6 เรื่องควรรู้ เมื่อเดินทางท่องเที่ยวด้วยเครื่องบินเป็นครั้งแรก

ทุกวันนี้การเดินทางด้วยเครื่องบินได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะมีความรวดเร็วทันใจ โดยเฉพาะเมื่อต้องเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ แต่สำหรับใครที่พึ่งขึ้นเครื่องบินเป็นครั้งแรก ก็ต้องมาทำความเข้าใจกับ 6 เรื่องเหล่านี้กันก่อน เพื่อให้การเดินทางครั้งนี้ของคุณมีความราบรื่นตลอดการเดินทางนั่นเอง

1.มาให้ทันเวลาเช็คอิน

การเดินทางโดยเครื่องบิน ไม่เหมือนกับการเดินทางด้วยรถโดยสารทั่วไปที่จะมาถึงก่อนรถออกสัก 10 นาทีก็ได้ เพราะทางสายการบินจะปิดให้เช็คอินตั้งแต่ 45 นาทีก่อนเครื่องออก ซึ่งหากคุณมาช้าก็จะทำให้ต้องพลาดเที่ยวบินไปอย่างน่าเสียดาย เพราะฉะนั้นควรเช็คเวลาเครื่องออกให้ดี และต้องมาถึงสนามบินก่อนเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมงกันเลย

2.กระเป๋าต้องมีน้ำหนักไม่เกินที่กำหนด

สำหรับกระเป๋าเดินทางที่จะโหลดขึ้นเครื่องบินนั้น จะต้องมีน้ำหนักไม่เกินจากที่สายการบินกำหนด โดยส่วนมากจะไม่ให้เกิน 7 กิโลกรัม และต้องไม่มีวัตถุต้องห้ามอย่างเด็ดขาด ซึ่งทางสายการบินจะตรวจสอบอย่างเข้มงวด ดังนั้นต้องเช็คให้ดีว่ากระเป๋าเดินทางมีน้ำหนักเกินหรือไม่และห้ามนำของต้องห้ามใส่มาด้วยเด็ดขาด จะได้ไม่ต้องเสียเวลากับการตรวจสอบของสายการบินนั่นเอง

3.ห้ามใช้โทรศัพท์เมื่อเครื่องบินแล่นขึ้นลง

เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำตามกันอย่างเคร่งครัดเมื่อเดินทางด้วยเครื่องบิน เพราะขณะที่เครื่องบินกำลังแล่นขึ้นหรือแล่นลงสู่สนามบินนั้น สัญญาณโทรศัพท์อาจไปรบกวนระบบนำทางของเครื่องบินได้ รวมถึงรบกวนระบบการสื่อสารด้วย ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินตกได้ง่าย ดังนั้นห้ามใช้โทรศัพท์อย่างเด็ดขาดจนกว่าเครื่องบินจะพ้นระยะอันตราย รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ก็ห้ามเช่นกัน

4.ควรคาดเข็มขัดตลอดเวลา

ขณะที่อยู่บนเครื่องบินคุณจะต้องคาดเข็มขัดตลอดเวลา เพื่อความปลอดภัยของคุณเอง เพราะเครื่องบินอาจมีการสั่นสะเทือนทำให้ทรงตัวได้ยากซึ่งอาจเกิดอันตรายได้ ดังนั้นการคาดเข็มขัดจึงเป็นตัวช่วยเซฟความปลอดภัยให้กับคุณได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นไม่ควรละเลยอย่างเด็ดขาด

5.แต่งตัวให้เรียบง่ายที่สุด

การเดินทางด้วยเครื่องบิน เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบอย่างเคร่งครัด ซึ่งคุณจะต้องผ่านเครื่องสแกนก่อนจะขึ้นเครื่องบินได้ โดยขั้นตอนนี้จะต้องถอดเครื่องประดับที่ติดตัวมาออกหมด รวมถึงรองเท้า ผ้าพันคอด้วย ซึ่งหากคุณใส่มาแบบจัดเต็มก็จะต้องมายุ่งยากและเสียเวลากับการถอดนั่นเอง เพราะฉะนั้นแต่งตัวให้เรียบง่ายไว้ก่อนจะดีกว่า

6.เตรียมเอกสารให้พร้อม

ก่อนขึ้นเครื่องบินจะต้องมีการตรวจสอบหลายขั้นตอน ซึ่งคุณจะต้องใช้เอกสารบ่อยมาก ดังนั้นควรเตรียมให้พร้อมและใส่ไว้ในจุดที่หยิบออกมาใช้งานได้ง่าย โดยเอกสารที่สำคัญเลยก็คือบัตรประชาชน หนังสือเดินทาง และบอร์ดดิ้งพาส

เมื่อเข้าใจกับ 6 เรื่องนี้กันแล้ว ก็เตรียมพร้อมเดินทางท่องเที่ยวด้วยเครื่องบินกันได้เลย และอย่าลืมเช็คข้าวของเครื่องใช้ให้พร้อมก่อนเดินทางกันด้วย จะได้ไม่มีปัญหาเมื่อถึงเวลาออกเดินทางนั่นเอง ที่สำคัญควรทำตามกฎกติกาของสายการบินอย่างเคร่งครัด แล้วการเดินทางของคุณจะเป็นไปอย่างราบรื่น ปลอดภัยแน่นอน

6 เรื่องต้องรู้ ก่อนทำพาสปอร์ตไปเที่ยวต่างประเทศ

เมื่อจะเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ อันดับแรกก็ต้องทำพาสปอร์ตให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งวันนี้เราก็มี 6 เรื่องที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับการทำพาสปอร์ตมาบอกกัน ไปดูกันเลยว่ามีเรื่องอะไรบ้าง

1.พาสปอร์ตมี 3 ประเภท

พาสปอร์ตมีทั้งหมด 3 ประเภทหลักๆ ซึ่งคุณจะต้องทำพาสปอร์ตให้ตรงตามจุดประสงค์ที่ต้องการ โดยหากต้องการทำพาสปอร์ตเพื่อเดินทางไปท่องเที่ยว ก็ต้องทำประเภทสำหรับการเดินทางทั่วไป ที่มีไว้สำหรับท่องเที่ยวในต่างประเทศโดยเฉพาะ

2.พาสปอร์ตมีอายุ

การทำพาสปอร์ตไม่ใช่ว่าทำครั้งเดียวเที่ยวได้ตลอดชีพ เพราะพาสปอร์ตก็มีวันหมดอายุเหมือนกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอายุประมาณ 5 ปี ดังนั้นหากพาสปอร์ตของคุณใกล้หมดอายุแล้ว ก็ควรไปต่ออายุทันทีเพื่อให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่องนั่นเอง โดยจะเสียค่าธรรมเนียมในการต่ออายุพาสปอร์ตประมาณ 1,000 บาท

3.เอกสารที่ต้องใช้

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาในการไปทำพาสปอร์ต คุณจะต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบและอนุมัติการทำพาสปอร์ตได้ทันที โดยเอกสารที่ต้องใช้ก็มีดังนี้

  • บัตรประจำตัวประชาชน
  • หลักฐานการเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี)
  • หลักฐานการเปลี่ยนที่อยู่ (ถ้ามี)

ซึ่งจะเห็นได้ว่าการทำพาสปอร์ตนั้นไม่ยากเลย แต่สำหรับใครที่อายุยังไม่ถึง 20 ปีบริบูรณ์ จะต้องมีการรับรองจากพ่อแม่ด้วย ดังนั้นเอกสารที่ต้องใช้จึงมีดังนี้

  • บัตรประจำตัวประชาชน (ของตัวเอง พ่อ และแม่)
  • พ่อและแม่ต้องมาเซ็นยินยอมต่อเจ้าหน้าที่ด้วย

4.วิธีรับหนังสือเดินทาง

เมื่อยื่นเรื่องทำพาสปอร์ตหรือหนังสือเดินทางเรียบร้อยแล้ว คุณจะสามารถเลือกวิธีรับหนังสือเดินทางได้ 2 วิธีด้วยกัน นั่นคือการรับผ่านทางไปรษณีย์และการมารับด้วยตนเอง แต่จะรับด้วยตนเองได้เฉพาะผู้ที่ยื่นคำร้องทำหนังสือเดินทางที่กรุงเทพฯ เท่านั้น นอกจากนี้หากใครไม่สะดวกก็สามารถมอบอำนาจให้คนอื่นไปรับแทนได้อีกด้วย

5.ทำพาสปอร์ตเร่งด่วนได้

การทำพาสปอร์ตโดยปกติจะต้องรอประมาณ 3-5 วัน แต่อย่างไรก็ตามสำหรับใครที่จำเป็นต้องใช้พาสปอร์ตอย่างเร่งด่วน ก็มีบริการทำพาสปอร์ตแบบด่วนที่สุด โดยจะมีทั้งแบบได้รับเล่มเลยในวันที่ทำ และแบบได้รับเล่มในวันถัดไป ซึ่งหากต้องการรับเล่มเลยจะต้องทำที่กรมการกงสุลเท่านั้น และมีค่าธรรมเนียม 3000 บาท

6.ต้องพกพาสปอร์ตเมื่อเดินทางเสมอ

หลังจากทำพาสปอร์ตแล้ว คุณจะต้องพกติดตัวเมื่อเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเสมอ ทั้งนี้ควรถ่ายสำเนาแยกเก็บเอาไว้ด้วย เพราะหากหนังสือเดินทางฉบับจริงหายก็ยังมีสำเนาไว้ยืนยันได้นั่นเอง และหากทำหนังสือเดินทางหาย คุณจะต้องทำตามขั้นตอนดังนี้

  • แจ้งความที่สถานีตำรวจ
  • ทำเล่มใหม่ โดยใช้ใบแจ้งความกับบัตรประชาชนยื่นคำร้อง
  • แจ้งเจ้าหน้าที่ว่าเล่มเก่าหาย

พาสปอร์ตถือเป็นสิ่งสำคัญที่นักเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศจะต้องมี ดังนั้นหากคุณยังไม่มีพาสปอร์ตก็ควรรีบไปทำโดยด่วน ส่วนใครที่หนังสือเดินทางใกล้หมดอายุแล้ว ก็ควรไปต่ออายุให้เรียบร้อยโดยควรต่อทันทีเมื่อพาสปอร์ตมีอายุต่ำกว่า 6 เดือนนั่นเอง

เรื่องควรรู้ก่อนไปเที่ยวเกาหลี ให้ทริปนี้มีแต่ความสนุก

เมื่อจะไปเที่ยวเกาหลี นอกจากต้องเตรียมจัดกระเป๋าเดินทางให้พร้อมแล้ว ก็ต้องมาทำความเข้าใจกับเรื่องที่ควรรู้เมื่อคิดจะไปเที่ยวเกาหลีกันก่อนด้วย นั่นก็เพื่อให้การท่องเที่ยวครั้งนี้มีแต่ความสนุกและไม่มีปัญหามากวนใจนั่นเอง โดยเราก็ได้รวบรวมเรื่องสำคัญที่ต้องรู้มาบอกกันดังนี้

1.อายุของพาสปอร์ต

ก่อนเดินทางไปเที่ยวเกาหลี ต้องเช็คพาสปอร์ตกันก่อนว่ามีอายุเหลืออยู่เท่าไหร่ เพราะการจะเข้าไปในประเทศเกาหลีได้นั้น จะต้องมีอายุของพาสปอร์ตเหลืออยู่มากกว่าหกเดือน เพราะฉะนั้นถ้าอายุพาสปอร์ตเหลือไม่ถึง ก็ต้องไปทำพาสปอร์ตใหม่ก่อน

2.สกุลเงินที่ใช้ในเกาหลี

สกุลเงินที่นำมาใช้ในประเทศเกาหลีได้จะเน้นเป็นเงินวอน ซึ่งเงินดอลลาร์มีเพียงโรงแรมบางแห่งเท่านั้นที่รับ เพราะฉะนั้นเพื่อไม่ให้มีปัญหากับการใช้จ่ายเงินในเกาหลี ก็ควรแลกเงินเป็นเงินวอนไปเลยจะดีที่สุด และอย่าลืมศึกษาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้เงินวอนด้วย

3.ปลั๊กเกาหลีเป็นรูกลม

อีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญมากก็คือปลั๊กของเกาหลีจะมีลักษณะเป็นรูกลม ดังนั้นหากที่ชาร์จโทรศัพท์ของคุณเป็นแบบหัวแบน ก็ต้องหาซื้อแบบหัวกลมโดยด่วน ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะเจอกับปัญหาชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์ไม่ได้ ซึ่งก็ต้องไปเสียเวลากับการหาซื้อที่ชาร์จใหม่ที่เกาหลีอีกนั่นเอง เพราะฉะนั้นเตรียมไปให้พร้อมเลยจะดีกว่า

4.การขึ้นลงบันไดเลื่อน

จะไปเที่ยวเกาหลีก็ต้องรู้มารยาทของคนเกาหลีกันด้วย โดยเฉพาะการขึ้นลงบันไดเลื่อน โดยที่เกาหลีจะมีระเบียบอย่างชัดเจนว่าจะต้องขึ้นลงโดยยืนชิดขวาของบันไดเลื่อนเท่านั้น ทั้งนี้ก็เพื่อเว้นทางด้านซ้ายเอาไว้ให้กับคนที่เร่งรีบและต้องการจะเดินแซงขึ้นไปก่อนนั่นเอง

5.วีซ่า

การเดินทางไปเที่ยวประเทศเกาหลี หากไปเพื่อท่องเที่ยวจะได้รับการยกเว้นวีซ่า ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องขอวีซ่าไป แต่ต้องมีหลักฐานแสดงชัดเจนว่าต้องการเข้าประเทศเกาหลีเพื่อท่องเที่ยวจริง นอกจากนี้ก็สามารถอยู่ในเกาหลีได้นานถึง 90 วันอีกด้วย เรียกได้ว่าได้เที่ยวแบบสุดคุ้มกันเลยทีเดียว

6.อายุไม่ถึง 17 ต้องมีหนังสือรับรองจากผู้ปกครอง

สำหรับใครที่อายุยังไม่ถึง 17 ปี และเดินทางไปเที่ยวเกาหลีโดยไม่มีผู้ปกครองไปด้วย จะต้องมีหนังสือรับรองจากผู้ปกครอง ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถเข้าประเทศได้ เพราะฉะนั้นใครที่ยังอายุไม่ถึง 17 ปี ถ้าจะไปเที่ยวคนเดียวหรือไปกับเพื่อนๆ ก็อย่าลืมขอหนังสือรับรองให้เรียบร้อยก่อนด้วย

7.การใช้โทรศัพท์

ระบบโทรศัพท์ของเกาหลีเป็นคนละระบบกัน ดังนั้นจึงต้องซื้อซิมการ์ดของเกาหลีมาใช้ หรืออาจจะขอเช่าโทรศัพท์จากสนามบินก็ได้ ซึ่งระบบโทรศัพท์ของเกาหลี จะเป็นระบบ CDMA นั่นเอง

และนี่ก็คือเรื่องสำคัญที่คุณต้องรู้ก่อนเดินทางไปเที่ยวเกาหลี แล้วทริปนี้ของคุณจะเต็มไปด้วยความสนุก ไม่มีปัญหามากวนใจอย่างแน่นอน นอกจากนี้อย่าลืมเตรียมของใช้จำเป็นให้พร้อมกันด้วย โดยเฉพาะของใช้ส่วนตัวที่จะขาดไม่ได้เลยเชียว

หาสถานที่ดี ๆ ที่ให้ความรู้เพื่อตนเองและคนที่คุณรักกันดีกว่า ไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์กันเถอะ

ความเป็นมาของประเทศ วัฒนธรรม ล้วนอยู่ในประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ที่ได้เก็บบันทึกไว้ในพิพิธภัณฑ์ รอคอยให้เราได้เข้าไปเรียนรู้ การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เป็นอีกกิจกรรมหนึ่ง ที่ทำให้เราได้ศึกษาประวัติความเป็นมาของเรื่องต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น มาดูประโยชน์ของการเข้าชมพิพิธภัณฑ์กัน

  • การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ทำให้คุณมีความรู้มากขึ้น การแสวงหาความรู้ ไม่เพียงแค่เราจะใช้แหล่งความรู้จากห้องสมุด หรือร้านหนังสือ การเข้าเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ยังทำให้คุณได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้า ในการทำความเข้าใจ เรื่องราว ความเป็นมาของประวัติศาสตร์ได้ดียิ่งขึ้น การเรียนรู้ผ่าน ตา ดู หู ฟัง ทำให้เราได้สัมผัสกับสิ่งต่าง ๆ และเป็นการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
  • การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ทำให้เราฉลาดขึ้น พิพิธภัณฑ์ถือเป็นหนึ่งในช่องทางของนักเรียนนักศึกษา เพื่อหาวิชาความรู้ในเรื่องต่าง ๆ จะเห็นได้ว่ากิจกรรมหนึ่งที่สอดแทรกเข้าไปในบทเรียนของนักเรียนในปัจจุบัน มีการเรียนรู้ผ่านการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์อยู่ด้วย และพิพิธภัณฑ์ไม่ได้เป็นแค่แหล่งเรียนรู้ ที่จำกัดเฉพาะนักเรียนหรือนักศึกษาเท่านั้น แต่ยังเหมาะกับประชาขนทั่วไปทุกเพศทุกวัยอีกด้วย การได้รับข้อมูลจากการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ ทำให้เราได้รู้จักและมีความรู้ในเรื่องต่าง ๆ ได้ดีมากขึ้น
  •  พิพิธภัณฑ์เป็นแหล่งการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ มีข้อมูลมากมายหลากหลาย ในแต่ละพิพิธภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นพิพิธภัณฑ์สำหรับการเรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อม พิพิธภัณฑ์เรื่องวิวัฒนาการของมนุษย์ พิพิธภัณฑ์สำหรับประวัติศาสตร์ของประเทศต่าง ๆ เราแค่เลือกเข้าชมพิพิธภัณฑ์ที่เหมาะกับความสนใจ และเพลิดเพลินกับสิ่งเหล่านั้นได้ตลอดวัน
  • พิพิธภัณฑ์ช่วยสร้างแรงบันดาลใจ ความเป็นมาในเรื่องต่าง ๆ ทำให้เราสามารถนำความรู้ ความเข้าใจเหล่านั้น มาต่อยอดเป็นระบบและจัดการสิ่งต่าง ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้นไปอีก
  • การเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่เหมาะสำหรับครอบครัว เพราะเรื่องราวต่าง ๆ ในพิพิธภัณฑ์เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย และเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีภายในครอบครัวด้วย
  • พิพิธภัณฑ์อยู่ใกล้ตัวเรา เพียงแค่ลองค้นหาข้อมูลที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ในสถานที่ที่เราอยู่ เชื่อแน่ว่าเราจะได้พบกับพิพิธภัณฑ์ ที่น่าสนใจ ให้เราเข้าไปเยี่ยมชมได้ไม่ยาก และทุกประเทศล้วนต่างมีพิพิธภัณฑ์ในด้านต่าง ๆ ของตนเองด้วย
  • พิพิธภัณฑ์ช่วยสร้างกลุ่มสำหรับผู้มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน ให้ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็น มุมมอง และสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปเผยแพร่ให้กับผู้อื่นได้ด้วย
  • พิพิธภัณฑ์ยังต้องการการสนับสนุนจากพวกเรา เพื่อที่จะเก็บไว้เป็นแหล่งความรู้และสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนในรุ่นหรือยุคต่อ ๆ ไป เนื่องจากพิพิธภัณฑ์ส่วนใหญ่มักเป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร และเก็บค่าเข้าเยี่ยมชมในราคาที่ไม่แพง จึงเป็นหน้าที่ของพวกเรา ที่จะสนับสนุนและช่วยกันทำให้สถานที่แห่งนี้มีอยู่ต่อไป

เราจะเห็นได้ว่า ประโยชน์ในการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์มีมากมาย เป็นทั้งแหล่งความรู้ และสถานที่พักผ่อน เลือกชมให้เหมาะกับเรื่องราวที่เราสนใจเป็นพิเศษ และยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ ที่เหมาะกับทุกคนอีกด้วย

เพื่อน 7 สาย ที่คุณควรพาไปเที่ยวด้วย

หากว่าใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศการเที่ยว แบบที่เที่ยวกับแฟนเบื่อแล้ว จะไปกับครอบครัวก็จะเรียบร้อยหน่อย ๆ ไปคนเดียวก็กลัวอีก แนะนำว่าไปเที่ยวกับเพื่อนนี่แหละ เป็นตัวเลือกสำคัญและดีที่สุด

ในการออกทริปเที่ยวสักครั้ง มักจะมีเพื่อนอยู่ 7 สาย  7 สไตล์ ที่คุณไม่ควรพลาดที่จะพาพวกเขาไปด้วย จะมีเพื่อนแบบไหนบ้าง? เหมือนเพื่อนในกลุ่มของคุณหรือไม่ ลองเช็คสักหน่อย รับรองว่าทริปนี้และต่อ ๆ ไป สนุกกว่าเดิมแน่นอน

                1.สายชิลล์   ไปเที่ยวทั้งทีควรเลือกเพื่อนที่มีไลฟ์สไตล์เดียวกัน ไปด้วยกันจะดีกว่านะ กินอยู่ง่าย ไปไหนไปกัน ชิลล์เหมือนกัน เพราะเพื่อนแบบนี้จะเข้าอกเข้าใจคุณตลอดการเดินทาง พูดคุยด้วยแล้วสบายใจไม่ต้องเกร็ง มองตาก็รู้ใจ

                2.สายเปย์ เที่ยวทั้งทีเรื่องเงินก็สำคัญนะ ในกลุ่มท่องเที่ยวคุณควรมีเหรัญญิก เพื่อนประเภทนี้ก็ควรพกพาไปด้วย เพราะเวลาเคลียร์เรื่องเงิน พวกเขาจะช่วยคุณได้ จ่ายไปก่อนคืนทีหลัง เน้นความเร็ว ไม่เน้นคิดมาก นอกจากนี้เพื่อนคนนี้จะทำหน้าที่เก็บเงินกองกลางได้เป็นอย่างดีเหมือนฝ่ายบัญชีมาเอง

                3.สายจ้อ ไปเที่ยวแล้วต้องไปแบบสนุกสนาน พูดคุยสังสรรค์แลกเปลี่ยนเรื่องราว เพื่อนประเภทนี้จำเป็นมาก เพราะจะทำให้ทริปไม่เงียบ เป็นเหมือน MC ประจำกลุ่ม สร้างสีสันตลอดเส้นทาง ถ้าไม่มีคนแบบนี้ทริปเหงาหูและจืดจางอย่างแน่นอน  

                4.สายตลก มีคนพูดมากแล้ว ต้องมีคนตลกเป็นของคู่กัน งานบันเทิงทริป งานเอ็นเตอร์เทนต้องยกให้เพื่อนประเภทนี้ เขาจะนำพาความฮามาสู่ทริป พร้อมลุยทุกสถานการณ์ เปลี่ยนเรื่องเครียดให้การเป็นเรื่องจี้ ต้องมีสักคนที่พกไปทุกทริป

                5.สายข้อมูล ไม่ต้องพกไกด์บุ๊คให้ยุ่งยาก เพราะเพื่อประเภทนี้จะทำหน้าที่แทนเอง โรงแรมไหน อะไรน่าเที่ยว  ร้านอาหารไหนอร่อย กิจกรรมอะไรน่าโดน ใช้งบประมาณเท่าไร ทริปนี้ไปกี่คนถึงจะคุ้ม ฯลฯ เพื่อนคนนี้จะคอย หาข้อมูลรองรับการเที่ยวทุกรูปแบบอย่างแน่นอน

                6.สายโซเชียล แน่นอน ยุคนี้ 4.0 รูปสวยต้องถึง ไลฟ์สดต้องจัดการ เพื่อนคนนี้พร้อมรับหน้าที่ลงสื่อประชาสัมพันธ์ ในทุกโซเชียล ทั้งเฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ อินสตราแกรม ฯลฯ โดยที่คุณไม่ต้องร้องขอแม้แต่นิดเดียว แถมแท็กเพื่อนให้ครบถ้วนสมบูรณ์ รับรองว่าพ่อแม่พี่น้องแฟนรู้หมด เราไปไหนบ้าง ปลอดภัยไร้กังวล

                7.สายผู้นำ สุดท้ายท้ายสุด ในแต่ละทริปต้องมีท่านผู้นำเสมอ เพื่อนคนนี้จะสามารถกลายร่างเป็นเพื่อนทุกสาย ทำหน้าที่ตัดสินใจ ควบคุมดูแล เป็นหูเป็นตาสอดส่อง เพื่อนทุกคนได้เหมือนคุณพ่อคุณแม่มาเอง

ไปเที่ยวทั้งที ก็อย่าลืมพกเพื่อน 7 สายนี้ไปด้วยนะ รับรองว่า ทริปนี้สนุก บันเทิง และสบายไร้กังวลแน่นอน และขอให้มีความสุขกับท่องเที่ยวกันทุกแก๊งเลย