานที่ท่องเที่ยวคุณสามารถเก็บโปสการ์ดแจกฟรี เอกสารแจกฟรี โบรชัวร์แจกฟรี ได้ตามจุดบริการข้อมูลนักท่องเที่ยวหรือตามสถานที่ท่องเที่ยว โดยมากเอกสารแจกฟรีพวกนี้จะเป็นเอกสารโฆษณาประชาสัมพันธ์ ให้ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวและร้านค้าต่าง ๆ และหลายชิ้นมักมีการออกแบบที่สวยงาม สามารถเก็บไว้เป็นที่ระลึก หรือสามารถใช้เป็นข้อมูลแนะนำผู้อื่นต่อไปได้

นี่เป็นเพียงคำแนะนำเล็ก ๆ น้อย ๆ ยังมีอีกหลายอย่างที่คุณจะสามารถค้นพบได้ด้วยตัวเองเมื่อมีประสบการณ์ในการเดินทางที่เพิ่มขึ้น หวังว่าคำแนะนำเหล่านี้จะมีประโยชน์ในการเดินทางครั้งต่อไป

 

ใคร ๆ ก็ไปไอซ์แลนด์ ว่าแต่…จะไปช่วงไหนดีนะ?

5 ปีที่ผ่านมานี้ ประเทศไอซ์แลนด์เริ่มเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยที่หลงรักการเดินทางท่องเที่ยวสายธรรมชาติ เพราะธรรมชาติของไอซ์แลนด์นั้นมีเสน่ห์แตกต่างจากที่อื่น ๆ ในโลก แต่จะเลือกไปเที่ยวในช่วงฤดูไหนดี เรามาลองดูเสน่ห์ของไอซ์แลนด์ในแต่ละช่วงกันดีกว่า

  • ฤดูร้อน(มิถุนายนสิงหาคม เป็นช่วงที่คึกคักที่สุด และแน่นอนว่าเป็นช่วงที่ค่าครองชีพสูงสุดเช่นกัน เสน่ห์ของฤดูนี้คือพระอาทิตย์เที่ยงคืน โดยพระอาทิตย์จะตกช่วงห้าทุ่ม และยังไม่ทันมืดสนิทดีในช่วงตีสอง พระอาทิตย์ดวงเดิมก็จะขึ้นมาอีกครั้ง จึงสามารถท่องเที่ยวได้แทบจะ 24 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าคุ้มค่ากับการท่องเที่ยว สำหรับสภาพอากาศตอนกลางวันอุณหภูมิราว ๆ 24 องศาเซลเซียส คุณจะได้พบกับความเขียวชอุ่มของพืชพันธุ์คลุมดิน ทั้งต้นหญ้าและดอกไม้หลากสีสัน ส่วนต้นไม้ใหญ่ในประเทศพบได้ไม่มากนัก เนื่องจากสภาพดินเป็นดินภูเขาไฟเสียส่วนมาก ในช่วงนี้ถนนทุกสายจะเปิดรับผู้มาเยือน นักท่องเที่ยวสายผจญภัยมักจะนิยมเช่ารถ 4×4 เพื่อมุ่งหน้าสู่ใจกลางเกาะ ที่ซึ่งมีธรรมชาติสวยงามแปลกตาซ่อนอยู่

 

  • ฤดูใบไม้ร่วง(กันยายนพฤศจิกายน) เสน่ห์ของฤดูนี้อยู่ที่ความคุ้มค่าของงบประมาณในการท่องเที่ยว เพราะเป็นช่วงที่อากาศเริ่มหนาวและแห้ง ถ้ามาเที่ยวช่วงต้นฤดู คุณจะยังได้เห็นหญ้าสีเขียวที่หลงเหลือจากฤดูร้อน จากนั้นหญ้าเริ่มค่อย ๆ ทยอยเปลี่ยนจากสีเขียวสดเป็นสีเหลือง สภาพอากาศตอนกลางวันอุณหภูมิราว 12 องศาเซลเซียส พบได้ทั้งลมและฝน แต่เนื่องจากมีช่วงกลางคืนที่ยาวนานขึ้น  ถ้าโชคดีในวันฟ้าเปิดคุณอาจจะมีโอกาสได้พบกับแสงเหนือที่พาดผ่านบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ในช่วงนี้ถนนบางสายจะไม่ให้ผ่าน เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว แต่สถานที่ท่องเที่ยวเด่น ๆ บนถนนสายหลักรอบเกาะยังคงสามารถเที่ยวได้ปกติ

 

  • ฤดูหนาว(ธันวาคมมีนาคม) ช่วงนี้นักท่องเที่ยวจะลดน้อยลง เนื่องจากสภาพอากาศในช่วงนี้ไม่ค่อยดีนัก มีโอกาสเกิดพายุหิมะที่ทำให้คุณต้องซุกตัวอยู่แต่ในที่พัก จึงควรเผื่อเวลาท่องเที่ยวไว้หลาย ๆ วัน  ช่วงเวลากลางวันจะเหลือเพียง 5 ชั่วโมงโดยประมาณ เพราะฉะนั้นต้องอาศัยความระมัดระวังเป็นอย่างมากในการท่องเที่ยวท่ามกลางทัศนวิสัยที่ไม่ดีนัก แต่เมื่อใดที่ฟ้าสว่าง คุณจะได้พบกับทัศนียภาพอันงดงามของหิมะสีขาวที่ตัดกับถนนสีดำ เสน่ห์ของฤดูนี้ คือ โอกาสที่จะได้ท่องเที่ยว ได้ทำกิจกรรมในสถานที่ต่าง ๆ ที่ฤดูอื่นไม่มี อาทิ เดินชมถ้ำน้ำแข็ง เดินสำรวจธารน้ำแข็ง (กับผู้เชี่ยวชาญ) เล่นกีฬาฤดูหนาว และทำกิจกรรมที่นิยมทำกันเป็นอย่างมากคือการออก “ล่าแสงเหนือ” ซึ่งคุณต้องขับรถออกตามหาจุดที่ฟ้าปลอดโปร่ง จึงจะมีโอกาสได้เห็น

 

  • ฤดูใบไม้ผลิ(เมษายนพฤษภาคม) หลังจากฤดูหนาวอันแสนน่าเบื่อสำหรับชาวไอซ์แลนด์จบลง ช่วงนี้ความมีชีวิตชีวาเริ่มกลับมา น้ำแข็งเริ่มละลายกลายเป็นน้ำตกและลำธาร หญ้าเริ่มกลายเป็นสีเขียว ดอกไม้ป่าเริ่มผลิบาน อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 9 องศาเซลเซียส และยังคงสามารถทำกิจกรรมล่าแสงเหนือได้บ้าง เสน่ห์ของฤดูนี้คือการชมวาฬ และนกพัฟฟินที่เพิ่งอพยพกลับมาอาศัยอยู่ตามหน้าผาเพื่อทำรังเตรียมต้อนรับฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึงการท่องเที่ยวในประเทศไอซ์แลนด์ หลัก ๆ คือการขับรถออกนอกเมืองไปตามถนนสายที่ 1 รอบเกาะ ซึ่งจะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้แวะชมในระหว่างทาง หากเราเตรียมตัวหาข้อมูลไว้ล่วงหน้าจะทำให้สามารถจัดทริปท่องเที่ยวได้อย่างเหมาะสม และได้พบกับประสบการณ์ที่น่าประทับใจ

 

ดื่มด่ำกับบรรยากาศแห่งความสุขที่ “ตลาดคริสต์มาส” ในยุโรป

เทศกาลคริสต์มาส เป็นเทศกาลแห่งความสุข ที่เหล่าคริสต์ศาสนิกชนและผู้คนนับล้านรอคอยที่จะเฉลิมฉลอง ภาพแห่งความสุขที่แวดล้อมด้วยคนรักและครอบครัว บรรยากาศที่สวยงามอบอุ่นหัวใจ มีทั้งหิมะโปรยปราย ไฟประดับประดาสวยงาม มื้อค่ำพร้อมหน้าพร้อมตา ต้นคริสต์มาส และของขวัญ

สิ่งเหล่านี้คือสิงที่พวกเราคุ้นชินจากการชมภาพยนตร์ต่างประเทศ แต่ยังมีอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ค่อยจะมีโอกาสได้เห็นผ่านภาพยนตร์ นั่นก็คือ “ตลาดคริสต์มาส” แหล่งซื้อ-ขายความสุข ที่จะมีแต่เฉพาะในช่วงเทศกาลคริสมาสเท่านั้น

  • บรรยากาศแห่ง ความสุข เมื่อได้ไปยืนท่ามกลางตลาดคริสต์มาส และหันมองไปรอบตัว ทั้งไฟที่ประดับประดาตกแต่ง มุมถ่ายรูปสวย ๆ เสียงเพลง เสียงหัวเราะของคนรอบข้าง จะไม่ทำให้รู้สึกเหงาสักวินาที รับรองว่าแค่ยืนนิ่ง ๆ ก็สามารถที่จะรับรู้ถึงพลังแห่งความสุขได้ เสมือนได้ชาร์จพลังบวกหลังจากที่ทำงานเคร่งเครียดเหน็ดเหนื่อยกันมาทั้งปี
  • เพลิดเพลินกับการ ช็อปปิ้ง เพราะที่นี่คือแหล่งรวมของขวัญ ของตกแต่ง ของฝาก ของที่ระลึก ซึ่งโดยมากเป็นของทำมือหายากและเป็นเอกลักษณ์จากคนในท้องถิ่น ตลาดคริสต์มาสในแต่ละที่จะมีสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไป คุณสามารถหาของฝากที่ถูกใจผู้รับได้ที่นี่ และไม่แน่ว่าสิ่งที่คุณต้องตาต้องใจจนอดไม่ได้ที่จะซื้อ อาจจะมีเพียงชิ้นเดียวในโลกก็ได้
  • อาหารหลากหลาย เลิศรส อีกหนึ่งไฮไลต์ของตลาดคริสต์มาส คือ อาหารและเครื่องดื่มแสนอร่อย ที่เป็นเอกลักษณ์และถูกคัดสรรมาแล้วจากคนในท้องถิ่น ที่สำคัญคือมีให้เลือกลิ้มชิมรสอย่างหลากหลายในราคาที่รับได้ เมื่อซื้อเสร็จแล้วจะนั่งรับประทานในร้าน หรือหามุมยืนรับประทานชมบรรยากาศแบบเพลิน ๆ ก็ไม่มีใครว่า เพียงแต่เมื่อทานเสร็จแล้วก็อย่าลืมจัดการเก็บและทิ้งให้เรียร้อย ตามธรรมเนียมปฏิบัติของผู้มาเยือนที่ดี
  • กิจกรรมและความบันเทิง ตลาดคริสต์มาสในแต่ละที่ จะมีกิจกรรมและความบันเทิงที่แตกต่างกันออกไป ตามปริมาณผู้คนและขนาดของสถานที่จัดงาน ตลาดคริสต์มาสหลายแห่งที่ถูกจัดขึ้นในลานกว้างใจกลางเมืองมักจะมีเครื่องเล่นต่าง ๆ หรือลานสเก็ตน้ำแข็งกลางแจ้งให้ได้โลดแล่นโชว์ลีลาที่พริ้วไหว บ้างก็มีขบวนพาเหรด คอนเสิร์ตที่คอยสร้างบรรยากาศให้คึกคักเป็นกันเอง การแสดงดนตรีโชว์เสียงอันไพเราะของนักร้องประสานเสียง งานศิลปะ อาทิ ประติมากรรมน้ำแข็ง ให้ได้เดินชมอย่างเพลิดเพลิน

ใครที่กำลังจัดทริปท่องเที่ยวยุโรปในช่วงปลายปี ถ้ามีโอกาสไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เพราะที่ยุโรปนั้นมีตลาดคริสต์มาสที่มีชื่อเสียงและสวยงามมากมายหลายแห่ง ลองจัดสรรเวลาไปเยือน “ตลาดคริสต์มาส” ดูสักครั้ง รับรองว่าจะได้รับความประทับใจอย่างแน่นอน

 

เที่ยวอุทยานแห่งชาติใครว่าจะไปแต่ป่า….เกาะกลางน้ำทะเลสีฟ้าก็มีนะเธอ

เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ หรือเขตอนุรักษ์ฯหลายคนคงนึกถึงการเที่ยวตามป่าเขา ลำเนาไพร หรือไม่ก็น้ำตก หากแต่จริง ๆ แล้วเขตอนุรักษ์ทางธรรมชาติ เกาะก็เป็นหนึ่งในนั้น ส่งผลให้ระบบนิเวศของเกาะยังคงไว้ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ที่สวยงาม ธรรมชาติที่มีความเกี่ยวข้องกับระบบนิเวศเกาะยังคงสมดุล และดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็น โดยเกาะบางแห่งที่อยู่ในการดูแลของอุทยานแห่งชาติหรือเขตอนุรักษ์ฯ จะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์หรือสัญญาณอินเตอร์เน็ต ซึ่งนั่นเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่น่าหลงใหลของหมู่นักท่องเที่ยว ที่ต้องการพาร่างกายมารับกลิ่นอายธรรมชาติของเกาะกลางทะเลอย่างแท้จริง เกาะที่น่าสนใจเหล่านี้มีไม่น้อย อาทิ

เกาะตาชัย

เกาะตาชัยเป็นส่วนหนึ่งในหมู่เกาะสิมิลัน หรืออุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน บนเกาะจะเป็นธรรมชาติมาก ๆ ไม่มีโรงแรม ไม่มีของขาย และไม่สัญญาณโทรศัพท์มือถือ เพราะฉะนั้นทุกคนที่มาเที่ยวต้องมาแบบเช้าไปเย็นกลับ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกาะตาชัยยังคงอุดมสมบูรณ์มากทั้งน้ำทะเลสีฟ้าใสราวกับกระจก มีคลื่นขนาดย่อมซัดเข้าสู่ฝั่งที่เป็นหาดทรายสีขาวสว่างเนื้อเนียนละเอียด ยาวจรดป่าที่เขียวชอุ่มตามแนวชายหาดและภูเขา บริเวณแนวชายหาดมีกลุ่มโขดหินน้อยใหญ่ตามธรรมชาติที่สามารถพบฝูงปูชนิดต่าง ๆ ได้ ด้านบนเกาะยังมีจุดชมวิวซึ่งจะมองเห็นทะเลสีฟ้าใสที่ทอดตัวยาวออกไปไกลจนจรดกับท้องฟ้าคราม บริเวณนี่จะเป็นจุดถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกอีกจุดหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีเส้นธรรมชาติที่ใช้ศึกษาระบบนิเวศ และสิ่งมีชีวิตที่อาศัยบนเกาะตามธรรมชาติ ซึ่งหากมีข้อสงสัยใด ๆ บนเกาะจะมีเจ้าหน้าที่อุทยานประจำเกาะอยู่เพื่อดูแล และให้คำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมเกาะอีกด้วย

เกาะกำตก

เกาะกำตกหรือเกาะอ่าวเขาควาย อยู่ในการดูแลของอุทยานแห่งชาติแหลมสน จังหวัดระนอง ชายหาดของเกาะดำตกจะมีลักษณะโค้งคล้ายลักษณะของเขาควาย บนเกาะไม่มีร้านค้า สถานบันเทิง เงียบสงบจึงมักมีนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสงบเพื่อพักผ่อนมานอนรับลมทะเล ฟังเสียงคลื่นกระทบหาดทราย มองดูท้องฟ้าสีครามกระจ่าง และน้ำทะเลสีฟ้าใส ด้านบนเกาะจะมีจุดชมวิวซึ่งทางขึ้นเป็นเส้นทางค่อนข้างชัน วิวด้านบนจะเห็นอ่าวที่โค้งเข้าหากันเป็นรูปลักษณะคล้ายเขาควายอันสวยงามแปลกตาอย่างชัดเจน หากใครสนใจมาเที่ยวที่เกาะกำตกนั้นเกาะจะเปิดให้เข้าชมในช่วงเดือน พ.ค – ต.ค หรือตามประกาศของอุทยาน

ในช่วงเวลาที่ได้หยุดพักจากหน้าที่การงานอันเร่งรีบ วิถีชีวิตที่วุ่นวาย การหาสถานที่เงียบสงบมาพักผ่อนเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ให้กับร่างกายอันอ่อนล้า การลองมาติดเกาะเหล่านี้สัก 2- 3 ชั่วโมง ปล่อยใจไปกับสายลม แสงแดด และน้ำทะเลก็จะสดชื่นขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว

 

พาตะลุยเที่ยวถ้ำไทย…. ณ ถ้ำแห่งไหนเปิดให้บริการทุกวันตลอดทั้งปี

                ถ้ำเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติที่น่าสนใจ ด้วยระบบนิเวศที่แตกต่างจากการท่องเที่ยวในแหล่งธรรมชาติแบบอื่น หรือด้วยบรรยากาศแวดล้อมของถ้ำที่ให้อารมณ์ลึกลับ ท้าทาย และน่าค้นหา เป็นเสน่ห์ดึงดูดให้เหล่านักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความแตกต่างที่แปลกใหม่ หรือนักท่องเที่ยวสายลุยผู้รักการผจญภัยให้ชอบมาเที่ยวกัน ถ้ำหลายแห่งในไทยมักจะมีช่วงระยะเวลาปิดถ้ำในทุกปี เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติภายในและปกป้องอันตรายจากธรรมชาติที่อาจเกิดแก่นักท่องเที่ยว แต่ก็มีถ้ำอีกไม่น้อยที่ทางกรมอุทยานฯ หรือหน่วยงานที่ทำหน้าที่ดูแลในบริเวณพื้นที่นั้น อนุญาตเปิดให้เข้าชมได้ทุกวันตลอดทั้งปี โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมาเที่ยวผิดช่วงเวลา ทำให้ส่งผลต่อความปลอดภัย ซึ่งจะมีอยู่ด้วยกันหลายแห่ง อาทิ

ถ้ำพระยานคร

ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด การจะเข้าไปภายในถ้ำจะต้องเดินเท้าขึ้นไปบนภูเขาซึ่งจะเต็มไปด้วยธรรมชาติที่ค่อนข้างสมบูรณ์ เมื่อมาถึงภายในถ้ำจะพบว่าถ้ำพระยานครเป็นถ้ำขนาดใหญ่ซึ่งภายในจะมี 3 คูหา มีพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ที่ถูกสร้างเกิดในสมัยรัชกาลที่ 5 คราวเสด็จประพาสถ้ำ ด้านข้างและด้านบนเพดานถ้ำมีหินงอกหินย้อยเป็นรูปร่างต่าง ๆ อันสวยงาม บางช่วงบนเพดานถ้ำจะมีปล่องขนาดใหญ่ ที่เปิดออกให้แสงสว่างจากภายนอกสาดลำแสงเข้ามาตกกระทบตัวพระที่นั่งคูหาคฤหาสน์ขนาดย่อม ซึ่งตั้งไว้บนเนินดินกลางถ้ำ ที่แวดล้อมไปด้วยต้นไม้สูงหลายสิบต้น คล้ายป่าขนาดเล็กบริเวณพื้นถ้ำด้านล่าง จนดูปลั่งประกายเรืองรอง เกิดเป็นภาพสวยงามจับตาจากการรังสรรค์ร่วมกันของธรรมชาติและมนุษย์

ถ้ำลอด ปางมะผ้า

อยู่ในความดูแลของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มแม่น้ำปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ถ้ำลอดปางมะผ้าจะมีลำห้วยไหลลอดจากปากทางเข้าหน้าถ้ำ ไหลทะลุไปยังอีกด้านหนึ่งของถ้ำ นักท่องเที่ยวจึงนิยมล่องตามลำห้วยตื้น ๆ เข้าไปชมภายในถ้ำด้วยการนั่งแพที่ทำจากไม้ไผ่ต่อกัน จนมีขนาดยาวและแคบ หัวท้ายแพจะมีคนค่อยถ่อแพให้ล่องไปตามลำน้ำเข้าไปภายใน แสงตะเกียงบนแพที่ใช้นำทางจะเป็นแหล่งกำเนิดแสงขนาดใหญ่เพียงอย่างเดียวที่ส่องสว่างภายในถ้ำ เนื่องจากจะไม่มีการติดตั้งหลอดไฟใด ๆ เพื่อรักษาธรรมชาติของถ้ำในยังคงความสมบูรณ์มากที่สุด เมื่อนั่งแพล่องไปตามลำน้ำเรื่อย ๆ จะพบว่าถ้ำนั้นกว้างและสูง ด้านบนมีหินงอกหินย้อยรูปร่างต่าง ๆ แสงไฟจากตะเกียงจะตกกระทบหินงอกหินย้อยด้านบนเพดานถ้ำ บางส่วนจะเปล่งปลั่งล้อแสงไฟเล่นราวจะหยาดหยด บางส่วนก็จะเกิดเงาสีทึบดูลึกลับ คนถ่อแพจะพาหยุดพัก ณ จุดต่าง ๆ ที่เป็นพื้นที่แห้งให้เดินชมบริเวณโดยรอบ ซึ่งจะมีภาพเขียนสีแดงสีดำของมนุษย์โบราณก่อนประวัติศาสตร์และวัตถุโบราณต่าง ๆ ซึ่งแสดงถึงความเก่าแก่ของถ้ำแห่งนี้ อาทิ ภาชนะดินเผา กระดูกมนุษย์โบราณ โลงศพไม้สักหรือโลงผีแมน ฯลฯ

ถ้ำในบางแห่งถึงแม้ว่าจะเปิดให้เที่ยวชมทุกวันตลอดทั้งปี แต่ก็มีช่วงเวลากำหนดที่จะเข้าออกถ้ำ ซึ่งควรจะเคารพทำตามกฎนั้นอย่างเคร่งครัด และไม่ว่าอย่างไรก่อนการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติควรสอบถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลพื้นที่ ถึงความพร้อมของสถานที่ก่อนไปทุกครั้ง เพื่อให้การเที่ยวในครั้งนั้นเป็นไปอย่างราบรื่นและน่าประทับใจอย่างที่สุด

 

ชวนแบกเป้ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์….ไปกับอุทยานแห่งชาติ ณ เมืองเลย

ในปัจจุบันธรรมชาติต่าง ๆ ของไทยถูกรุนรานจากความเจริญที่เข้ามาทั้งทางตรงและทางอ้อม ทำให้ธรรมชาติหลายแหล่งถูกรบกวนจนสูญเสียเสน่ห์อันเฉพาะตัวไปอย่างน่าเสียดาย แต่ก็มีธรรมชาติอีกไม่น้อยที่ได้รับการดูแลคุ้มครองทำให้ยังคงความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งกำเนิดแม่น้ำ เป็นบ้านของสัตว์ป่าน้อยใหญ่ และยังเปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวให้ผู้คนทั่วไปเรียนรู้ที่จะ “รักษ์” ธรรมชาติอันแสนสำคัญนี่ไว้ หากในวันหยุดยาวที่ยังไม่รู้จะไปไหน ลองรวมแก๊งเพื่อน ชวนกันจัดกระเป๋าเดินทาง ทิ้งความวุ่นวายของชีวิตประจำวันไว้ด้านหลัง แล้วมาเรียนรู้ธรรมชาติเหล่านี่กัน ณ  อุทยานแห่งชาติเมืองเลย

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง

อุทยานแห่งชาติภูกระดึง เป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางระบบนิเวศทั้งป่าไม้ พันธุ์สัตว์และพันธุ์พืช ในทุกปีจะ มีช่วงเวลาเปิดให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชม และศึกษาธรรมชาติซึ่งจะเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติที่มีเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะต้องเดินเท้าเป็นระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร จากบริเวณทางขึ้นจนถึงจุดพักแรมที่อยู่ด้านบนภู แต่นั่นกลับเป็นเสน่ห์อันชวนให้หลงใหล เพราะระหว่างทางขึ้นยอดภูจะได้เห็นถึงสภาพป่าและพันธุ์ไม้ที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อย ๆ ตลอดทาง พอไปถึงด้านบนภูก็ยังมีสถานที่เที่ยวชมธรรมชาติอีกหลากหลาย อาทิ น้ำตกเพ็ญพบใหม่ ซึ่งเป็นน้ำตกที่ค่อนข้างสูงโดยในช่วงฤดูหนาวจะมีใบเมเปิ้ลสีแดงร่วงหล่นลอยไปกับธารน้ำที่ไหลออกไปจากน้ำตก ฯลฯ และหากขึ้นภูไปในช่วงที่มีฝนดาวตก จะสามารถมองเห็นดาวตกได้ในตอนกลางคืน ในบริเวณจุดพักกางเต็นท์แบบนอนไปดูดาวไปกันเลยทีเดียว

อุทยานแห่งชาติภูเรือ

                อุทยานแห่งชาติภูเรือเป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม โดยสามารถขับรถขึ้นไปด้านบนเพื่อชมความสวยงามได้ ภูเรือเป็นภูเขาที่สูง จะแต่มีพื้นที่ราบกว้างบนยอดภู เมื่อมองจากยอดภูด้านบนออกไปด้านนอกจะมองเห็นความเขียวชอุ่มของป่าไม้บนแนวเขา ที่ตั้งเรียงรายกันอย่างสลับซับซ้อนไกลออกไปสุดสายตา ตัดกับท้องฟ้าที่กระจ่างใสในย่ามกลางวัน หากแต่ในยามเย็นป่าไม้บนทิวเขาจะถูกแสงสีเหลืองส้มของพระอาทิตย์ตกดิน พาดผ่านไม่ต่างกับท้องฟ้าที่จะเปลี่ยนไปเจือด้วยสีเหลืองส้มของแสงสุดท้ายอันสวยงาม ด้านบนของภูเรือจะมีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปีทำให้ด้านบนมีพันธุ์พืชและดอกไม้ที่แปลกตาจำนวนมาก นอกจากนี้แล้วบนภูเรือยังมีน้ำตก หน้าผา ถ้ำ ลาดหิน ฯลฯ ซึ่งสะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ของภูเรือซึ่งรอให้ไปเรียนรู้กัน

ถึงแม้ประเทศไทยจะมีธรรมชาติที่หลากหลายและค่อนข้างสมบูรณ์ หากแต่ไม่ช่วยกันอนุรักษ์และมุ่งเน้นจะหาประโยชน์จากธรรมชาติเพียงอย่างเดียว วันหนึ่งแหล่งธรรมชาติเหล่านี่จะหมดไปและยากจะฟื้นฟู ซึ่งแน่นอนจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงถึงผู้อยู่อาศัยอย่างที่นึกไม่ถึงอย่างแน่นอน หากยังไม่เริ่มที่จะดูแลรักษา “บ้านหลังนี้” ตั้งแต่วันนี้  

 

ชวนเพื่อนมาปั่นจักรยานรับลม แล้วมาชมวิถีชีวิตและธรรมชาติ ณ พระประแดง…

พระประแดงเป็นอำเภอเล็ก ๆ แห่งหนึ่งของจังหวัดสมุทรปราการ ติดกับเขตราษฎร์บูรณะของกรุงเทพฯ ที่ความเจริญเข้ามาถึง แล้วแทรกซึมไปกับวิถีชีวิตและธรรมชาติของที่นี่ได้อย่างลงตัว แต่ธรรมชาติยังคงบริสุทธิ์ สามารถสูดลมหายใจลึก ๆ ได้เต็มปอด เพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้าของร่างกายและจิตใจ ยิ่งหากชวนแก๊งเพื่อน คนรัก และครอบครัวมารวมตัวปั่นจักรยานรอบอำเภอพระประแดงด้วยกันแล้ว ความสุขที่ได้รับจะเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกับสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้

วัดไพชยนต์พลเสพย์ ราชวรวิหาร

วัดไพชยนต์พลเสพย์ ราชวรวิหาร เป็นวัดที่คู่กับชาวพระประแดงมาอย่างช้านาน เมื่อปั่นมาถึงหน้าวัดจะพบซุ้มประตูด้านหน้าทางเข้าสีน้ำตาลแดง ลวดลายวิจิตรเป็นอันดับแรก บรรยากาศโดยรอบค่อนข้างเงียบสงบตลอดทางจนมาถึงภายในวัด ที่จะพบกับศาสนสถานสำคัญทางศาสนาต่าง ๆ ซึ่งสร้างขึ้นด้วยศิลปะไทยผสมจีนคล้ายกับวัดโพธิ์ในฝั่งพระนคร เนื่องด้วยวัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 2  จึงมีลักษณะทางศิลปะบางส่วนที่มีความคล้ายคลึงกัน ภายในพระอุโบสถของวัดจะมีพระบุษบกยอดปรางค์ ที่มีอายุเก่าแก่ยิ่งกว่าวัด รูปทรงสวยงามวิจิตรบรรจง สีทองเหลืองอร่าม ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปปางมารวิชัยอันสวยงาม หากคนที่ชื่นชอบความเงียบสงบเพื่อดื่มด่ำศิลปะหรือสถาปัตยกรรมสมัยต้นรัตโกสินทร์แล้วละก็ วัดแห่งนี่ก็เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง

ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งเป็นตลาดน้ำค่อนข้างใหญ่ ซึ่งรอบล้อมไปด้วยบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของชาวบ้านในพื้นที่ เมื่อปั่นมาถึงปากทางเข้าภายในตลาด จะพบร้านค้าบนบกมากมายที่สร้างเป็นเพิงไม้ขนาดเล็ก ตั้งเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ส่วน  ใหญ่จะเป็นร้านค้าของชาวบ้านระแวกนั้น โดยข้าวขายที่ขายจะเป็นพวกผักผลไม้ งานหัตกรรมหรืองานฝีมือต่าง ๆ เสื้อผ้า กระเป๋า อาหารของกิน ฯลฯ บรรยากาศตลอดทางเดินที่มุ่งสู่บริเวณส่วนตลาดน้ำ จะอบอุ่นผ่อนคลายและร่มรื่นด้วยต้นไม้ขนาดต่าง ๆ รอบบริเวณ เดินไปเรื่อย ๆ จะเห็นควันขาว ๆ มาแต่ไกล ซึ่งมาจากหม้อ มาจากกระทะที่พ่อค้าแม่ค้าปรุงอาหารกันอย่างขะมักเขม้นอยู่ในเรือพายตลอดริมฝั่งคลอง ส่งกลิ่นหอมฉุยฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ไม่ไกลกันมากนักจะพบลานที่นั่งพักขนาดย่อม ที่ปกคลุกด้วยร่มเงาของต้นไม้ มองไปทางไหนก็เห็นแต่สีเขียวชวนให้สดชื่น คล้ายจะเชิญชวนให้นั่งพักขาหรือนั่งพักกินอาหารที่ซื้อมา พลางฟังเพลงจากบนเวทีไม้ตรงกลางลาน ที่มักจะมีคนพลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นมาขับกล่อมบทเพลงต่าง ๆ ทั้งกรุงลูกทุ่ง ลูกกรุง ชวนให้เพลิดเพลินไม่น้อยเลยทีเดียว

การปั่นจักรยานเที่ยวนอกจากจะได้การออกกำลังกายเพื่อให้สุขภาพแข็งแรงแล้ว ในระหว่างการปั่นจักรยานเที่ยวยังได้เห็นสิ่งต่าง ๆ ในระหว่างทางมากขึ้น ซึ่งบางครั้งสิ่งเหล่านั้นให้ความสุขและความประทับใจที่มากกว่าจุดหมายปลายทางในการเดินทางเสียอีก

 

แบกเป้ตะลอนเที่ยว ณ สังขละบุรี สถานที่แห่งนี้ ไม่ใช่มีดีแค่เพียงสะพานมอญ

                สังขละบุรี หนึ่งในอำเภอยอดนิยมของนักท่องเที่ยวในจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งมีพื้นที่ติดกับประเทศพม่า ทำให้ในพื้นที่สังขละบุรีมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศ ซึ่งเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมกัน โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่คิดถึงขึ้นมาอันดับแรก เมื่อพูดถึงที่นี่ ก็คงหนีไม่พ้นสะพานมอญ สะพานไม้แห่งศรัทธาของชาวชุมชนในพื้นที่ นอกจากนี้ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจซึ่งไม่ค่อยได้ยินชื่ออีกหลายแห่ง อาทิ

ตลาด ณ บริเวณด่านเจดีย์ 3 องค์

เมื่อเข้ามาในบริเวณด่านเจดีย์ 3 องค์ ซึ่งเป็นพื้นรอยต่อระหว่างประเทศไทยกับประเทศพม่า จะพบว่าไม่ไกลจากบริเวณที่เจดีย์สีขาว 3 องค์ ตั้งอยู่จะมีตลาดซึ่งเต็มไปด้วยชาวไทยและชาวพม่าที่มาแลกเปลี่ยนซื้อขายสินค้าของตัวเองกันอย่างคึกคัก ตั้งแต่ทางเข้าตลาดซึ่งมีทั้งร้านที่มาตั้งขายแบบเพิงพักหรือจะหามของเดินเร่ขายก็มีให้เห็นไม่น้อย โดยข้าวของส่วนใหญ่ในตลาดที่ขายโดยชาวพม่า จะเป็นพวกเครื่องประดับที่ทำจากหยก หินชนิดต่าง ๆ และเงิน อาทิ กำไรหยก แหวนหยก หินประดับ สร้อยเงิน ฯลฯ หรือพวกทานาคาเครื่องประทินผิวยอดนิยมของสาวพม่า ที่มีทั้งในรูปแบบฝนเองจากแท่งไม้ทานาคา หรือแบบสำเร็จรูปบรรจุลงในตลับก็มีขายให้เห็นกันหลายร้าน เมื่อเดินลึกเข้าไปเรื่อย ๆ จนถึงกำแพงกั้นเขตแดนไทยกับพม่า จะพบพ่อค้าแม่ค้าชาวพม่าขายพวกพันธุ์ไม้ พวกขนมของประเทศพม่า หรือพวกอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้านของชาวพม่าก็มีให้เห็นไม่น้อยเช่นเดียวกัน ฯลฯ นอกจากนี้ในส่วนร้านขายของชาวไทย ส่วนใหญ่มักจะเป็นร้านที่ขายเครื่องประดับและอุปกรณ์เครื่องใช้ ที่ผลิตในประเทศ เพื่อให้นักท่องเที่ยวและชาวพม่ามาลองเลือกซื้อกันอย่างคึกคัก

ถ้ำแก้วสวรรค์บันดาล

ถ้ำแก้วสวรรค์บันดาลนั้นตั้งอยู่ในสำนักสงฆ์ โดยทางขึ้นไปภายในถ้ำจะต้องขึ้นบันไดไม้ซึ่งค่อนข้างสูงชัน สอง ฝั่งเต็มไปด้วยต้นไม้นานาชนิด เมื่อไปถึงหน้าทางเข้าของถ้ำแรก จะพบป้ายชื่อบอกว่าถ้ำส่วนนี้ชื่อว่าอะไร ซึ่งถ้ำแก้วสวรรค์บันดาลจะมีถ้ำย่อยอีกหลายแห่งมาก ทางเข้าในแต่ละแห่งก็จะมีความสูงชันแตกต่างกันไป โดยภายในถ้ำจะปรากฏหินงอกหินย้อยรูปทรงต่าง ๆ มากมาย และมีการเปิดไฟส่องสว่างภายในถ้ำ เมื่อแสงไฟตกกระทบ หินงอกหินย้อยเหล่านั้นก็จะสะท้อนแสงไฟระยิบระยับอย่างสวยงาม ในบางครั้งจะมีเด็ก ๆ ในพื้นที่มาทักทายชวนคุยและพาเที่ยวชมถ้ำพร้อมเล่าประวัติของถ้ำในสมัยก่อน หรือแนะนำว่าถ้ำไหนเป็นถ้ำไหนมีอะไรภายในบ้าง นอกจากนี้เส้นทางที่เข้าไปในถ้ำแก้วสวรรค์ บันดาล จะพบฝูงควายที่มีรูปทรงเขาแปลกหลายสิบตัว ที่ชาวบ้านให้หากินในสวนยางพาราที่ขึ้นเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ พื้นดินด้านล่างเป็นหญ้าสีเขียวชอุ่มทำให้บรรยากาศโดยรอบดูร่มรื่นชวนผ่อนคลาย

สังขละบุรีนั้นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกจำนวนมาก โดยมีอีกหลายที่ซึ่งพึ่งค้นพบใหม่ และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม หลายแหล่งยังไม่มีเสียงชื่อในหมู่นักท่องเที่ยวมากนัก หากแต่มีความสวยงามไม่แพ้ที่อื่น ๆ ซึ่งรอให้ไปสัมผัสด้วยตาของตัวเองอยู่