ปั่นจักรยาน กินลม ชมดอกบัว ที่เมืองยางพยอง นอกกรุงโซล

การเดินทางสำหรับคนที่รักการท่องเที่ยวในประเทศเกาหลีใต้ นอกจากการเดินเล่น ซื้อของในย่านยอดฮิตอย่างมยองดง รวมไปถึงการหาร้านคาเฟ่น่ารัก ๆ เพื่อพักผ่านแล้ว การได้ออกไปสัมผัสการท่องเที่ยวแบบท้องถิ่นก็เป็นเสน่ห์อีกแบบหนึ่งของการมาเยือนประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งวันนี้อยากแนะนำเมืองท่องเที่ยวที่อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองโซลมากนัก เดินทางไม่ยากด้วยรถไฟฟ้า ใช้เวลาเดินทางไม่มากและคุณสามารถฆ่าเวลาในทั้งวันไปกับการปั่นจักรยานท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นของชนบท

นั่งรถไฟเพลิน ๆ ไปเยือนสถานียางสุ (Yangsu Station) ในเมืองยางพยอง (Yangpyeong County)

สถานที่ท่องเที่ยวอยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงที่เรียกว่าเมืองยางพยอง (Yangpyeong County)  อยู่ในจังหวัดคยองกี ประเทศเกาหลีใต้ เมืองขนาดเล็กที่มีบรรยากาศร่มรื่น แต่เพียบพร้อมไปด้วยสถานที่เที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ หากเริ่มต้นการท่องเที่ยวในเมืองนี้ หากคุณเริ่มต้นที่กรุงโซล คุณก็ต้องพาตัวเองขึ้นรถไฟฟ้าสายสีเขียวอ่อน Gyeongui-Jungang Line มีจุดหมายปลายทางอยู่ที่สถานียางสุ (Yangsu Station) ใช้เวลาในการเดินทางเพียงชั่วโมงกว่า ๆ แต่คุณอาจรู้สึกว่าเป็นเวลาที่ไม่นาน เพราะการเดินทางด้วยรถไฟฟ้าที่พาคุณออกมาจากความวุ่นวายของตัวเมือง ทำให้คุณเพลิดเพลินกับวิวธรรมชาติที่สวยงามตลอดสองข้างทางที่รถไฟแล่นผ่าน ยิ่งถ้าหากเดินทางช่วงเช้า คุณจะมีเพื่อนร่วมทางที่เป็นผู้สูงอายุ แต่ร่างกายยังแข็งแรงกันเกือบทั้งขบวนรถไฟ

ปั่นจักรยานเที่ยว ตามรอยซีรี่ส์สุดฮิต

เมื่อรถไฟฟ้าพาคุณมาถึงจุดหมาย หากคุณมาเยือนช่วงต้นของฤดูหนาวที่สภาพอากาศยังเย็นสบาย ราว ๆ กลางเดือนตุลาคมที่อุณหภูมิราว ๆ 23 องศาเซลเซียส คุณจะได้สัมผัสความสดชื่นของลมที่พัดและแสงแดดที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย เราขอแนะนำกิจกรรมที่ขาดไม่ได้เลย นั่นก็คือ การปั่นจักรยาน ซึ่งเมื่อเดินลงมาด้านนอกสถานีก็จะมีร้านให้เช่าจักรยาน ราคาให้เช่าก็คิดตามชั่วโมง คุณสามารถลองเลือกจักรยานที่คุณถูกใจ ทำการจ่ายเงินก็เป็นอันเรียบร้อย พาจักรยานของคุณปั่นสำรวจไปตามเส้นทางจักรยานที่มีได้เลย

ตามเส้นทางจักรยานที่คุณปั่นไปเรื่อย ๆ ทางการอากาศสดชื่นนั้น คุณจะพบว่ามีนักท่องเที่ยวไม่น้อยที่ปั่นจักรยานสวนกับคุณไปมา บางคนก็เปิดเพลงสร้างบรรยากาศในการปั่นจักรยานของตัวเองไปด้วย ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็ดูจะเพลินกับบรรยากาศร่มรื่นของเมืองยางพยองแห่งนี้ แลนด์มาร์คสำคัญที่คุณจะได้แวะมาเยือนก็คือ Bukhangang Railroad Bridge ถ้าหากคุณเป็นคอซีรี่ส์เกาหลีเรื่อง Hotel Del Luna คุณก็จะคุ้น ๆ ว่าสะพานแห่งนี้ก็คือแบบจำลองของสะพานที่นางเองแสนสวยของเรื่องเดินข้ามไป

ชมบึงดอกบัว ต่อด้วยถ่ายภาพกับกรอบรูปยักษ์บรรยากาศทะเลสาบกว้างใหญ่

สิ่งที่น่าสนใจของเมืองพยองยางที่นักท่องเที่ยวนิยมมากันไม่ได้มีแค่สะพานเหล็กขนาดใหญ่เพียงเท่านั้น แต่ที่เมืองนี้ยังมี Semiwon Garden ซึ่งเป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่เน้นจัดแสดงดอกบัวเป็นสวนใหญ่  ในช่วงฤดูร้อนจะมีดอกบัวบานสะพรั่งเต็มบึง แต่หากนอกฤดูที่นี่ก็จะถูกตกแต่งด้วยดอกไม้ตามฤดูการเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว นับว่าเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมของเมืองก็ว่าได้

ใกล้กันนั้นจะมีจุดชมวิวที่น่าสนใจที่เรียกว่า ทะเลสาบดูมุลมอรี (Dumulmeori Lake) ที่เป็นแลนด์มาร์คสำคัญอีกที่ที่ต้องมาเยือน ดื่มด่ำความเงียบสงบของบรรยากาศท้องถิ่น ถ่ายรูปกับกรอบรูปขนาดยักษ์พร้อมวิวภูเขาสูงใหญ่ และทะเลสาบกว้างสุดลูกตา

ที่เล่ามาด้านบนเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเที่ยวเมืองพยองยางเท่านั้น เพราะเมืองนี้ยังมีที่เที่ยวไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวอย่างคุณอยู่อีกหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น สวนสตรอเบอรี่, Nungnae Station ซึ่งเป็นสถานีรถไฟเก่าแก่ยุค 90, สวนป่าธรรมชาติและพิพิธภัณฑ์พื้นเมือง ที่รอการมาเยือนของคุณ

เครติดภาพ : https://pixabay.com/fr/photos/deux-t%C3%AAtes-de-l-eau-cor%C3%A9e-paysage-1171468/

ชวนเพื่อนมาปั่นจักรยานรับลม แล้วมาชมวิถีชีวิตและธรรมชาติ ณ พระประแดง…

พระประแดงเป็นอำเภอเล็ก ๆ แห่งหนึ่งของจังหวัดสมุทรปราการ ติดกับเขตราษฎร์บูรณะของกรุงเทพฯ ที่ความเจริญเข้ามาถึง แล้วแทรกซึมไปกับวิถีชีวิตและธรรมชาติของที่นี่ได้อย่างลงตัว แต่ธรรมชาติยังคงบริสุทธิ์ สามารถสูดลมหายใจลึก ๆ ได้เต็มปอด เพื่อบรรเทาความเหนื่อยล้าของร่างกายและจิตใจ ยิ่งหากชวนแก๊งเพื่อน คนรัก และครอบครัวมารวมตัวปั่นจักรยานรอบอำเภอพระประแดงด้วยกันแล้ว ความสุขที่ได้รับจะเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยกับสถานที่ท่องเที่ยวเหล่านี้

วัดไพชยนต์พลเสพย์ ราชวรวิหาร

วัดไพชยนต์พลเสพย์ ราชวรวิหาร เป็นวัดที่คู่กับชาวพระประแดงมาอย่างช้านาน เมื่อปั่นมาถึงหน้าวัดจะพบซุ้มประตูด้านหน้าทางเข้าสีน้ำตาลแดง ลวดลายวิจิตรเป็นอันดับแรก บรรยากาศโดยรอบค่อนข้างเงียบสงบตลอดทางจนมาถึงภายในวัด ที่จะพบกับศาสนสถานสำคัญทางศาสนาต่าง ๆ ซึ่งสร้างขึ้นด้วยศิลปะไทยผสมจีนคล้ายกับวัดโพธิ์ในฝั่งพระนคร เนื่องด้วยวัดแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 2  จึงมีลักษณะทางศิลปะบางส่วนที่มีความคล้ายคลึงกัน ภายในพระอุโบสถของวัดจะมีพระบุษบกยอดปรางค์ ที่มีอายุเก่าแก่ยิ่งกว่าวัด รูปทรงสวยงามวิจิตรบรรจง สีทองเหลืองอร่าม ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปปางมารวิชัยอันสวยงาม หากคนที่ชื่นชอบความเงียบสงบเพื่อดื่มด่ำศิลปะหรือสถาปัตยกรรมสมัยต้นรัตโกสินทร์แล้วละก็ วัดแห่งนี่ก็เป็นอีกสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด

ตลาดน้ำบางน้ำผึ้ง

ตลาดน้ำบางน้ำผึ้งเป็นตลาดน้ำค่อนข้างใหญ่ ซึ่งรอบล้อมไปด้วยบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของชาวบ้านในพื้นที่ เมื่อปั่นมาถึงปากทางเข้าภายในตลาด จะพบร้านค้าบนบกมากมายที่สร้างเป็นเพิงไม้ขนาดเล็ก ตั้งเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ส่วน  ใหญ่จะเป็นร้านค้าของชาวบ้านระแวกนั้น โดยข้าวขายที่ขายจะเป็นพวกผักผลไม้ งานหัตกรรมหรืองานฝีมือต่าง ๆ เสื้อผ้า กระเป๋า อาหารของกิน ฯลฯ บรรยากาศตลอดทางเดินที่มุ่งสู่บริเวณส่วนตลาดน้ำ จะอบอุ่นผ่อนคลายและร่มรื่นด้วยต้นไม้ขนาดต่าง ๆ รอบบริเวณ เดินไปเรื่อย ๆ จะเห็นควันขาว ๆ มาแต่ไกล ซึ่งมาจากหม้อ มาจากกระทะที่พ่อค้าแม่ค้าปรุงอาหารกันอย่างขะมักเขม้นอยู่ในเรือพายตลอดริมฝั่งคลอง ส่งกลิ่นหอมฉุยฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ ไม่ไกลกันมากนักจะพบลานที่นั่งพักขนาดย่อม ที่ปกคลุกด้วยร่มเงาของต้นไม้ มองไปทางไหนก็เห็นแต่สีเขียวชวนให้สดชื่น คล้ายจะเชิญชวนให้นั่งพักขาหรือนั่งพักกินอาหารที่ซื้อมา พลางฟังเพลงจากบนเวทีไม้ตรงกลางลาน ที่มักจะมีคนพลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นมาขับกล่อมบทเพลงต่าง ๆ ทั้งกรุงลูกทุ่ง ลูกกรุง ชวนให้เพลิดเพลินไม่น้อยเลยทีเดียว

การปั่นจักรยานเที่ยวนอกจากจะได้การออกกำลังกายเพื่อให้สุขภาพแข็งแรงแล้ว ในระหว่างการปั่นจักรยานเที่ยวยังได้เห็นสิ่งต่าง ๆ ในระหว่างทางมากขึ้น ซึ่งบางครั้งสิ่งเหล่านั้นให้ความสุขและความประทับใจที่มากกว่าจุดหมายปลายทางในการเดินทางเสียอีก