ใคร ๆ ก็ไปไอซ์แลนด์ ว่าแต่…จะไปช่วงไหนดีนะ?

5 ปีที่ผ่านมานี้ ประเทศไอซ์แลนด์เริ่มเป็นที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยวชาวไทยที่หลงรักการเดินทางท่องเที่ยวสายธรรมชาติ เพราะธรรมชาติของไอซ์แลนด์นั้นมีเสน่ห์แตกต่างจากที่อื่น ๆ ในโลก แต่จะเลือกไปเที่ยวในช่วงฤดูไหนดี เรามาลองดูเสน่ห์ของไอซ์แลนด์ในแต่ละช่วงกันดีกว่า

  • ฤดูร้อน(มิถุนายนสิงหาคม เป็นช่วงที่คึกคักที่สุด และแน่นอนว่าเป็นช่วงที่ค่าครองชีพสูงสุดเช่นกัน เสน่ห์ของฤดูนี้คือพระอาทิตย์เที่ยงคืน โดยพระอาทิตย์จะตกช่วงห้าทุ่ม และยังไม่ทันมืดสนิทดีในช่วงตีสอง พระอาทิตย์ดวงเดิมก็จะขึ้นมาอีกครั้ง จึงสามารถท่องเที่ยวได้แทบจะ 24 ชั่วโมง ซึ่งถือว่าคุ้มค่ากับการท่องเที่ยว สำหรับสภาพอากาศตอนกลางวันอุณหภูมิราว ๆ 24 องศาเซลเซียส คุณจะได้พบกับความเขียวชอุ่มของพืชพันธุ์คลุมดิน ทั้งต้นหญ้าและดอกไม้หลากสีสัน ส่วนต้นไม้ใหญ่ในประเทศพบได้ไม่มากนัก เนื่องจากสภาพดินเป็นดินภูเขาไฟเสียส่วนมาก ในช่วงนี้ถนนทุกสายจะเปิดรับผู้มาเยือน นักท่องเที่ยวสายผจญภัยมักจะนิยมเช่ารถ 4×4 เพื่อมุ่งหน้าสู่ใจกลางเกาะ ที่ซึ่งมีธรรมชาติสวยงามแปลกตาซ่อนอยู่

 

  • ฤดูใบไม้ร่วง(กันยายนพฤศจิกายน) เสน่ห์ของฤดูนี้อยู่ที่ความคุ้มค่าของงบประมาณในการท่องเที่ยว เพราะเป็นช่วงที่อากาศเริ่มหนาวและแห้ง ถ้ามาเที่ยวช่วงต้นฤดู คุณจะยังได้เห็นหญ้าสีเขียวที่หลงเหลือจากฤดูร้อน จากนั้นหญ้าเริ่มค่อย ๆ ทยอยเปลี่ยนจากสีเขียวสดเป็นสีเหลือง สภาพอากาศตอนกลางวันอุณหภูมิราว 12 องศาเซลเซียส พบได้ทั้งลมและฝน แต่เนื่องจากมีช่วงกลางคืนที่ยาวนานขึ้น  ถ้าโชคดีในวันฟ้าเปิดคุณอาจจะมีโอกาสได้พบกับแสงเหนือที่พาดผ่านบนท้องฟ้ายามค่ำคืน ในช่วงนี้ถนนบางสายจะไม่ให้ผ่าน เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว แต่สถานที่ท่องเที่ยวเด่น ๆ บนถนนสายหลักรอบเกาะยังคงสามารถเที่ยวได้ปกติ

 

  • ฤดูหนาว(ธันวาคมมีนาคม) ช่วงนี้นักท่องเที่ยวจะลดน้อยลง เนื่องจากสภาพอากาศในช่วงนี้ไม่ค่อยดีนัก มีโอกาสเกิดพายุหิมะที่ทำให้คุณต้องซุกตัวอยู่แต่ในที่พัก จึงควรเผื่อเวลาท่องเที่ยวไว้หลาย ๆ วัน  ช่วงเวลากลางวันจะเหลือเพียง 5 ชั่วโมงโดยประมาณ เพราะฉะนั้นต้องอาศัยความระมัดระวังเป็นอย่างมากในการท่องเที่ยวท่ามกลางทัศนวิสัยที่ไม่ดีนัก แต่เมื่อใดที่ฟ้าสว่าง คุณจะได้พบกับทัศนียภาพอันงดงามของหิมะสีขาวที่ตัดกับถนนสีดำ เสน่ห์ของฤดูนี้ คือ โอกาสที่จะได้ท่องเที่ยว ได้ทำกิจกรรมในสถานที่ต่าง ๆ ที่ฤดูอื่นไม่มี อาทิ เดินชมถ้ำน้ำแข็ง เดินสำรวจธารน้ำแข็ง (กับผู้เชี่ยวชาญ) เล่นกีฬาฤดูหนาว และทำกิจกรรมที่นิยมทำกันเป็นอย่างมากคือการออก “ล่าแสงเหนือ” ซึ่งคุณต้องขับรถออกตามหาจุดที่ฟ้าปลอดโปร่ง จึงจะมีโอกาสได้เห็น

 

  • ฤดูใบไม้ผลิ(เมษายนพฤษภาคม) หลังจากฤดูหนาวอันแสนน่าเบื่อสำหรับชาวไอซ์แลนด์จบลง ช่วงนี้ความมีชีวิตชีวาเริ่มกลับมา น้ำแข็งเริ่มละลายกลายเป็นน้ำตกและลำธาร หญ้าเริ่มกลายเป็นสีเขียว ดอกไม้ป่าเริ่มผลิบาน อุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 9 องศาเซลเซียส และยังคงสามารถทำกิจกรรมล่าแสงเหนือได้บ้าง เสน่ห์ของฤดูนี้คือการชมวาฬ และนกพัฟฟินที่เพิ่งอพยพกลับมาอาศัยอยู่ตามหน้าผาเพื่อทำรังเตรียมต้อนรับฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึงการท่องเที่ยวในประเทศไอซ์แลนด์ หลัก ๆ คือการขับรถออกนอกเมืองไปตามถนนสายที่ 1 รอบเกาะ ซึ่งจะมีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายให้แวะชมในระหว่างทาง หากเราเตรียมตัวหาข้อมูลไว้ล่วงหน้าจะทำให้สามารถจัดทริปท่องเที่ยวได้อย่างเหมาะสม และได้พบกับประสบการณ์ที่น่าประทับใจ

 

ดื่มด่ำกับบรรยากาศแห่งความสุขที่ “ตลาดคริสต์มาส” ในยุโรป

เทศกาลคริสต์มาส เป็นเทศกาลแห่งความสุข ที่เหล่าคริสต์ศาสนิกชนและผู้คนนับล้านรอคอยที่จะเฉลิมฉลอง ภาพแห่งความสุขที่แวดล้อมด้วยคนรักและครอบครัว บรรยากาศที่สวยงามอบอุ่นหัวใจ มีทั้งหิมะโปรยปราย ไฟประดับประดาสวยงาม มื้อค่ำพร้อมหน้าพร้อมตา ต้นคริสต์มาส และของขวัญ

สิ่งเหล่านี้คือสิงที่พวกเราคุ้นชินจากการชมภาพยนตร์ต่างประเทศ แต่ยังมีอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ค่อยจะมีโอกาสได้เห็นผ่านภาพยนตร์ นั่นก็คือ “ตลาดคริสต์มาส” แหล่งซื้อ-ขายความสุข ที่จะมีแต่เฉพาะในช่วงเทศกาลคริสมาสเท่านั้น

  • บรรยากาศแห่ง ความสุข เมื่อได้ไปยืนท่ามกลางตลาดคริสต์มาส และหันมองไปรอบตัว ทั้งไฟที่ประดับประดาตกแต่ง มุมถ่ายรูปสวย ๆ เสียงเพลง เสียงหัวเราะของคนรอบข้าง จะไม่ทำให้รู้สึกเหงาสักวินาที รับรองว่าแค่ยืนนิ่ง ๆ ก็สามารถที่จะรับรู้ถึงพลังแห่งความสุขได้ เสมือนได้ชาร์จพลังบวกหลังจากที่ทำงานเคร่งเครียดเหน็ดเหนื่อยกันมาทั้งปี
  • เพลิดเพลินกับการ ช็อปปิ้ง เพราะที่นี่คือแหล่งรวมของขวัญ ของตกแต่ง ของฝาก ของที่ระลึก ซึ่งโดยมากเป็นของทำมือหายากและเป็นเอกลักษณ์จากคนในท้องถิ่น ตลาดคริสต์มาสในแต่ละที่จะมีสินค้าที่เป็นเอกลักษณ์แตกต่างกันไป คุณสามารถหาของฝากที่ถูกใจผู้รับได้ที่นี่ และไม่แน่ว่าสิ่งที่คุณต้องตาต้องใจจนอดไม่ได้ที่จะซื้อ อาจจะมีเพียงชิ้นเดียวในโลกก็ได้
  • อาหารหลากหลาย เลิศรส อีกหนึ่งไฮไลต์ของตลาดคริสต์มาส คือ อาหารและเครื่องดื่มแสนอร่อย ที่เป็นเอกลักษณ์และถูกคัดสรรมาแล้วจากคนในท้องถิ่น ที่สำคัญคือมีให้เลือกลิ้มชิมรสอย่างหลากหลายในราคาที่รับได้ เมื่อซื้อเสร็จแล้วจะนั่งรับประทานในร้าน หรือหามุมยืนรับประทานชมบรรยากาศแบบเพลิน ๆ ก็ไม่มีใครว่า เพียงแต่เมื่อทานเสร็จแล้วก็อย่าลืมจัดการเก็บและทิ้งให้เรียร้อย ตามธรรมเนียมปฏิบัติของผู้มาเยือนที่ดี
  • กิจกรรมและความบันเทิง ตลาดคริสต์มาสในแต่ละที่ จะมีกิจกรรมและความบันเทิงที่แตกต่างกันออกไป ตามปริมาณผู้คนและขนาดของสถานที่จัดงาน ตลาดคริสต์มาสหลายแห่งที่ถูกจัดขึ้นในลานกว้างใจกลางเมืองมักจะมีเครื่องเล่นต่าง ๆ หรือลานสเก็ตน้ำแข็งกลางแจ้งให้ได้โลดแล่นโชว์ลีลาที่พริ้วไหว บ้างก็มีขบวนพาเหรด คอนเสิร์ตที่คอยสร้างบรรยากาศให้คึกคักเป็นกันเอง การแสดงดนตรีโชว์เสียงอันไพเราะของนักร้องประสานเสียง งานศิลปะ อาทิ ประติมากรรมน้ำแข็ง ให้ได้เดินชมอย่างเพลิดเพลิน

ใครที่กำลังจัดทริปท่องเที่ยวยุโรปในช่วงปลายปี ถ้ามีโอกาสไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เพราะที่ยุโรปนั้นมีตลาดคริสต์มาสที่มีชื่อเสียงและสวยงามมากมายหลายแห่ง ลองจัดสรรเวลาไปเยือน “ตลาดคริสต์มาส” ดูสักครั้ง รับรองว่าจะได้รับความประทับใจอย่างแน่นอน