พาไปทัวร์สงขลา กับ 6 แหล่งท่องเที่ยวสุดฟิน

วันหยุดนี้ใครที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยวสุดฟิน เราลองไปล่องดินแดนทางใต้กันบ้างดีไหม กับ 6 สถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตในจังหวัดสงขลา ที่จะพาคุณไปสัมผัสกับประสบการณ์สุดสนุกอย่างไม่มีเบื่อ ซึ่งจะมีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งไหนบ้างก็ต้องไปดูกันเลย

1.น้ำตกโตนงาช้าง

ร้อนๆ แบบนี้ต้องไปเที่ยวคลายร้อนที่น้ำตกกันก่อนเลย โดยน้ำตกโตนงาช้าง ถือเป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก และมีมากถึง 7 ชั้น แถมบริเวณรอบๆ ก็ห้อมล้อมไปด้วยป่าไม้ธรรมชาติที่ให้ความร่มรื่น เย็นสบายได้เป็นอย่างดี แต่เนื่องจากทางเดินขึ้นน้ำตกมีความชันพอสมควร ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังให้ดีด้วย

2.สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำสงขลา

สถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการพาลูกไปเที่ยวเล่นมากที่สุด เพราะที่นี่มีสัตว์น้ำมากมายหลายสายพันธุ์ให้คุณได้ชมกันอย่างตื่นตาตื่นใจ ทั้งยังมีกิจกรรมแสดงโชว์การให้อาหารปลาที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครอีกด้วย และนอกจากการชมสัตว์น้ำแล้ว ก็ยังมีกิจกรรมการขับรถเอทีวีและการขับรถโกคาร์ทที่จะทำให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ที่จะลืมไม่ลงเลยทีเดียว

3.หาดสมิหลา

หาดสมิหลา ต้องบอกเลยว่าเป็นแลนด์มาร์คของจังหวัดสงขลาเลยทีเดียว ซึ่งใครมาเที่ยวสงขลาและไม่ได้แวะมาที่นี่ก็ถือว่าพลาดมาก เพราะหาดสมิหลามีหาดทรายที่ขาวละเอียดแตกต่างจากชายหาดทั่วไป น้ำทะเลเป็นสีฟ้าครามสดใส และยังมีรูปปั้นนางเงือกที่เป็นสัญลักษณ์ของชายหาดแห่งนี้อีกด้วย หรือใครที่ชื่นชอบการทำกิจกรรมกลางน้ำ ที่นี่ก็มีกิจกรรมสนุกๆ อย่างการแล่นเรือใบ และเล่นบานานาโบ๊ทให้คุณได้ลองเล่นเช่นกัน

4.เขาตังกวน

เขาตังกวน จุดชมวิวสวยที่นักท่องเที่ยวจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด เพราะมองเห็นวิวทิวทัศน์รอบเมืองสงขลาได้อย่างชัดเจนที่สุด ซึ่งใครที่ตั้งใจจะมาถ่ายรูปวิวสวยๆ ก็ต้องมาเที่ยวที่เขาตังกวนกันเลย แต่ก็อย่าลืมเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินขึ้นเขากันด้วย เพื่อจะได้เดินไปถึงยอดเขาได้โดยไม่มีปัญหานั่นเอง

5.ย่านเมืองเก่าสงขลา

ลองไปสัมผัสกับเสน่ห์เมืองเก่าแก่ของสงขลากันบ้าง โดยที่นี่จะเป็นย่านเมืองเก่าที่ยังคงมีบ้านเรือนแบบดั้งเดิมให้ได้ชมกัน ซึ่งหาชมได้ยากมากทีเดียว โดยใครที่ได้ลองมาเที่ยวที่นี่กันแล้วก็อย่าลืมถ่ายรูปกลับไปเก็บไว้เป็นภาพความทรงจำดีๆ กันด้วย

6.เกาะยอ

เกาะยอเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลา ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่น่าหลงใหล โดยที่นี่คุณจะได้สนุกกับการล่องเรือประมงในทะเลสาบ และได้ชมวิถีชีวิตของชาวบ้านที่นี่ รวมถึงการทอผ้าพื้นเมืองที่มีให้ชมเฉพาะที่เกาะยอเท่านั้น เพราะฉะนั้นห้ามพลาด

จังหวัดสงขลา ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจไม่น้อยเลย ซึ่งหากคุณกำลังมองหาที่เที่ยวโดนใจอยู่ล่ะก็ ลองมาเที่ยวตามสถานที่เหล่านี้กันดูแล้วคุณจะต้องชอบอย่างแน่นอน

กิจกรรมสุดสนุกบนเกาะพงัน ที่มาแล้วห้ามพลาด

ไปเที่ยวเกาะพงันไปทำอะไรดี วันนี้เรามีกิจกรรมสุดสนุกบนเกาะพงันที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเด็ดขาดมาแนะนำกัน โดยแต่ละกิจกรรมนั้นต้องบอกเลยว่าเด็ดจริง แล้วคุณจะได้รับประสบการณ์และความทรงจำดีๆ จากการมาเที่ยวครั้งนี้อย่างแน่นอน

1.ดำน้ำตื้น

ใครที่ชอบการดำน้ำดูปะการัง มาเที่ยวเกาะพงันไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะมีจุดดำน้ำตื้นอยู่ที่แม่หาด เป็นจุดที่ปะการังสวยมากจึงมีนักท่องเที่ยวนิยมมาดำน้ำกันเป็นประจำ ทั้งนี้หากใครไม่ได้เตรียมอุปกรณ์สำหรับดำน้ำมา ก็สามารถมาเช่าจากรีสอร์ทใกล้ๆ กับแม่หาดได้อีกด้วย

2.พายเรือคายัค

สัมผัสกับประสบการณ์สุดเร้าใจกับการพายเรือคายัคชมรอบเกาะพงัน ซึ่งที่นี่ก็มีบริการให้เช่าเรือคายัคหลายจุด และได้มีการตรวจเช็คอย่างดีก่อนนำเรือมาให้นักท่องเที่ยวเช่า จึงหมดกังวลเรื่องความปลอดภัยไปได้เลย

3.ปีนเขาลา

มาถึงเกาะพงันทั้งทีก็จะพลาดไม่ได้เลยกับการปีนเขาลา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสุดสนุกที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะไม่พลาด เพราะเมื่อปีนขึ้นไปถึงยอดเขา คุณจะสามารถมองเห็นวิวทะเลรอบเกาะพงันได้อย่างสวยงามที่สุด โดยจะต้องใช้เวลาในการปีนประมาณ 2 ชั่วโมง ดังนั้นถ้าจะปีนเขาก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อมกันด้วย

4.ชมพระอาทิตย์ตก

ถือเป็นไฮไลท์เด็ดของเกาะพงันเลยทีเดียว กับการชมพระอาทิตย์ตกในยามเย็น ซึ่งก็มีความงดงามไม่เหมือนที่ไหนๆ เลยทีเดียว เพราะฉะนั้นถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการชมพระอาทิตย์ตกท่ามกลางบรรยากาศสุดชิล ก็ต้องลองมาชมที่เกาะพงันกันดู แล้วคุณจะพบว่าสวยงามมากแค่ไหน

5.คลายร้อนที่น้ำตก

บนเกาะพงันมีน้ำตกที่สวยมาก โดยหากคุณต้องการเปลี่ยนบรรยากาศจากการเล่นน้ำทะเลหรือว่ายน้ำในสระที่รีสอร์ท ก็สามารถมาเล่นน้ำคลายร้อนที่น้ำตกกันได้ ซึ่งนอกจากจะได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิดแล้ว ก็ไม่ต้องกลัวผิวเสียเหมือนการเล่นน้ำทะเลท่ามกลางแสงแดดจ้าอีกด้วย

6.อิ่มอร่อยกับอาหารทะเล

ที่นี่คุณจะได้กินอาหารทะเลที่สดจริงและที่สำคัญอร่อยมาก เพราะร้านอาหารทะเลบนเกาะพงันล้วนมีเชฟฝีมือดีทั้งสิ้น ทั้งยังมีเมนูซีฟู้ดให้เลือกหลายเมนู ซึ่งใครที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำกิจกรรมต่างๆ มา ก็ลองแวะมาชิมอาหารทะเลรสเด็ดกันดู รับรองว่าติดใจจนต้องสั่งเพิ่มแน่นอน

7.สำรวจอุทยาน

อีกหนึ่งกิจกรรมบนเกาะพงันที่จะพลาดไม่ได้เลยก็คือการไปสำรวจอุทยานอ่างทองนั่นเอง ซึ่งก็เป็นอุทยานที่มีความเก่าแก่และมีการออกแบบได้สวยงามตระการตา ควรค่าแก่การมาเที่ยวชมเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ก็รับรองเลยว่าจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง

มีแต่กิจกรรมที่น่าสนใจทั้งนั้นเลยใช่ไหม เพราะฉะนั้นเมื่อมาเที่ยวเกาะพงันก็อย่าพลาดที่จะไปทำกิจกรรมเหล่านี้ให้ครบถ้วนกันด้วย และการมาเที่ยวเกาะพงันครั้งนี้จะไม่เสียเที่ยวแน่นอน

พัทยา ทริปใกล้กรุงเทพ มีเวลาน้อยแค่วันเดียวก็ไปได้

วันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้ หากอยากออกไปเที่ยวที่ไหนสักแห่ง ที่เพียงแค่ใช้เวลาแค่วันเดียว แบบเช้าไปเย็นก็กลับได้ ไม่จำเป็นต้องค้างคืน หาข้าวทานดี ๆ สักมื้อ และกิจกรรมที่น่าสนใจสักอย่างสองอย่างให้กับคนในครอบครัว ไม่จำเป็นต้องขับรถไกล เพราะทุกวันนี้แสนเบื่อกับชีวิตในเมือง ที่มีแต่การเดินเล่นในห้าง เบียดเสียดกับผู้คน ที่ต่างพากันออกไปจับจ่ายใช้สอย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารต่าง ๆ ที่เต็มไปด้วยผู้คนมากมาย เรามาหลีกหนีความจำเจของคนเมือง แล้วลองขับรถไปใกล้ ๆ แค่พัทยาดูสิ

พัทยา เป็นเมืองที่ใกล้กรุงเทพ ขับรถเพียงแค่ชั่วโมงนิด ๆ และเป็นเมืองที่มีพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นแหล่งชอปปิ้ง แหล่งท่องเที่ยวที่ต่างกันออกไป ขับรถออกจากกรุงเทพช่วงสาย ๆ เพื่อไปถึงให้ได้รับประทานอาหารเที่ยง โดยหากเราอยากเพียงแค่เห็นทะเล เราไม่จำเป็นต้องนั่งเรืออกไปไกลถึงเกาะต่าง ๆ ลองหาร้านที่สามารถมองเห็นวิวทะเลได้ พูดคุยกับคนในครอบครัว ที่ปกติไม่ค่อยได้มีเวลานั่งคุยกันมากนัก รับประทานอาหารทะเลสด ๆ พร้อมนั่งมองฟ้า มองน้ำทะเล ไม่ต้องเร่งรีบไปไหน เท่านี้ก็ผ่อนคลายสบายใจแล้ว

ร้านอาหารในพัทยา ยังมีตัวเลือกให้เรามากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารนานาชาติ อาหารท้องถิ่นต่าง ๆ อิ่มจากอาหารเที่ยง ชักชวนเด็ก ๆ ไปเล่นน้ำในสวนน้ำที่มีตั้งสองแห่ง ทั้งสวนน้ำรามายณะ ซึ่งจัดเป็นสวนน้ำอันดับที่ 1 และใหญ่ที่สุดของประเทศ ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่าร้อยไร่ แม้จะเนื้อที่ใหญ่ขนาดนี้ แต่ในเรื่องของความปลอดภัยนั้นไม่ต้องเป็นห่วง เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ ที่ได้รับการฝึกฝนและรับรองจากประเทศอเมริกา มั่นใจได้ในความเป็นมืออาชีพ ทำให้เราเล่นน้ำได้อย่างสนุกสนานไม่ต้องกังวลกับะไร หรือจะไปสวนน้ำการ์ตูนเน็ตเวิร์ค อเมซอน ที่เด็ก ๆ จะได้เจอกับการ์ตูนตัวโปรดจากช่องการ์ตูนเน็ตเวิร์คด้วย หรือถ้าหากไม่อยากเล่นน้ำ จะพาเด็ก ๆ ไปเที่ยวที่สวนสนุกในร่มอย่างฮาร์เบอร์แลนด์ก็ได้ หรือหากอยากจะเสริมความรู้ให้เด็ก ๆ อีกสักหน่อย ก็ลองพาไปเมืองจำลอง พัทยาดู ที่ซึ่งรวมสถานที่สำคัญต่าง ๆ ไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นของประเทศไทยและของโลกด้วย ทั้งยังมีสนามโกคาร์ทสำหรับเด็ก ๆ หากหิวก็มีร้านแมคโดนัลด์ให้ได้นั่งพักทานอาหารด้วย แนะนำให้ไปช่วงเย็น ๆ จะได้ไม่ร้อนมาก ถ้ามีเวลาพอเหลือ หากเป็นไปได้ ไม่ควรพลาดชมความงามของการแกะสลักไม้ที่ยิ่งใหญ่และวิจิตรตระการตาน่าชม ปราสาทสัจธรรมที่ซึ่งจัดเป็น งานสถาปัตยกรรมอีกชิ้นเอกของโลก เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่อย่าลืมพลาดเช็คอิน

ด้วยระยะทางที่ใกล้กรุงเทพ ไม่ต้องเหนื่อยกับการเดินทางไปที่ไกล ๆ แต่ก็มีพร้อมทุกอย่างให้คุณได้เลือกทำกิจกรรมตามความสนใจและความชอบของครอบครัวในทุกวัย พัทยาจึงเป็นอีกตัวเลือก ในการพักผ่อนระยะใกล้ ๆ ที่เหมาะสำหรับสมาชิกทุกคนในครอบครัว

รีบจัดกระเป๋าแล้วตามไปเมืองเล็ก ๆ น่ารักอย่างชุมพรกันเถอะ

เมื่อคิดถึงทะเลที่ไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก จ.หัวหิน เป็นสถานที่อันดับต้น ๆ ที่นักท่องเที่ยวจะคิดถึง เนื่องจากเป็นจังหวัดที่ใช้เวลาขับรถ ไม่เกินสามถึงสี่ชั่วโมงก็มาถึงตัวจังหวัดได้อย่างสบาย ๆ แต่เมื่อใคร ๆ ก็นึกถึงแต่หัวหิน ทำให้ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเยอะมาก และน้ำทะเลก็ไม่ได้เป็นที่นิยมเล่นสักเท่าไหร่ แต่หากเราลองขับรถเลยไปหน่อย อีกไม่เกินสามร้อยกิโลเมตร เราก็จะได้เล่นน้ำทะเลใสสะอาด ที่จ.ชุมพรแล้ว

จ.ชุมพร เป็นจังหวัดเล็ก ๆ ที่หากย้อนไปเมื่อสิบถึงยี่สิบปีก่อน เราจะพบว่าไม่ค่อยมีใครเอ่ยถึงเท่าไหร่นัก นั่นอาจเป็นเพราะ เป็นจังหวัดที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจ เพราะเปรียบเหมือนเป็นจังหวัดทางผ่าน ที่จะลงไปสู่ภาคใต้ แต่ช่วงระยะเวลาสี่ห้าปีที่ผ่านมานี้ นับว่าเป็นจังหวัดที่น่าสนใจ และมีผู้คนเข้าไปท่องเที่ยวกันมากขึ้น แม้จะเป็นจังหวัดแรก ที่จะนำพาเราไปสู่จังหวัดทางภาคใต้อื่น ๆ แต่ด้วยความสงบเงียบของอำเภอเมือง และท่าเรือที่สำคัญ ที่จะพาเราไปสู่เกาะเต่า เกาะที่มีพื้นที่ครอบคลุมทั้งจังหวัดสุราษฏร์ธานี และจังหวัดชุมพร พร้อมที่พักที่หลากหลาย มีให้เลือกมากมาย หลายราคา แล้วแต่ความสะดวกต่องบประมาณในกระเป๋าของแต่ละคน อาหารท้องถิ่นที่มีความอร่อยตามแบบฉบับของอาหารใต้ เมืองชุมพร จึงเป็นเมืองหนึ่งที่น่าไปพักผ่อน ไปเยี่ยมชมความเป็นธรรมชาติ และเรียบง่ายของผู้คนภาคใต้

เราอาจไม่จำเป็นต้องเดินทางข้ามเรือไปถึงเกาะเต่า เพื่อได้สัมผัสกับท้องทะเลที่สวยงามและใสสะอาด แต่หากนั่งรถห่างออกไปจากตัวเมือง ไปยังอำเภอปะทิว เพียงแค่ไม่เกิน 20 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณไม่เกินครึ่งชั่วโมง เราจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศของทะเลภาคใต้ น้ำใส และลงเล่นได้ แนะนำไปให้ถึงก่อนพระอาทิตย์ตก เพื่อมีเวลาเดินเล่นทอดน่องบนชายหาด ให้เท้าได้สัมผัสกับเม็ดทรายขาวละเอียด ก่อนที่เส้นขอบฟ้าจะเปลี่ยนเป็นสีส้ม ซึ่งหมายถึง พระอาทิตย์กำลังจะบอกลาไปพักผ่อน ก่อนที่จะขึ้นมาทำหน้าที่ใหม่ในพรุ่งนี้เช้า จากนั้นก็หาร้านขายอาหารทะเลริมหาด ซึ่งมีอยู่มากมาย หลายร้าน ให้เราเลือกนั่งพักผ่อนหย่อนใจ และดื่มสังสรรค์กับเพื่อนเพื่อผ่อนคลาย แล้วค่อยขับรถกลับที่พักเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับที่เที่ยวอื่น ๆ ในวันถัดไป วันรุ่งขึ้น อาจจะเปลี่ยนบรรยากาศไปลองดำน้ำที่เกาะเต่า เกาะที่ขึ้นชื่อด้านความสวยงามของแนวปะการัง และเป็นเกาะที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ต่างอยากไปสัมผัสถึงความงดงามให้ได้สักครั้ง ก็สามารถนั่งเรือ ซึ่งใช้เวลาประมาณไม่เกินสองชั่วโมง เท่านี้ก็ถึงเกาะแล้ว นอนพักบนเกาะอีกสักคืน เพื่อไม่ให้ร่างกายต้องเหนื่อยเกินไป

จ.ชุมพร จึงนับเป็นอีกสถานที่เที่ยวหนึ่ง ที่วันนี้ ไม่ใช่แค่เมืองทางผ่านแล้ว แต่หากยังเป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยว มีน้ำทะเลที่ใสสะอาด สามารถลงเล่นได้ และเป็นเมืองที่ไม่ได้มีความวุ่นวายมากนัก จึงนับป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ และน่าลองแพคกระเป๋าออกไปลอง ในวันพักผ่อนของคุณดูสักครั้ง

เก็บกระเป๋า เที่ยวเมืองปาย เมืองเล็ก ๆ แต่น่ารัก

ย่างเข้าหน้าหนาวแบบนี้ หากได้เก็บกระเป๋าไปพักผ่อนกับคนรู้ใจเพื่อท่องเที่ยวที่ไหนสักแห่ง ไม่ต้องเร่งรีบกับอะไร ลืมภาระที่หนักอึ้งไว้ช่วงขณะ เมืองปายถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ควรไป จากเมืองเล็ก ๆ น่ารักเมืองหนึ่ง ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จนตอนนี้ก็เป็นที่นิยมของชาวต่างชาติที่ได้เข้าไปสัมผัสกับมนตร์เสน่ห์กับความอบอุ่นของเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้เพิ่มเติมกันมากขึ้น

จากการเดินทางที่แสนจะท้าทาย ด้วยความโค้งของถนนกว่า 700 โค้งตลอดทาง เป็นระยะเวลากว่าสามชั่วโมงจากตัวเมืองเชียงใหม่ถึงอำเภอเมืองปาย นับว่าเป็นความน่าค้นหาและเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของการเดินทางเข้าไปในอำเภอเล็ก ๆ แห่งนี้ เพราะกว่าจะไปถึงก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายนัก คนที่เมารถง่าย ๆ อาจถึงขั้นวิงเวียน คลื่นไส้กันเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ตาม ทัศนียภาพสองข้างทางก็อาจทำให้คุณลืมความรู้สึกดังกล่าวได้หมดสิ้น เพราะความสวยงามของต้นไม้และภูเขาที่ทอดยาวให้ได้ชม อากาศเย็นที่ปะทะใบหน้า ทำให้รู้สึกสดชื่น จนทำให้คุณเพลิดเพลินกับการเดินทาง จนทำให้ลืมความยากลำบากของเส้นทางที่คดเคี้ยวไปตลอดทาง เมื่อลงจากรถและถึงในตัวอำเภอแล้ว

คุณสามารถเลือกเข้าพักที่พักซึ่งค่อนข้างหลากหลาย มีทั้งระดับห้าดาว หรูหรา ไปจนถึงเกสต์เฮาส์เล็ก ๆ ราคาตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน เมื่อเอาของเข้าที่พักเสร็จแล้ว อย่าลืมไปสำรวจร้านกาแฟชิค ๆ ที่มีให้นั่งดื่มอยู่หลายร้าน ทอดอารมณ์ได้อย่างสบายใจ ส่วนตอนเย็นก็สามารถเดินถนนคนเดิน ซึ่งร้านรวงต่าง ๆ จะเริ่มออกมาเปิดให้ได้นั่งทานอาหารกัน อิ่มแล้วก็เดินเล่นดูของฝากไปให้คนที่บ้านหรือเพื่อน ๆ เขียนโปสการ์ดสวย ๆ สักใบสองใบ สำรวจร้านหนังสือ ซื้อหยิบติดมือกลับไปที่พักไว้อ่านเล่น  หรือจะดื่มเบียร์พร้อมฟังดนตรี แลกเปลี่ยนมุมมองกับเพื่อนใหม่ ๆ ก็ทำได้เช่นกัน นอกจากนี้ หากอยากจะออกไปสำรวจสถานที่เที่ยวอื่น ๆ เช่นปางอุ๋ง ชมความสวยงามของสายหมอกยามเช้า แวะหมู่บ้านรักษ์ไทย ดูความงดงามของสิ่งก่อสร้าง บ้านเรือนที่ทำจากดิน พร้อมชิมหมั่นโถวที่ใครมาต้องควรลอง แวะชมหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาว เรียนรู้วัฒนธรรมอีกหนึ่งชนเผ่าเล็ก ๆ ของประเทศไทย เราสามารถหาซื้อทัวร์ ที่มีให้บริการอยู่หลายเจ้าบนถนนคนเดิน ตามความสะดวก นัดหมายเวลา เพื่อเตรียมพร้อมเที่ยวต่อในวันรุ่งขึ้น ช่วงเวลาที่ควรจะไปเที่ยวเมืองปาย ที่แนะนำคือช่วงปลายฝนต้นหนาว ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนกันยายนไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน เพราะอากาศจะดีมาก ธรรมชาติสวย ๆ พร้อมให้รอชมและถ่ายรูปกลับไป

เมืองปาย นับเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจในการเที่ยวปลายปีเช่นนี้ เพราะธรรมชาติที่ยังคงความงดงาม วัฒนธรรมที่หลากหลาย อาหารพื้นเมืองที่อร่อย ที่ต้องลองไปกับคนพิเศษ เป็นอีกหนึ่งเมืองที่โรแมนติคโดยเฉพาะสำหรับคู่รัก

เที่ยวใกล้กรุง ผ่อนคลายสบายใจ ไปกับสายน้ำใสสะอาดเย็นชื่นใจ ที่ “น้ำตกเอราวัณ”

หากต้องการเดินทางท่องเที่ยวที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน แต่ได้มีโอกาสโอบกอดกับธรรมชาติ ได้สูดลมหายใจให้เต็มปอด ไปแช่น้ำเย็น ๆ ให้ชื่นใจ เติมพลังงานให้กับชีวิต นอนพักผ่อนดูดวงดาวสักคืน แต่ไม่อยากเดินทางไปไกลจากกรุงเทพมากนัก ใช้เวลาเพียงแค่เสาร์อาทิตย์ วันจันทร์ก็กลับมาทำงานต่อได้ ลองแวะไปเที่ยวน้ำตกเอราวัณกันเถอะ

น้ำตกเอราวัณ ตั้งอยู่ในเขต อ.ศรีสวัสดิ์ ของ จ.กาญจนบุรี ห่างจากกรุงเทพ เป็นระยะทางเกือบ ๆ 200 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียง เพราะความสวยงามตระการตาของน้ำที่งดงามดั่งสีเขียวของมรกต และมีความสูงทั้งหมดถึง 7 ชั้น ซึ่งเราสามารถลงเล่นน้ำได้ทุกชั้น และหากเป็นไปได้ แนะนำให้เดินขึ้นไปสำรวจทุกชั้น เพราะแต่ละชั้นก็มีความสวยงามแตกต่างกันไป เช่นน้ำตกชั้นที่สอง เราจะตื่นตะลึงกับม่านน้ำตก ที่สวยงามและอลังการเหมือนภาพวาด เสียงน้ำที่ไหลลงมา กระทบกับพื้นน้ำเหมือนนักร้องที่กำลังตั้งใจร้องเพลงให้เราฟังอย่างไพเราะ นั่งฟังเพลิน ๆ จุ่มเท้าแช่น้ำ ให้ปลาพลวงตอดเล่น ก็สบายใจดี ระหว่างทางที่เดินขึ้นไปแต่ละชั้น จะได้พบกับเจ้าดอกกล้วยไม้ ที่ออกช่อต้อนรับตลอดทาง แนะนำว่าหากตั้งใจจะมาเที่ยวที่นี่ เตรียมพร้อมสำหรับร่างกายหน่อยก็ดี แม้ทางเดินของแต่ละชั้นจะไม่ได้ห่างกันมาก แต่ความสูงชันของเส้นทาง คงต้องใช้พละกำลังอยู่พอสมควร และควรมาให้เช้าหน่อย เพราะในส่วนของชั้นที่ 5 ทางอุทยานจะปิดไม่ให้ขึ้นไปในช่วงเวลา 15.30 น. หากต้องการสำรวจให้ครบทุกชั้น อย่าลืมหาอาหารรองท้องก่อนเข้าไปเล่นน้ำตก เพื่อที่จะได้ไม่หิวจนเกินไป และควรเตรียมน้ำไปให้พร้อมด้วย เราจะได้เล่นน้ำอย่างสนุกและต่อเนื่อง และเนื่องจากน้ำตกเอราวัณ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ เราสามารถจองชื่อเข้าพักในอุทยานแห่งชาติได้เช่นกัน หรือจะกางเต็นท์ก็ดี เพราะทางอุทยานมีเต็นท์ให้เช่า เพราะหากไปถึงที่แล้วควรจะได้นอนค้างสักคืน ชมความงามของเหล่าดวงดาวที่ทอแสงเปล่งประกายเจิดจ้าในท้องฟ้า ให้เสียงจิ้งหรีดเรไร ได้ขับกล่อมเรา ให้ค่ำคืนนั้นเป็นอีกคืนที่แสนพิเศษของคุณ

ใช้เวลาให้คุ้มค่า ไปกับความเย็นของน้ำใส ๆ ที่สัมผัสตัวเรา ซึ่งจะทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด และหากได้พักผ่อนแช่น้ำจนอิ่มใจแล้ว อย่าลืมเก็บขยะที่เอาขึ้นไปลงมาทิ้งด้วย และไม่ควรหยิบก้อนหินหรืออะไรก็ตามออกมาจากน้ำตก เพียงแค่ถ่ายรูปความงดงามของน้ำตกให้คนที่บ้านได้เห็นภาพความงดงามอย่างที่สายตาเราได้เห็น เขียนโปสการ์ดสวย ๆ สักใบ ส่งถึงคนพิเศษที่เราคิดถึง ก็น่าจะเพียงพอแล้ว น้ำตกเอราวัณของเราจะได้สวยและอยู่ให้เราได้ชื่นชม และเราจะได้มีโอกาสเล่นไปนาน ๆ ความอิ่มเอมใจบางทีอาจไม่ต้องตามหาจากที่ไหนเลย แค่สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราได้มีส่วนร่วมทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้น ก็ทำให้เราสุขใจได้มากแล้ว

“เกาะพิทักษ์” สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านและความงียบสงบ ช่างดีต่อใจ

หากคิดถึงทะเล รักการท่องเที่ยวที่ได้เห็นน้ำทะเลสีฟ้า ออกไปดำน้ำ ชื่นชมความสวยงามใต้ท้องทะเล จังหวัดต่าง ๆ ที่ประกอบด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยทางภาคใต้ฝั่งอันดามัน ดูจะเป็นคำตอบและทางเลือกที่หลาย ๆ คนนึกถึง เนื่องจากชื่อเสียงด้านความงดงาม และแหล่งดำน้ำดูปะการัง ที่ดีที่สุดและสวยงามจนติดอันดับโลก จนกระทั่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต่างพากันแวะมาเยี่ยมเยือนทะเลไทยของเราอย่างต่อเนื่อง นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งของคนไทย หากแต่ความเนืองแน่นของนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลไปยังเกาะชื่อดังต่าง ๆ เหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็น เกาะพะงัน เกาะสมุย เกาะเต่า จึงทำให้เกาะเหล่านั้นเต็มไปด้วยผู้คน และวุ่นวายอยู่มาก อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ผู้ที่กำลังตามหาการพักผ่อนที่นอกจากได้เห็นความสวยงามของท้องทะเลแล้ว ยังไม่วุ่นวายจนเกินไปอีกด้วย นั่นคือเกาะพิทักษ์ จ.ชุมพร

เกาะพิทักษ์ อยู่ในเขตอำเภอหลังสวน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ เชิงสัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้าน ที่เริ่มเป็นที่รู้จักในกลุ่มของนักท่องเที่ยวในช่วงสองสามปีก่อน และเนื่องจากยังไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมเยียนมากนัก ทำให้สภาพโดยรวมของเกาะพิทักษ์ยังมีความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก ความน่าสนใจของเกาะพิทักษ์คือการได้สัมผัสกับการใช้ชีวิตของชาวบ้านอย่างใกล้ชิด เนื่องจากที่พักบนเกาะเป็นแบบโฮมเสตย์ มีจำนวนทั้งหมดไม่ถึง 20 หลังทั่วทั้งเกาะ ก่อให้เกิดบรรยากาศที่ดูเหมือนเก็บกระเป๋าไปพักผ่อนกับญาติสนิท นอกจากนี้ที่พักก็ยังราคาไม่ถึงพัน ประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้เยอะ ส่วนกิจกรรมบนเกาะ ที่มีให้เลือกทำก็หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การปั่นจักรยาน ชมความสวยงามของเกาะโดยรอบ สังเกตการดำเนินชีวิตของผู้คนบนเกาะ ล่องเรือออกไปดำน้ำชมประการังน้ำตื้น รับประทานอาหารทะเลสด ๆ ที่นำขึ้นมาจากทะเลที่เราเห็นอยู่เบื้องหน้า หรือจะเดินเที่ยวรอบเกาะก็ดี นอกจากนี้ ยังมีความพิเศษอีกอย่างของเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้คือ หากเดินขึ้นไปทางทิศเหนือของเกาะ เราจะได้พบจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้ไกลถึง เกาะเต่า เกาะสมุย และเกาะพะงันเลยทีเดียว ทั้งการเดินทางที่แสนสะดวก เพราะอยู่ห่างจาก อ.หลังสวน จ.ชุมพร เพียงแค่ 25 กิโลเมตร ทำให้เราไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยจากระยะทางที่ไกลจนเกินไปอีกด้วย 

หากเราอยากให้การท่องเที่ยวที่เกาะพิทักษ์แห่งนี้ เป็นการพักผ่อนจริง ๆ ลองตื่นสายอีกสักหน่อย ให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ไม่ต้องเร่งรีบเหมือนกับชีวิตที่เราต้องเจออยู่ทุกวันในเมือง เตรียมเปิดใจให้กว้าง พูดคุยกับผู้คนแปลกหน้าที่มีอัธยาศัยไมตรีที่น่ารัก เราอาจจะได้แนวคิดหรือคำแนะนำดี ๆ จากพวกเขา มาปรับใช้ให้เหมาะกับเราก็ได้ ลองพาตัวเองไปเรียนรู้และสัมผัสกับเวลาที่เป็นปัจจุบัน ไม่ต้องคิดถึงเรื่องวันพรุ่งนี้ แต่อยู่กับแค่ช่วงเวลานี้ ความรู้สึกนี้ เกาะพิทักษ์จึงเป็นคำตอบหนึ่ง ที่รอให้คุณได้ค้นพบและสัมผัสความรู้สึกนี้ด้วยตนเอง

พาหัวใจไปแวะพัก ชมความงดงามในท้องทุ่งสีเขียว ของ “ทุ่งแสลงหลวง”

ทำงานเหนื่อยล้ามาทั้งปี หากได้เห็นสีเขียวขจีของท้องทุ่ง ที่เปรียบเสมือนสนามเด็กเล่น ให้เราได้ผ่อนคลาย มองใบไม้ ต้นหญ้า โอนอ่อนไหวไปตามแรงลม สีเขียวตัดกับความอ่อนโยนของท้องฟ้า ที่มีเมฆปกคลุมอยู่จาง ๆ ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในเทพนิยายอีกเรื่องหนึ่ง ที่รอคอยเราเข้าไปค้นหาความเพลิดเพลินและความสวยงามของเทพนิยายนั้น คงจะทำให้เราอิ่มเอมใจได้ไม่มากก็น้อย ลองแวะไปพักใจที่ทุ่งแสลงหลวง ซึ่งจัดเป็นป่าสะวันนา และยังคงไว้ซึ่งความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก ไม่ใช่เพียงแค่ความงดงามของท้องทุ่งสีเขียวอร่ามนั้น หากแต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการทำกิจกรรมของครอบครัวด้วย เพราะมีทั้งน้ำตก ลำธาร รวมถึงเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ใครเป็นนักผจญภัย คงไม่อยากพลาด แม้กระทั่งเส้นทางสำหรับใครที่ชื่นชอบการปั่นจักรยาน ก็มีเช่นกัน หรือแค่ได้เอนกายพักผ่อนเหยียดแข้งเหยียดขา ผ่อนคลายความเหนื่อยล้า พร้อมสูดอากาศบริสุทธ์ให้เต็มปอดก็ดีไม่ใช่น้อย

ทุ่งแสลงหลวง เป็นหนึ่งในสถานที่ ที่ควรหาเวลาไปเยี่ยมชมให้ได้สักครั้งหนึ่ง ด้วยขนาดพื้นที่ ที่กว้างใหญ่นั้น ทำให้มีอาณาเขตกินอาณาบริเวณถึงสองจังหวัดด้วยกัน ทั้งจังหวัดเพชรบูรณ์และจังหวัดพิษณุโลก นอกจากนี้ หากได้ไปเยี่ยมชมทั้งในช่วงฤดูฝน หรือฤดูหนาว ก็จะให้ความรู้สึกที่ต่างกันออกไปด้วย หากได้ไปช่วงฤดูฝน ความชุ่มชื่นของป่าสะวันนาพร้อมการทักทายจากดอกกระเจียวสีขาว ที่เริ่มชูช่อขึ้นมา เหมือนรับรู้ได้ ถึงความรู้สึกของผู้มาเยือน กลิ่นหอมของไอดินที่แตะจมูกเบา ๆ ดื่มกาแฟ ชมภาพความสวยงามของท้องทุ่ง ทิ้งความกังวลไว้เบื้องหลัง ถือเป็นการพักผ่อนที่แสนวิเศษ หรือหากได้ไปเยี่ยมชมในช่วงฤดูหนาว ซึ่งอากาศจะหนาวเย็นมาก เหมาะกับการไปสัมผัสความหนาว สูดโอโซนบริสุทธิ์จากต้นไม้ใบหญ้า ใครไม่กลัวความหนาว แนะนำให้ปั่นจักรยาน ดูความงดงามของท้องทุ่ง ปล่อยสายลมแตะหน้าเบา ๆ ให้ความรู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก นับว่าเป็นกิจกรรมดี ๆ อีกอย่างหนึ่งที่ไม่ควรพลาด และด้วยความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ หากโชคดี เราอาจได้พบเจอกับนกหลากหลายพันธุ์ต่าง ๆ เตรียมกล้องไว้ให้ดี คุณอาจได้รูปสวย ๆ กลับมาฝากคนที่บ้าน ให้ได้ร่วมสัมผัสความงดงามเสมือนได้เดินทางมาด้วย

หากคุณกำลังมองหาสถานที่ ที่ทำให้ช่วงเวลาของคุณมีค่า เพื่อให้ธรรมชาติขับกล่อม หลีกหนีความวุ่นวายจากสังคมเมือง ปล่อยใจ ทอดกายให้ห้วงเวลาผ่านไปเนิบช้า เพื่อให้ความคิดของเราได้มีเวลาตกตะกอน และนำพลังเหล่านั้นกลับไปทำงานสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้ต่อไป ที่นี่ก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกนึงที่หากลองไปแค่สักครั้ง แล้วคุณจะอยากกลับมาอีกแน่นอน

เที่ยวตามรอย “คู่กรรม” สุดยอดวรรณกรรมอมตะของไทย

“คู่กรรม”  วรรณกรรมอมตะ ที่ถูกนำเสนอทั้งในรูปแบบหนังสือ ภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์ โดยมีการทำใหม่หลากหลายเวอร์ชั่น และโด่งดังทุกเวอร์ชั่น โดยเฉพาะฉบับของป๋าเบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ เป็นบทประพันธ์ ที่ประพันธ์โดยคุณทมยันตี  ทำให้หวนระลึกถึงและอยากเชิญชวนให้คุณออกเดินทางย้อนเวลาไปในห้วงเวลาสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ลัดเลาะสถานที่สำคัญในบทประพันธ์ สถานที่ที่โกโบริและอังศุมาลินได้พานพบและพลัดพราก

  • คลองบางกอกน้อยอังศุมาลิน อาศัยอยู่กับแม่อรและยาย ในบ้านสวนริมคลองบางกอกน้อย เธอได้พบกับโกโบริ นายทหารญี่ปุ่น ขณะที่ว่ายน้ำไปแอบดูอู่ต่อเรือของทหารญี่ปุ่นในละแวกใกล้ ๆ บ้าน

เชื่อกันว่าเดิมทีคลองบางกอกน้อยนี้เป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ในยุคนั้นชาวบ้านชุมชนริมคลองบางกอกน้อย จะใช้คลองนี้ในการสัญจรหลัก การที่ได้มาล่องเรือผ่านคลองทำให้นึกจินตาการไปว่า ถ้าอังศุมาลินมีตัวตนจริงไม่ใช่มีเพียงแค่ในบทประพันธ์ บ้านของเธอน่าจะอยู่ตรงไหนสักแห่งละแวกนี้

  • สถานีรถไฟบางกอกน้อยในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่นใช้สถานีรถไฟบางกอกน้อย เป็นที่ตั้งกองกำลัง โดยอาศัยเส้นทางรถไฟสายนี้ในการลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ เสบียง และสิ่งของ ไปยังจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อสร้างเส้นทางรถไฟเข้าสู่ประเทศพม่า ที่นี่จึงเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ และในท้ายที่สุดก็ถูกโจมตีทางอากาศจนย่อยยับในเวลา 02.30 น. ของวันที่ 29 พฤศจิกายน 2487 ซึ่งในบทประพันธ์ได้กำหนดให้โกโบริต้องจากอังศุมาลินไปตลอดกาลในวันนี้นี่เอง

ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น สถานีรถไฟธนบุรี และยังคงเปิดใช้บริการวิ่งไป-กลับ ในเส้นทางมุ่งสู่สถานี ประจวบคีรีขันธ์ หลังสวน น้ำตก ราชบุรี และศาลายา  ในบริเวณใกล้เคียงนี้ยังมีโรงรถจักรธนบุรี ซึ่งเป็นสถานีบำรุงรักษา-ซ่อมแซม รถจักรดีเซล และเป็นที่เก็บรักษารถจักรไอน้ำของการรถไฟฯ ที่ยังคงใช้การได้ 5 คัน ใช้สำหรับลากจูงขบวนรถพิเศษในโอกาสสำคัญอีกด้วย

การท่องเที่ยวแบบชิล ๆ เพื่อซึมซับบรรยากาศตามรอยวรรณกรรมอมตะ “คู่กรรม”  ทั้ง 2 แห่งภายในวันเดียวนั้นไม่ยากเลย เริ่มจากซื้อทัวร์ล่องเรือท่องเที่ยวคลองบางกอกน้อยที่ท่าช้าง โดยจะมีให้เลือก ทั้งเรือหางยาว เรือบัส และเรือเอี้ยมจุ๊น (สามารถเช็คราคาทัวร์ได้จากหลายบริษัทที่บริเวณท่าเรือ) การเดินทางท่องเที่ยวจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ (ขึ้นอยู่กับแพ็กเก็จและเส้นทางที่เลือก) เมื่อกลับมาถึงท่าช้าง ให้ต่อเรือข้ามฟากไปขึ้นที่ท่าพรานนก สามารถนั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างสาธารณะต่อไปที่สถานี หรือจะเดินชิล ๆ เก็บเกี่ยวบรรยากาศระหว่างทางก็ได้ ซึ่งจะใช้เวลาราว 15 นาที  โดยเลี้ยวขวาเข้าศิริราชเดินทะลุไป จากนั้นเลี้ยวซ้ายเดินต่อไปก็จะถึงสถานีรถไฟบางกอกน้อย (สถานีธนบุรีในปัจจุบัน)

 

เที่ยวอุทยานแห่งชาติใครว่าจะไปแต่ป่า….เกาะกลางน้ำทะเลสีฟ้าก็มีนะเธอ

เมื่อพูดถึงการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ หรือเขตอนุรักษ์ฯหลายคนคงนึกถึงการเที่ยวตามป่าเขา ลำเนาไพร หรือไม่ก็น้ำตก หากแต่จริง ๆ แล้วเขตอนุรักษ์ทางธรรมชาติ เกาะก็เป็นหนึ่งในนั้น ส่งผลให้ระบบนิเวศของเกาะยังคงไว้ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ที่สวยงาม ธรรมชาติที่มีความเกี่ยวข้องกับระบบนิเวศเกาะยังคงสมดุล และดำเนินไปอย่างที่ควรจะเป็น โดยเกาะบางแห่งที่อยู่ในการดูแลของอุทยานแห่งชาติหรือเขตอนุรักษ์ฯ จะไม่มีสัญญาณโทรศัพท์หรือสัญญาณอินเตอร์เน็ต ซึ่งนั่นเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่น่าหลงใหลของหมู่นักท่องเที่ยว ที่ต้องการพาร่างกายมารับกลิ่นอายธรรมชาติของเกาะกลางทะเลอย่างแท้จริง เกาะที่น่าสนใจเหล่านี้มีไม่น้อย อาทิ

เกาะตาชัย

เกาะตาชัยเป็นส่วนหนึ่งในหมู่เกาะสิมิลัน หรืออุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน บนเกาะจะเป็นธรรมชาติมาก ๆ ไม่มีโรงแรม ไม่มีของขาย และไม่สัญญาณโทรศัพท์มือถือ เพราะฉะนั้นทุกคนที่มาเที่ยวต้องมาแบบเช้าไปเย็นกลับ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกาะตาชัยยังคงอุดมสมบูรณ์มากทั้งน้ำทะเลสีฟ้าใสราวกับกระจก มีคลื่นขนาดย่อมซัดเข้าสู่ฝั่งที่เป็นหาดทรายสีขาวสว่างเนื้อเนียนละเอียด ยาวจรดป่าที่เขียวชอุ่มตามแนวชายหาดและภูเขา บริเวณแนวชายหาดมีกลุ่มโขดหินน้อยใหญ่ตามธรรมชาติที่สามารถพบฝูงปูชนิดต่าง ๆ ได้ ด้านบนเกาะยังมีจุดชมวิวซึ่งจะมองเห็นทะเลสีฟ้าใสที่ทอดตัวยาวออกไปไกลจนจรดกับท้องฟ้าคราม บริเวณนี่จะเป็นจุดถ่ายรูปที่นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึกอีกจุดหนึ่ง นอกจากนี้ยังมีเส้นธรรมชาติที่ใช้ศึกษาระบบนิเวศ และสิ่งมีชีวิตที่อาศัยบนเกาะตามธรรมชาติ ซึ่งหากมีข้อสงสัยใด ๆ บนเกาะจะมีเจ้าหน้าที่อุทยานประจำเกาะอยู่เพื่อดูแล และให้คำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมเกาะอีกด้วย

เกาะกำตก

เกาะกำตกหรือเกาะอ่าวเขาควาย อยู่ในการดูแลของอุทยานแห่งชาติแหลมสน จังหวัดระนอง ชายหาดของเกาะดำตกจะมีลักษณะโค้งคล้ายลักษณะของเขาควาย บนเกาะไม่มีร้านค้า สถานบันเทิง เงียบสงบจึงมักมีนักท่องเที่ยวที่ต้องการความสงบเพื่อพักผ่อนมานอนรับลมทะเล ฟังเสียงคลื่นกระทบหาดทราย มองดูท้องฟ้าสีครามกระจ่าง และน้ำทะเลสีฟ้าใส ด้านบนเกาะจะมีจุดชมวิวซึ่งทางขึ้นเป็นเส้นทางค่อนข้างชัน วิวด้านบนจะเห็นอ่าวที่โค้งเข้าหากันเป็นรูปลักษณะคล้ายเขาควายอันสวยงามแปลกตาอย่างชัดเจน หากใครสนใจมาเที่ยวที่เกาะกำตกนั้นเกาะจะเปิดให้เข้าชมในช่วงเดือน พ.ค – ต.ค หรือตามประกาศของอุทยาน

ในช่วงเวลาที่ได้หยุดพักจากหน้าที่การงานอันเร่งรีบ วิถีชีวิตที่วุ่นวาย การหาสถานที่เงียบสงบมาพักผ่อนเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ให้กับร่างกายอันอ่อนล้า การลองมาติดเกาะเหล่านี้สัก 2- 3 ชั่วโมง ปล่อยใจไปกับสายลม แสงแดด และน้ำทะเลก็จะสดชื่นขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว