Seoul World Cup Stadium หนึ่งที่เที่ยวในเกาหลีใต้ที่คุณไม่ควรพลาด

ประเทศเกาหลีใต้ในความคิดของใครหลาย ๆ คนก็จะทำให้นึกถึงการช้อปปิ้งจับจ่ายซื้อเครื่องสำอาง รวมถึงวงการเคป็อปที่นับเป็นหน้าเป็นตาให้กับเกาหลีใต้ได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าหากคุณอยากเข้ามาสัมผัสการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้ที่มากกว่าความบันเทิงและหลีหนีความอึกทึกครึกโครมจากตัวเมือง เราก็อยากแนะนำให้คุณได้รู้จักกับ Seoul World Cup Stadium รวมถึงสถานที่ใกล้เคียงที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมือง ซึ่งอาจเป็นอีกเส้นทางการท่องเที่ยวที่คุณสามารถเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจได้ตลอดทั้งวันอย่างไม่รู้จักคำว่าเบื่อ

Seoul World Cup Stadium สนามกีฬายิ่งใหญ่ระดับเอเชีย

Seoul World Cup Stadium หรือชาวท้องถิ่นจะเรียกว่า Sangam Stadium สร้างขึ้นเพื่อในการแข่งขันฟุตบอล FIFA World Cup 2002 เป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองของเกาหลีใต้ สามารถจุผู้ชมในสนามได้กว่า 66,000 ที่นั่ง ยังไม่รวมพื้นที่สำหรับห้องส่วนตัวที่มีมากถึง 75 ห้อง สนามถูกออกแบบมาในรูปแบบที่คล้ายว่าวเกาหลีเอกลักษณ์แบบดั้งเดิม ทำให้สนามกีฬาแห่งนี้เป็นสนามรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย มีความสูงถึง 50 เมตร มีเสากระโดงรองรับ 16 ต้น และครอบคลุม 90 เปอร์เซ็นของพื้นที่ในสนาม โครงสร้างที่หุ้มด้วยผ้าใยแก้วและกระจกโพลีคาร์บอเนตที่สะท้อนเงาได้อย่างงดงาม เป็นเอกลักษณ์คล้ายทำมาจากกระดาษฮันจี ที่เป็นกระดาษเกาหลีแบบดั้งเดิม ยิ่งเมื่อมองดูสนามกีฬาแห่งนี้ในยามค่ำคืน คุณก็จะเห็นแสงไฟสีนวลที่สะท้อนออกมา สร้างความอบอุ่นสายตาราวกับมองโคมไฟโบราณ

สถานที่เที่ยวยอดฮิตใกล้ Seoul World Cup Stadium

นอกจากการไปเยือน Seoul World Cup Stadium ที่คุณจะได้สัมผัสความอลังการของสนามกีฬาระดับเอเชียแล้ว ไม่ไกลจาก Seoul World Cup Stadium ยังเป็นที่ตั้งของ World Cup Park ที่เป็นสวนนิเวศวิทยาที่เกิดขึ้นจากการปรับปรุงพื้นที่ด้วยการฝังกลบขยะจำนวนมหาศาล และพัฒนาเป็นพื้นที่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจนถึงปัจจุบัน เป็นสถานที่พักผ่อนของครอบครัวชาวเกาหลีใต้ รวมถึงนักท่องเที่ยวก็ต่างพากันมาพักผ่อนหย่อนใจ ตลอดจนชื่นชมบรรดาทุ่งดอกไม้ที่สวยงามรอรับการมาเยือนของนักท่องเที่ยวอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย

ภายใน World Cup Park ประกอบไปด้วยสวนสาธารณะห้าแห่งด้วยกัน

  1. Pyeonghwa (Peace) Park หรือ สวนสันติภาพพยองฮวา ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม Seoul World Cup Stadium สร้างเพื่อระลึกถึงการแข่งขันฟุตบอลโลกปี 2020 ที่เกาหลีใต้และญี่ปุ่นได้เป็นเจ้าภาพร่วมกัน ชื่อของสวนแห่งนี้ก็สื่อถึงสันติภาพและเอกภาพของโลก ด้านในยังมี UNICEF Plaza, สระน้ำนันจิ, สวนป่า, สนามเด็กเล่นและพิพิธภัณฑ์ World Cup Park
  2. Haneul Park หรือ สวนฮานึล คำว่า ฮานึลในภาษาเกาหลีนั้น แปลว่าท้องฟ้า ซึ่งสวนแห่งนี้ตั้งอยู่บนจุดสูงสุดของ World Cup Park การขึ้นไปยังสวนฮานึลนอกจากมีรถบัสขนาดเล็กให้บริการแล้ว คุณสามารถเดินขึ้นบันได้กว่า 291 ขั้นได้อีกด้วย สวนฮานึลนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่ทำให้คุณมองเห็นวิวทิวทัศน์อันงดงามของกรุงโซลได้อย่างตื่นตาตื่นใจ
  3. Noeul Park หรือ สวนโนอึล เป็นอีกสวนสาธารณะที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่ง ที่นี่คุณจะได้พบกับสัตว์ป่าขนาดเล็ก อย่างเช่น กวาง แรคคูน เป็นต้น ดื่มด่ำกับงานศิลปะ ปติมากรรมบนสนามหญ้า ที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมของชนชาติเกาหลีได้อย่างใกล้ชิด ชื่นชมวิวแม่น้ำฮันและพระอาทิตย์ตกดิน
  4. Nanjicheon Park หรือ สวนนันจิชอน สวนนี้สร้างขึ้นตามลำธารที่ไหลมาจากใต้สวนฮานึล ซึ่งเคยเป็นแหล่งน้ำเสีย แต่ได้รับการปรับปรุงจนเป็นลำธารที่ใสสะอาด ในสวนมีเวทีกลางแจ้งและอุปกรณ์กีฬาเพื่อให้ผู้มาเยือนได้ออกกำลังท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์
  5. Hangang Riverside Park หรือ สวนสาธารณะฮันกัง สวนนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำฮัน เป็นพื้นที่ศึกษาธรรมชาติ ผู้มาเยือนสามารถเล่นฟุตบอล เล่นบาสเกตบอล หรือนั่งเล่นบนสนามหญ้าอย่างสบายใจท่ามกลางสายลมโชยริมแม่น้ำ

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ตกหลุมรักประเทศเกาหลีใต้และยังไม่เคยมาเยือน Seoul World Cup Stadium และสวนสวยต่างๆ ใน World Cup Park ที่เราได้แนะนำ คุณก็อย่ารอช้าที่จะให้ที่แห่งนี้อยู่ในแผนการเดินทางของคุณในครั้งหน้า รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวัง เมื่อคุณได้มาเห็นความงดงามด้วยตาของคุณเอง

เครดิตภาพ : https://pixabay.com/fr/photos/stade-de-la-coupe-du-monde-sangam-2923634/

ปั่นจักรยาน กินลม ชมดอกบัว ที่เมืองยางพยอง นอกกรุงโซล

การเดินทางสำหรับคนที่รักการท่องเที่ยวในประเทศเกาหลีใต้ นอกจากการเดินเล่น ซื้อของในย่านยอดฮิตอย่างมยองดง รวมไปถึงการหาร้านคาเฟ่น่ารัก ๆ เพื่อพักผ่านแล้ว การได้ออกไปสัมผัสการท่องเที่ยวแบบท้องถิ่นก็เป็นเสน่ห์อีกแบบหนึ่งของการมาเยือนประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งวันนี้อยากแนะนำเมืองท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองโซลมากนัก เดินทางไม่ยากด้วยรถไฟฟ้า ใช้เวลาเดินทางไม่มากและคุณสามารถฆ่าเวลาในทั้งวันไปกับการปั่นจักรยานท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นของชนบท

นั่งรถไฟเพลิน ๆ ไปเยือนสถานียางสุ (Yangsu Station) ในเมืองยางพยอง (Yangpyeong County)

สถานที่ท่องเที่ยวอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงที่เรียกว่าเมืองยางพยอง (Yangpyeong County)  อยู่ในจังหวัดคยองกี ประเทศเกาหลีใต้ เมืองขนาดเล็กที่มีบรรยากาศร่มรื่น แต่เพียบพร้อมไปด้วยสถานที่เที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ หากเริ่มต้นการท่องเที่ยวในเมืองนี้ หากคุณเริ่มต้นที่กรุงโซล คุณก็ต้องพาตัวเองขึ้นรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน Gyeongui-Jungang Line มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่สถานียางสุ (Yangsu Station) ใช้เวลาในการเดินทางเพียงชั่วโมงกว่า ๆ แต่คุณอาจรู้สึกว่าเป็นเวลาที่ไม่นาน เพราะการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าที่พาคุณออกมาจากความวุ่นวายของตัวเมือง ทำให้คุณเพลิดเพลินกับวิวธรรมชาติที่สวยงามตลอดสองข้างทางที่รถไฟแล่นผ่าน ยิ่งถ้าหากเดินทางช่วงเช้า คุณจะมีเพื่อนร่วมทางที่เป็นผู้สูงอายุ แต่ร่างกายยังแข็งแรงกันเกือบทั้งขบวนรถไฟ

ปั่นจักรยานเที่ยว ตามรอยซีรี่ส์สุดฮิต

เมื่อรถไฟฟ้าพาคุณมาถึงจุดหมาย หากคุณมาเยือนช่วงต้นของฤดูหนาวที่สภาพอากาศยังเย็นสบาย ราว ๆ กลางเดือนตุลาคมที่อุณหภูมิราว ๆ 23 องศาเซลเซียส คุณจะได้สัมผัสความสดชื่นของลมที่พัดและแสงแดดที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เราขอแนะนำกิจกรรมที่ขาดไม่ได้เลย นั่นก็คือ การปั่นจักรยาน ซึ่งเมื่อเดินลงมาด้านนอกสถานีก็จะมีร้านให้เช่าจักรยาน ราคาให้เช่าก็คิดตามชั่วโมง คุณสามารถลองเลือกจักรยานที่คุณถูกใจ ทำการจ่ายเงินก็เป็นอันเรียบร้อย พาจักรยานของคุณปั่นสำรวจไปตามเส้นทางจักรยานที่มีได้เลย

ตามเส้นทางจักรยานที่คุณปั่นไปเรื่อย ๆ ทางการอากาศสดชื่นนั้น คุณจะพบว่ามีนักท่องเที่ยวไม่น้อยที่ปั่นจักรยานสวนกับคุณไปมา บางคนก็เปิดเพลงสร้างบรรยากาศในการปั่นจักรยานของตัวเองไปด้วย ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ดูจะเพลินกับบรรยากาศร่มรื่นของเมืองยางพยองแห่งนี้ แลนด์มาร์คสำคัญที่คุณจะได้แวะมาเยือนก็คือ Bukhangang Railroad Bridge ถ้าหากคุณเป็นคอซีรี่ส์เกาหลีเรื่อง Hotel Del Luna คุณก็จะคุ้น ๆ ว่าสะพานแห่งนี้ก็คือแบบจำลองของสะพานที่นางเองแสนสวยของเรื่องเดินข้ามไป

ชมบึงดอกบัว ต่อด้วยถ่ายภาพกับกรอบรูปยักษ์บรรยากาศทะเลสาบกว้างใหญ่

สิ่งที่น่าสนใจของเมืองพยองยางที่นักท่องเที่ยวนิยมมากันไม่ได้มีแค่สะพานเหล็กขนาดใหญ่เพียงเท่านั้น แต่ที่เมืองนี้ยังมี Semiwon Garden ซึ่งเป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่เน้นจัดแสดงดอกบัวเป็นสวนใหญ่  ในช่วงฤดูร้อนจะมีดอกบัวบานสะพรั่งเต็มบึง แต่หากนอกฤดูที่นี่ก็จะถูกตกแต่งด้วยดอกไม้ตามฤดูการเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว นับว่าเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมของเมืองก็ว่าได้

ใกล้กันนั้นจะมีจุดชมวิวที่น่าสนใจที่เรียกว่า ทะเลสาบดูมุลมอรี (Dumulmeori Lake) ที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญอีกที่ที่ต้องมาเยือน ดื่มด่ำความเงียบสงบของบรรยากาศท้องถิ่น ถ่ายรูปกับกรอบรูปขนาดยักษ์พร้อมวิวภูเขาสูงใหญ่ และทะเลสาบกว้างสุดลูกตา

ที่เล่ามาด้านบนเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเที่ยวเมืองพยองยางเท่านั้น เพราะเมืองนี้ยังมีที่เที่ยวไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างคุณอยู่อีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น สวนสตรอเบอรี่, Nungnae Station ซึ่งเป็นสถานีรถไฟเก่าแก่ยุค 90, สวนป่าธรรมชาติและพิพิธภัณฑ์พื้นเมือง ที่รอการมาเยือนของคุณ

เครติดภาพ : https://pixabay.com/fr/photos/deux-t%C3%AAtes-de-l-eau-cor%C3%A9e-paysage-1171468/