เก็บกระเป๋าออกท่องเที่ยวกันเถอะ แล้วจะได้อะไรดี ๆ กลับมาเยอะเลยนะ

ประโยคที่เรามักจะได้ยินกันเสมอ คือเราควรหาเวลาออกไปท่องเที่ยวบ้าง เพราะนอกจากเราจะได้พักผ่อนแล้ว การออกไปเดินทางท่องเที่ยว ยังทำให้เราได้ออกไปพบเจอสิ่งใหม่ ๆ ผู้คนใหม่ ๆ ความคิดใหม่ ๆ ที่อาจจะมาเติมเต็มชีวิตคุณในด้านอื่น ๆ อีกก็ได้ แล้วเราจะมัวรออะไร รีบหาเวลาไปเติมพลังงานทั้งทางร่างกายและจิตใจ แค่เพียงเราเริ่มวางแผน อะไรสนุก ๆ ในการเดินทางครั้งนี้ รอเราอยู่แน่นอน มาดูประโยชน์ของการได้ออกเดินทางกันดีกว่า

  • การเดินทาง ทำให้สุขภาพเราดีขึ้น ช่วยลดความตึงเครียด ทำให้โอกาสที่จะเป็นโรคหัวใจน้อยลง การที่เราต้องนั่งทำงานอยู่ตลอดวัน อยู่กับสิ่งเดิม ๆ หากเราได้ออกไปเดินทางไปยังสถานที่แปลกตาออกไป จะทำให้เราสดชื่นขึ้น ช่วยลดอาการตึงเครียดและลดความวิตกกังวลในเรื่องต่าง ๆ ลง
  • การเดินทางทำให้เราไม่ต้องกังวลกับโลกภายนอก ดังเช่นที่กล่าวมาข้างต้น ในชีวิตประจำวันของเราในแต่ละวัน เรามีเรื่องที่ต้องจัดการกับสิ่งต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเจ้านายที่คอยตามงานแม้กระทั่งวันหยุด ปัญหาต่าง ๆ ของลูก ๆ  พ่อแม่ของเราที่อยากให้เราได้มีชีวิตตามแบบที่พวกท่านต้องการ เรื่องต่าง ๆ เหล่านี้้ เราจะสามารถรับมือไปได้อีกนานเท่าไหร่ คงดีกว่า ถ้าหากเราได้ถอยหลังกลับมาสักหนึ่งก้าว สูดลมหายใจลึก ๆ และออกไปเดินทางท่องเที่ยวบางครั้งการทิ้งสิ่งต่าง ๆ ไว้เบื้องหลัง วางภาระที่คุณต้องรับผิดชอบไว้ก่อน และออกไปผ่อนคลายกับโลกภายนอก ทำให้คุณสามารถรับมือและจัดการกับสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น เมื่อเรากลับมาสู่โลกความจริง
  • การเดินทางทำให้เราฉลาดขึ้น เราจะได้เรียนรู้คำศัพท์ใหม่ ๆ ทุกครั้งที่เราได้ออกท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังทำให้เราได้เรียนรู้ตัวตนจริง ๆ ของเราเอง เราอาจจะต้องเจอกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด และหลากหลาย เราจะได้รู้จักการแก้ปัญหาหากเมื่อต้องรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้
  • การเดินทางทำให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมของชาติอื่น ๆ เราจะได้เรียนรู้จากการที่ได้มองเห็นด้วยตาของเราเอง ไม่ใช่เพียงแค่อ่านจากหนังสือเท่านั้น การได้เรียนรู้จากผู้คน และจากประสบการณ์ตรงของตนเอง ย่อมดีกว่าเสมอ
  • การเดินทางท่องเที่ยวทำให้เราได้ลิ้มลองอาหารแปลก ๆ สิ่งหนึ่งที่สร้างความประทับใจในการท่องเที่ยวแต่ละครั้ง นั่นคือ การได้ลิ้มลองอาหารท้องถิ่นของประเทศนั้น ๆ รสชาติอาหารที่ต่างกันออกไป ทำให้เราได้รู้จักความเป็นอยู่ของแต่ละประเทศได้ดียิ่งขึ้น
  • การเดินทางทำให้เรารักบ้านของคุณมากขึ้น ความมหัศจรรย์ในเรื่องนี้คือ เรามักมีความสุขที่ได้ออกจากบ้านไปตามสถานที่ที่แปลกออกไป แต่จะรู้สึกดียิ่งกว่า เมื่อเราได้กลับมาบ้าน เราอาจจะกลับมาเจอกับปัญหาเก่า ๆ คนเดิม ๆ แต่สิ่งที่จะติดตัวคุณมาด้วย คือความรู้ใหม่ ๆ และไอเดียใหม่ ๆ ที่ช่วยแก้ปัญหาได้ดีขึ้น

แม้การออกไปเดินทางท่องเที่ยวอาจทำให้เราต้องใช้จ่ายเงินไปกับสิ่งต่าง ๆ บ้าง แต่เชื่อเถอะว่า หากเราได้มองย้อนกลับไป เราจะดีใจที่ได้ออกเดินทาง ไปพบเจอกับโลกใหม่ที่หลากหลาย แล้วคุณจะประทับใจจนต้องรีบกลับมาวางแผนการเดินทางครั้งต่อไป

เที่ยวคนเดียวเก๋ ๆ ใครว่ายาก

การเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว อาจฟังดูเหมือนเอาตัวเองไปเสี่ยง ว่าการเดินทางนั้นจะออกมาในรูปแบบไหน หากคิดดูแล้วในบางครั้ง เพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับการท่องเที่ยวของคุณก็คือตัวเราเองนั่นแหละ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากจะออกไปเที่ยว แต่หวาดกลัวการท่องเที่ยวเพียงลำพัง หากคุณไม่ชอบการเดินทางที่ไม่มีคนรู้ใจไปด้วย ลองคิดดูใหม่ และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเราควรออกเดินทางท่องเที่ยวด้วยตนเองดูบ้าง

  • มันทำให้คุณวางแผนทริปของคุณได้ดีขึ้น เมื่อคุณตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว การตัดสินใจและวางแผนทุกอย่างในการเดินทางของคุณครั้งนี้จะขึ้นอยู่กับตัวคุณเองเท่านั้น คุณอยากให้การเดินทางเป็นแบบไหน โดยอะไร แวะพักที่ไหน ก็สามารถออกแบบได้ โดยไม่ต้องกังวลกับเพื่อนร่วมทริปคนอื่น ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่
  • คุณจะมีความสุข กับเวลา ของฉันบางทีเพียงแค่การเดินบนถนนคนเดียว คุณก็สามารถคิดอะไรได้หลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับชีวิตของคุณ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับตัวเองมากขึ้น และกล้าที่จะพูดคุยกับคนแปลกหน้ามากขึ้น มองภาพอนาคตได้ชัดเจนขึ้น คิดทบทวนความผิดพลาดและการแก้ไขหรือทำอย่างไรให้ดีขึ้น
  • ประสบการณ์ของการเดินทางครั้งนี้ จะมีความหมายมากขึ้น คุณอาจจะได้พบเจอกับเพื่อนต่างชาติใหม่ ๆ แลกเปลี่ยนความคิด มุมมอง ประสบการณ์การเดินทาง ทำให้คุณพบเจออะไรใหม่ ๆ ที่มีความหมายมากขึ้น และการเดินทางครั้งนี้ คุณจะจดจำได้อย่างแม่นยำ และชัดเจน
  • คุณจะมีความมั่นใจเพิ่มขึ้น แม้จะเกิดอาการประหม่าหรือกังวลบ้าง ในช่วงแรกที่ต้องออกเดินทางคนเดียว แต่เมื่อการเดินทางสิ้นสุดลง สิ่งที่คุณจะได้กลับมา คือความมั่นใจและภูมิใจ ที่สามารถวางแผนจัดการการเดินทางด้วยตนเองได้เป็นอย่างดี
  • คุณจะเป็นนักเดินทางที่ดีขึ้น การท่องเที่ยวคนเดียว จะช่วยฝึกให้คุณกลายเป็นคนช่างสังเกตในสิ่งต่าง ๆ รอบตัว เพราะอาจต้องเผชิญกับสถานการณ์คับขัน หรือเหตุการณ์ที่ไม่ได้คาดคิดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ คุณจะมีความอดทนที่มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งทั้งหมดนี้ คุณอาจจะไม่ได้เจอเลย หากคุณไม่ได้เดินทางคนเดียว
  • คุณสามารถควบคุมการใช้จ่ายให้อยู่ในงบประมาณที่คุณตั้งไว้ได้ คุณจะเลือกพักที่พักแบบไหนก็ได้ คุณจะเลือกกินอาหารอะไรก็ได้ ให้พอเหมาะกับงบประมาณที่คุณตั้งไว้โดยไม่ต้องขอความคิดเห็น ที่อาจจะไม่ตรงกันกับผู้อื่น

เห็นไหมว่าการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวนั้น ให้อะไรมากกว่าที่คิด หากคุณยังลังเลอยู่ รีบกลับไปแพคกระเป๋าด่วน การเดินทางที่น่าตื่นเต้น และประสบการณ์ใหม่ ๆ รอคุณอยู่ข้างหน้า คุณจะมีเรื่องสนุก ๆ กลับมาเล่าให้เพื่อน ๆ ที่ไม่ได้ร่วมเดินทางไปด้วยฟัง คุณอาจจะได้ลองกินอะไรใหม่ ๆ ได้พบเจอคนแปลกหน้าใหม่ ๆ คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมต่าง ๆ แล้วคุณจะประหลาดใจกับตัวเองว่าคุณสามารถวางแผนจัดการการเดินทางทั้งหมดด้วยตัวคุณเองและสามารถเดินทางท่องเที่ยวเองคนเดียวได้อย่างไร

เที่ยวใกล้กรุง ผ่อนคลายสบายใจ ไปกับสายน้ำใสสะอาดเย็นชื่นใจ ที่ “น้ำตกเอราวัณ”

หากต้องการเดินทางท่องเที่ยวที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน แต่ได้มีโอกาสโอบกอดกับธรรมชาติ ได้สูดลมหายใจให้เต็มปอด ไปแช่น้ำเย็น ๆ ให้ชื่นใจ เติมพลังงานให้กับชีวิต นอนพักผ่อนดูดวงดาวสักคืน แต่ไม่อยากเดินทางไปไกลจากกรุงเทพมากนัก ใช้เวลาเพียงแค่เสาร์อาทิตย์ วันจันทร์ก็กลับมาทำงานต่อได้ ลองแวะไปเที่ยวน้ำตกเอราวัณกันเถอะ

น้ำตกเอราวัณ ตั้งอยู่ในเขต อ.ศรีสวัสดิ์ ของ จ.กาญจนบุรี ห่างจากกรุงเทพ เป็นระยะทางเกือบ ๆ 200 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียง เพราะความสวยงามตระการตาของน้ำที่งดงามดั่งสีเขียวของมรกต และมีความสูงทั้งหมดถึง 7 ชั้น ซึ่งเราสามารถลงเล่นน้ำได้ทุกชั้น และหากเป็นไปได้ แนะนำให้เดินขึ้นไปสำรวจทุกชั้น เพราะแต่ละชั้นก็มีความสวยงามแตกต่างกันไป เช่นน้ำตกชั้นที่สอง เราจะตื่นตะลึงกับม่านน้ำตก ที่สวยงามและอลังการเหมือนภาพวาด เสียงน้ำที่ไหลลงมา กระทบกับพื้นน้ำเหมือนนักร้องที่กำลังตั้งใจร้องเพลงให้เราฟังอย่างไพเราะ นั่งฟังเพลิน ๆ จุ่มเท้าแช่น้ำ ให้ปลาพลวงตอดเล่น ก็สบายใจดี ระหว่างทางที่เดินขึ้นไปแต่ละชั้น จะได้พบกับเจ้าดอกกล้วยไม้ ที่ออกช่อต้อนรับตลอดทาง แนะนำว่าหากตั้งใจจะมาเที่ยวที่นี่ เตรียมพร้อมสำหรับร่างกายหน่อยก็ดี แม้ทางเดินของแต่ละชั้นจะไม่ได้ห่างกันมาก แต่ความสูงชันของเส้นทาง คงต้องใช้พละกำลังอยู่พอสมควร และควรมาให้เช้าหน่อย เพราะในส่วนของชั้นที่ 5 ทางอุทยานจะปิดไม่ให้ขึ้นไปในช่วงเวลา 15.30 น. หากต้องการสำรวจให้ครบทุกชั้น อย่าลืมหาอาหารรองท้องก่อนเข้าไปเล่นน้ำตก เพื่อที่จะได้ไม่หิวจนเกินไป และควรเตรียมน้ำไปให้พร้อมด้วย เราจะได้เล่นน้ำอย่างสนุกและต่อเนื่อง และเนื่องจากน้ำตกเอราวัณ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติ เราสามารถจองชื่อเข้าพักในอุทยานแห่งชาติได้เช่นกัน หรือจะกางเต็นท์ก็ดี เพราะทางอุทยานมีเต็นท์ให้เช่า เพราะหากไปถึงที่แล้วควรจะได้นอนค้างสักคืน ชมความงามของเหล่าดวงดาวที่ทอแสงเปล่งประกายเจิดจ้าในท้องฟ้า ให้เสียงจิ้งหรีดเรไร ได้ขับกล่อมเรา ให้ค่ำคืนนั้นเป็นอีกคืนที่แสนพิเศษของคุณ

ใช้เวลาให้คุ้มค่า ไปกับความเย็นของน้ำใส ๆ ที่สัมผัสตัวเรา ซึ่งจะทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างน่าประหลาด และหากได้พักผ่อนแช่น้ำจนอิ่มใจแล้ว อย่าลืมเก็บขยะที่เอาขึ้นไปลงมาทิ้งด้วย และไม่ควรหยิบก้อนหินหรืออะไรก็ตามออกมาจากน้ำตก เพียงแค่ถ่ายรูปความงดงามของน้ำตกให้คนที่บ้านได้เห็นภาพความงดงามอย่างที่สายตาเราได้เห็น เขียนโปสการ์ดสวย ๆ สักใบ ส่งถึงคนพิเศษที่เราคิดถึง ก็น่าจะเพียงพอแล้ว น้ำตกเอราวัณของเราจะได้สวยและอยู่ให้เราได้ชื่นชม และเราจะได้มีโอกาสเล่นไปนาน ๆ ความอิ่มเอมใจบางทีอาจไม่ต้องตามหาจากที่ไหนเลย แค่สิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราได้มีส่วนร่วมทำให้โลกใบนี้น่าอยู่ขึ้น ก็ทำให้เราสุขใจได้มากแล้ว

“เกาะพิทักษ์” สัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้านและความงียบสงบ ช่างดีต่อใจ

หากคิดถึงทะเล รักการท่องเที่ยวที่ได้เห็นน้ำทะเลสีฟ้า ออกไปดำน้ำ ชื่นชมความสวยงามใต้ท้องทะเล จังหวัดต่าง ๆ ที่ประกอบด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยทางภาคใต้ฝั่งอันดามัน ดูจะเป็นคำตอบและทางเลือกที่หลาย ๆ คนนึกถึง เนื่องจากชื่อเสียงด้านความงดงาม และแหล่งดำน้ำดูปะการัง ที่ดีที่สุดและสวยงามจนติดอันดับโลก จนกระทั่งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ต่างพากันแวะมาเยี่ยมเยือนทะเลไทยของเราอย่างต่อเนื่อง นับเป็นความภาคภูมิใจอย่างหนึ่งของคนไทย หากแต่ความเนืองแน่นของนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลไปยังเกาะชื่อดังต่าง ๆ เหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็น เกาะพะงัน เกาะสมุย เกาะเต่า จึงทำให้เกาะเหล่านั้นเต็มไปด้วยผู้คน และวุ่นวายอยู่มาก อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ผู้ที่กำลังตามหาการพักผ่อนที่นอกจากได้เห็นความสวยงามของท้องทะเลแล้ว ยังไม่วุ่นวายจนเกินไปอีกด้วย นั่นคือเกาะพิทักษ์ จ.ชุมพร

เกาะพิทักษ์ อยู่ในเขตอำเภอหลังสวน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ เชิงสัมผัสวิถีชีวิตของชาวบ้าน ที่เริ่มเป็นที่รู้จักในกลุ่มของนักท่องเที่ยวในช่วงสองสามปีก่อน และเนื่องจากยังไม่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมเยียนมากนัก ทำให้สภาพโดยรวมของเกาะพิทักษ์ยังมีความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก ความน่าสนใจของเกาะพิทักษ์คือการได้สัมผัสกับการใช้ชีวิตของชาวบ้านอย่างใกล้ชิด เนื่องจากที่พักบนเกาะเป็นแบบโฮมเสตย์ มีจำนวนทั้งหมดไม่ถึง 20 หลังทั่วทั้งเกาะ ก่อให้เกิดบรรยากาศที่ดูเหมือนเก็บกระเป๋าไปพักผ่อนกับญาติสนิท นอกจากนี้ที่พักก็ยังราคาไม่ถึงพัน ประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้เยอะ ส่วนกิจกรรมบนเกาะ ที่มีให้เลือกทำก็หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การปั่นจักรยาน ชมความสวยงามของเกาะโดยรอบ สังเกตการดำเนินชีวิตของผู้คนบนเกาะ ล่องเรือออกไปดำน้ำชมประการังน้ำตื้น รับประทานอาหารทะเลสด ๆ ที่นำขึ้นมาจากทะเลที่เราเห็นอยู่เบื้องหน้า หรือจะเดินเที่ยวรอบเกาะก็ดี นอกจากนี้ ยังมีความพิเศษอีกอย่างของเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้คือ หากเดินขึ้นไปทางทิศเหนือของเกาะ เราจะได้พบจุดชมวิว ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพได้ไกลถึง เกาะเต่า เกาะสมุย และเกาะพะงันเลยทีเดียว ทั้งการเดินทางที่แสนสะดวก เพราะอยู่ห่างจาก อ.หลังสวน จ.ชุมพร เพียงแค่ 25 กิโลเมตร ทำให้เราไม่ต้องเหน็ดเหนื่อยจากระยะทางที่ไกลจนเกินไปอีกด้วย 

หากเราอยากให้การท่องเที่ยวที่เกาะพิทักษ์แห่งนี้ เป็นการพักผ่อนจริง ๆ ลองตื่นสายอีกสักหน่อย ให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ไม่ต้องเร่งรีบเหมือนกับชีวิตที่เราต้องเจออยู่ทุกวันในเมือง เตรียมเปิดใจให้กว้าง พูดคุยกับผู้คนแปลกหน้าที่มีอัธยาศัยไมตรีที่น่ารัก เราอาจจะได้แนวคิดหรือคำแนะนำดี ๆ จากพวกเขา มาปรับใช้ให้เหมาะกับเราก็ได้ ลองพาตัวเองไปเรียนรู้และสัมผัสกับเวลาที่เป็นปัจจุบัน ไม่ต้องคิดถึงเรื่องวันพรุ่งนี้ แต่อยู่กับแค่ช่วงเวลานี้ ความรู้สึกนี้ เกาะพิทักษ์จึงเป็นคำตอบหนึ่ง ที่รอให้คุณได้ค้นพบและสัมผัสความรู้สึกนี้ด้วยตนเอง

พาหัวใจไปแวะพัก ชมความงดงามในท้องทุ่งสีเขียว ของ “ทุ่งแสลงหลวง”

ทำงานเหนื่อยล้ามาทั้งปี หากได้เห็นสีเขียวขจีของท้องทุ่ง ที่เปรียบเสมือนสนามเด็กเล่น ให้เราได้ผ่อนคลาย มองใบไม้ ต้นหญ้า โอนอ่อนไหวไปตามแรงลม สีเขียวตัดกับความอ่อนโยนของท้องฟ้า ที่มีเมฆปกคลุมอยู่จาง ๆ ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในเทพนิยายอีกเรื่องหนึ่ง ที่รอคอยเราเข้าไปค้นหาความเพลิดเพลินและความสวยงามของเทพนิยายนั้น คงจะทำให้เราอิ่มเอมใจได้ไม่มากก็น้อย ลองแวะไปพักใจที่ทุ่งแสลงหลวง ซึ่งจัดเป็นป่าสะวันนา และยังคงไว้ซึ่งความอุดมสมบูรณ์อยู่มาก ไม่ใช่เพียงแค่ความงดงามของท้องทุ่งสีเขียวอร่ามนั้น หากแต่ยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับการทำกิจกรรมของครอบครัวด้วย เพราะมีทั้งน้ำตก ลำธาร รวมถึงเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่ใครเป็นนักผจญภัย คงไม่อยากพลาด แม้กระทั่งเส้นทางสำหรับใครที่ชื่นชอบการปั่นจักรยาน ก็มีเช่นกัน หรือแค่ได้เอนกายพักผ่อนเหยียดแข้งเหยียดขา ผ่อนคลายความเหนื่อยล้า พร้อมสูดอากาศบริสุทธ์ให้เต็มปอดก็ดีไม่ใช่น้อย

ทุ่งแสลงหลวง เป็นหนึ่งในสถานที่ ที่ควรหาเวลาไปเยี่ยมชมให้ได้สักครั้งหนึ่ง ด้วยขนาดพื้นที่ ที่กว้างใหญ่นั้น ทำให้มีอาณาเขตกินอาณาบริเวณถึงสองจังหวัดด้วยกัน ทั้งจังหวัดเพชรบูรณ์และจังหวัดพิษณุโลก นอกจากนี้ หากได้ไปเยี่ยมชมทั้งในช่วงฤดูฝน หรือฤดูหนาว ก็จะให้ความรู้สึกที่ต่างกันออกไปด้วย หากได้ไปช่วงฤดูฝน ความชุ่มชื่นของป่าสะวันนาพร้อมการทักทายจากดอกกระเจียวสีขาว ที่เริ่มชูช่อขึ้นมา เหมือนรับรู้ได้ ถึงความรู้สึกของผู้มาเยือน กลิ่นหอมของไอดินที่แตะจมูกเบา ๆ ดื่มกาแฟ ชมภาพความสวยงามของท้องทุ่ง ทิ้งความกังวลไว้เบื้องหลัง ถือเป็นการพักผ่อนที่แสนวิเศษ หรือหากได้ไปเยี่ยมชมในช่วงฤดูหนาว ซึ่งอากาศจะหนาวเย็นมาก เหมาะกับการไปสัมผัสความหนาว สูดโอโซนบริสุทธิ์จากต้นไม้ใบหญ้า ใครไม่กลัวความหนาว แนะนำให้ปั่นจักรยาน ดูความงดงามของท้องทุ่ง ปล่อยสายลมแตะหน้าเบา ๆ ให้ความรู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก นับว่าเป็นกิจกรรมดี ๆ อีกอย่างหนึ่งที่ไม่ควรพลาด และด้วยความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ หากโชคดี เราอาจได้พบเจอกับนกหลากหลายพันธุ์ต่าง ๆ เตรียมกล้องไว้ให้ดี คุณอาจได้รูปสวย ๆ กลับมาฝากคนที่บ้าน ให้ได้ร่วมสัมผัสความงดงามเสมือนได้เดินทางมาด้วย

หากคุณกำลังมองหาสถานที่ ที่ทำให้ช่วงเวลาของคุณมีค่า เพื่อให้ธรรมชาติขับกล่อม หลีกหนีความวุ่นวายจากสังคมเมือง ปล่อยใจ ทอดกายให้ห้วงเวลาผ่านไปเนิบช้า เพื่อให้ความคิดของเราได้มีเวลาตกตะกอน และนำพลังเหล่านั้นกลับไปทำงานสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้ต่อไป ที่นี่ก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกนึงที่หากลองไปแค่สักครั้ง แล้วคุณจะอยากกลับมาอีกแน่นอน

เทคนิคจัดกระเป๋าสำหรับมือใหม่หัดเที่ยว

การเดินทางออกนอกประเทศครั้งแรก ๆ หลาย ๆ คนมักพบปัญหาที่ไม่รู้ว่าควรเตรียมตัวอย่างไร มีอะไรที่ควรนำติดตัวไปบ้าง หยิบโน่นโยนนี่จนสุดท้ายก็พกสัมภาระเกินความจำเป็น ทำให้เป็นภาระในการเดินทาง แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพียงแค่ลองทำตามเทคนิคง่าย ๆ ที่จะทำให้การจัดกระเป๋าทริปต่อไปสบายกว่าที่เคย

เสื้อผ้า ก่อนอื่นแนะนำให้เช็คสภาพอากาศของสถานที่ที่เราจะเดินทางไป วิธีง่าย ๆ คือ ค้นหาภาพตัวอย่างใน search engine เลือกไปที่การค้นหาภาพ โดยพิมพ์ “ชื่อสถานที่ เดือน” เพื่อดูภาพรวม หลังจากนั้นค้นหาภาพการแต่งกายโดยพิมพ์ “ชื่อสถานที่ ฤดู ต่อด้วยคำว่า Outfits” เพียงเท่านี้ผลลัพธ์มากมายก็อยู่ตรงหน้า สามารถหยิบมาเป็นไอเดียแต่งตัวเก๋ ๆ ได้ตามใจชอบ

ยาและของใช่ส่วนตัว การไปเที่ยวต่างประเทศแนะนำให้พกยาที่มีฉลากครบถ้วน สำคัญที่สุดคือยารักษาโรคประจำตัว ตามมาด้วยยาป้องกันอาการเมารถ ยาแก้ไข้ ยาพ่นแก้เจ็บคอ ยาทาแผล พลาสเตอร์ยา ยาทาแก้ปวดเมื่อย ยาดม แต่หากเป็นยาชนิดน้ำและครีมแนะนำให้แบ่งใส่กระปุกเล็ก ๆ ไม่เกิน 100ml. ของใช้ส่วนตัวจำพวกครีมก็เช่นกัน เช่น สบู่ ยาสระผม ยาสีฟัน หากมีภาชนะที่ความจุเกินกว่า100ml. ต้องใส่ในกระเป๋าเดินทางที่โหลดเข้าใต้เครื่องเท่านั้น

เงินและเอกสาร การเตรียมเงินสดเพื่อไปใช้จ่ายที่ต่างประเทศควรศึกษาข้อกำหนดเรื่องการพกเงินสดเข้า-ออกประเทศ การพกบัตรเครดิตไปด้วยคือทางเลือกที่ดี แต่อย่าลืมโทรไปแจ้งธนาคารเจ้าของบัตรด้วย เพื่อให้ทำการเปิดใช้บัตรในต่างประเทศเฉพาะช่วงเวลาที่เราท่องเที่ยวเท่านั้น เอกสารสำคัญที่ต้องพกติดตัวตลอดเวลา คือ พาสปอร์ต ซึ่งเป็นเสมือนบัตรประจำตัวประชาชนของเรา อย่าลืมทำสำเนาใส่ไว้ในกระเป๋าอื่นด้วย สำหรับประเทศที่ต้องขอวีซ่า แม้วีซ่าจะผ่านแล้ว ควรพกสำเนาเอกสารต่าง ๆ ที่เคยยื่นขอวีซ่าไว้ เผื่อโดนเรียกตรวจหรือสัมภาษณ์ขณะผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง

อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โทรศัพท์มือถือ กล้องถ่ายรูป และแบตเตอรี่สำรอง ยิ่งอากาศหนาวเย็นมากเท่าไหร่แบตเตอรรี่ก็จะคายประจุเร็วเท่านั้น ที่ชาร์จแบตสำรอง(Power Bank) ไม่ควรเกิน 30,000 mAh และต้องพกขึ้นเครื่องบินเท่านั้น เมื่อมีสายชาร์จก็ต้องมีปลั๊กพ่วงที่มีหัวจ่าย อย่างน้อยที่สุดคือตามจำนวนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่เรานำไปด้วย เนื่องจากที่พักบางแห่งมีปลั๊กให้เสียบเพียง 1 ช่อง และอีกหนึ่งอย่างที่ขาดไม่ได้ คือ หัวแปลงปลั๊กแบบ universal

เทคนิคง่าย ๆ เหล่านี้ อย่าลืมนำไปปฏิบัติ รับรองได้เลยว่าทริปการเดินทางครั้งต่อไปจะสะดวกสบาย แถมยังไม่ต้องพกสัมภาระมากมายอีกด้วย

 

เตรียมตัวท่องเที่ยวอย่างไร…ให้ราบรื่นปลอดภัยไร้กังวล

มีโอกาสไปเที่ยวทั้งที ใคร ๆ ก็คาดหวังว่าการเดินทางครั้งนี้ต้องเป็นเหมือนทริปในฝัน จะสวยงามราบรื่นเป็นไปตามแผนที่วางไว้ แต่หลาย ๆ ครั้งที่ได้รับรู้จากประสบการณ์ของคนรอบข้าง ที่มักต้องได้พบกับเหตุสุดวิสัยในระหว่างการท่องเที่ยว เราจึงได้รวบรวมคำแนะนำที่จะช่วยลดความผิดพลาดในระหว่างเดินทาง และช่วยให้คุณท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจยิ่งขึ้น

 

  • พกกระเป๋าพาสปอร์ตแบบคล้องคอ ควรจะมีกระเป๋าขนาดเล็ก ที่มีสายสะพายยาวสำหรับคล้องคอหรือสะพายข้าง พร้อมช่องสำหรับใส่พาสปอร์ต บัตรเครดิต นามบัตร และเงินสำรองพกติดตัว แนะนำว่าให้คล้องคอแล้วใส่ไว้ในเสื้อ หรือหากเดินทางไปเที่ยวเมืองหนาว สามารถคล้องคอหรือสะพายข้างไว้นอกเสื้อ แล้วจึงคลุมด้วยเสื้อคลุม หรือเสื้อกันหนาวทับอีกที การันตีได้ว่าวิธีนี้จะหมดปัญหาเรื่องเอกสารหายอย่างแน่นอน

 

  • ใส่นามบัตรและสำเนาพาสปอร์ตไว้ในกระเป๋าทุกใบ สำหรับกระเป๋าเดินทางแนะนำว่าให้ใส่ไว้ในช่องที่ไม่ได้ล็อคกุญแจ เพราะเอกสารเหล่านี้สามารถใช้เป็นเอกสารสำรองในกรณีที่พาสปอร์ตหาย ช่วยให้การดำเนินการออกพาสปอร์ตใหม่ที่สถานฑูตเร็วขึ้นกว่าการที่ไม่มีข้อมูลยืนยันตัวตนอะไรเลย ทั้งยังช่วยลดโอกาสที่กระเป๋าเดินทางหายและไม่ได้คืนเมื่อมีผู้หยิบกระเป๋าผิด หรือสายการบินโหลดกระเป๋าผิดพลาด

 

  • ทำประกันการเดินทาง เหมือนจะไม่จำเป็น แต่จริง ๆ แล้วมีความสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นทริปสั้นหรือทริปยาว เดินทางระยะใกล้หรือไกล เพราะเรื่องที่ไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ทั้งเครื่องบินดีเลย์ ของหาย ปัญหาด้านสุขภาพ และความปลอดภัย ประกันการเดินทางมีหลายรูปแบบ หลากหลายราคา แตกต่างกันที่วงเงินและความคลอบคลุมในการคุ้มครอง ลองศึกษาให้เหมาะสมกับการเดินทางในทริปนั้น ๆ แล้วยอมจ่ายเพื่อความอุ่นใจ ดีกว่าต้องมาปวดหัวปวดใจทีหลัง

 

  • อย่าไว้ใจคนแปลกหน้าที่ขอให้ช่วยหิ้วสัมภาระ โดยเฉพาะที่สนามบิน คุณไม่มีทางรู้ล่วงหน้าได้เลยว่าสิ่งที่ให้เราช่วยหิ้วนั้นคืออะไร บางครั้งมิจฉาชีพก็มาในรูปแบบของเด็กหรือผู้ชรา เราควรขอโทษและปฏิเสธอย่างสุภาพ แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่ให้ช่วย เพราะมีหลายครั้งที่มีผู้เดือดร้อนจากการช่วยหิ้วของผิดกฎหมายโดยไม่รู้ตัว

การพบอุปสรรคเล็ก ๆ น้อย ๆในการท่องเที่ยวนั้นเป็นเรื่องธรรมดา แต่การเตรียมตัวที่ดีจะช่วยผ่อนหนักเป็นเบา อย่าให้อุปสรรคมาทำให้คุณรู้สึกหมดสนุก และอยากให้ระลึกถึงเสมอเมื่อต้องเจอปัญหาว่า ทุกอย่างมีทางแก้ และเมื่อได้รับการแก้ไขแล้วก็จะกลายเป็นเพียงเหตุการณ์หนึ่ง ที่คุณสามารถถ่ายทอดต่อเพื่อเตือนคนอื่น ๆ ได้

 

เที่ยวตามรอย “คู่กรรม” สุดยอดวรรณกรรมอมตะของไทย

“คู่กรรม”  วรรณกรรมอมตะ ที่ถูกนำเสนอทั้งในรูปแบบหนังสือ ภาพยนตร์ และละครโทรทัศน์ โดยมีการทำใหม่หลากหลายเวอร์ชั่น และโด่งดังทุกเวอร์ชั่น โดยเฉพาะฉบับของป๋าเบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ เป็นบทประพันธ์ ที่ประพันธ์โดยคุณทมยันตี  ทำให้หวนระลึกถึงและอยากเชิญชวนให้คุณออกเดินทางย้อนเวลาไปในห้วงเวลาสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ลัดเลาะสถานที่สำคัญในบทประพันธ์ สถานที่ที่โกโบริและอังศุมาลินได้พานพบและพลัดพราก

  • คลองบางกอกน้อยอังศุมาลิน อาศัยอยู่กับแม่อรและยาย ในบ้านสวนริมคลองบางกอกน้อย เธอได้พบกับโกโบริ นายทหารญี่ปุ่น ขณะที่ว่ายน้ำไปแอบดูอู่ต่อเรือของทหารญี่ปุ่นในละแวกใกล้ ๆ บ้าน

เชื่อกันว่าเดิมทีคลองบางกอกน้อยนี้เป็นส่วนหนึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยา ในยุคนั้นชาวบ้านชุมชนริมคลองบางกอกน้อย จะใช้คลองนี้ในการสัญจรหลัก การที่ได้มาล่องเรือผ่านคลองทำให้นึกจินตาการไปว่า ถ้าอังศุมาลินมีตัวตนจริงไม่ใช่มีเพียงแค่ในบทประพันธ์ บ้านของเธอน่าจะอยู่ตรงไหนสักแห่งละแวกนี้

  • สถานีรถไฟบางกอกน้อยในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่นใช้สถานีรถไฟบางกอกน้อย เป็นที่ตั้งกองกำลัง โดยอาศัยเส้นทางรถไฟสายนี้ในการลำเลียงอาวุธยุทโธปกรณ์ เสบียง และสิ่งของ ไปยังจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อสร้างเส้นทางรถไฟเข้าสู่ประเทศพม่า ที่นี่จึงเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ และในท้ายที่สุดก็ถูกโจมตีทางอากาศจนย่อยยับในเวลา 02.30 น. ของวันที่ 29 พฤศจิกายน 2487 ซึ่งในบทประพันธ์ได้กำหนดให้โกโบริต้องจากอังศุมาลินไปตลอดกาลในวันนี้นี่เอง

ปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น สถานีรถไฟธนบุรี และยังคงเปิดใช้บริการวิ่งไป-กลับ ในเส้นทางมุ่งสู่สถานี ประจวบคีรีขันธ์ หลังสวน น้ำตก ราชบุรี และศาลายา  ในบริเวณใกล้เคียงนี้ยังมีโรงรถจักรธนบุรี ซึ่งเป็นสถานีบำรุงรักษา-ซ่อมแซม รถจักรดีเซล และเป็นที่เก็บรักษารถจักรไอน้ำของการรถไฟฯ ที่ยังคงใช้การได้ 5 คัน ใช้สำหรับลากจูงขบวนรถพิเศษในโอกาสสำคัญอีกด้วย

การท่องเที่ยวแบบชิล ๆ เพื่อซึมซับบรรยากาศตามรอยวรรณกรรมอมตะ “คู่กรรม”  ทั้ง 2 แห่งภายในวันเดียวนั้นไม่ยากเลย เริ่มจากซื้อทัวร์ล่องเรือท่องเที่ยวคลองบางกอกน้อยที่ท่าช้าง โดยจะมีให้เลือก ทั้งเรือหางยาว เรือบัส และเรือเอี้ยมจุ๊น (สามารถเช็คราคาทัวร์ได้จากหลายบริษัทที่บริเวณท่าเรือ) การเดินทางท่องเที่ยวจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ (ขึ้นอยู่กับแพ็กเก็จและเส้นทางที่เลือก) เมื่อกลับมาถึงท่าช้าง ให้ต่อเรือข้ามฟากไปขึ้นที่ท่าพรานนก สามารถนั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างสาธารณะต่อไปที่สถานี หรือจะเดินชิล ๆ เก็บเกี่ยวบรรยากาศระหว่างทางก็ได้ ซึ่งจะใช้เวลาราว 15 นาที  โดยเลี้ยวขวาเข้าศิริราชเดินทะลุไป จากนั้นเลี้ยวซ้ายเดินต่อไปก็จะถึงสถานีรถไฟบางกอกน้อย (สถานีธนบุรีในปัจจุบัน)

 

ขับรถบ้านตะลุยเที่ยว 3 ประเทศในฝัน

กำลังหาทริปผจญภัยในวันหยุดยาวอยู่ใช่ไหม หากคุณสนใจขับรถบ้านท่องเที่ยวฟังทางนี้ เรามีประเทศที่เหมาะสำหรับการขับรถบ้านท่องเที่ยวมานำเสนอ โดยคัดเลือกจากประเทศที่มีภูมิประเทศที่งดงาม และมีความเป็นธรรมชาติสูง เพราะการขับรถบ้านนั้น นอกจากจุดหมายปลายทางแล้ว ระหว่างทางก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ที่สำคัญคือต้องมีจุดรองรับสำหรับการจอดพักค้างคืนที่ปลอดภัยและสะดวกสบาย

 

  • ไอซ์แลนด์ประเทศที่มีภูมิประเทศหลากหลายและสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก การขับรถบ้านในไอซ์แลนด์นั้นสะดวกสบาย มีถนนวงแหวนสายหลักหมายเลข 1 ความยาวประมาณ 1,300 กิโลเมตร ที่เชื่อมระหว่างเมืองต่าง ๆ รอบเกาะ และมีถนนสายเล็กที่เชื่อมไปยังจุดท่องเที่ยวที่สวยงามต่าง ๆ แม้ว่าในบางฤดูถนนบางเส้นจะปิดไม่สามารถขับรถบ้านเข้าไปได้ แต่แค่ความสวยงามระหว่างทางก็ช่างคุ้มค่ากับการไปเยือน ส่วน Campsite สำหรับจอดรถบ้านที่นี่จะมีอยู่ตามเมืองเล็ก ๆ ระหว่างทาง

 

  • นิวซีแลนด์ประเทศในฝันที่มีภูมิประเทศสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยเฉพาะเกาะใต้ ซึ่งเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่รักการท่องเที่ยวสายธรรมชาติ การขับรถบ้านที่นี่จะพบว่าระหว่างทางมีภูมิทัศน์ที่สวยงามให้จอดแวะและดื่มด่ำทิวทัศน์อันงดงามตลอดเส้นทาง ทั้งธารน้ำแข็ง ทะเลสาป ทุ่งดอกไม้ และเนินเขาเมือง โดยนิวซีแลนด์ถือว่าเป็นประเทศที่สะดวกสบายสำหรับการขับรถบ้าน เพราะมีทั้งจุดจอดรถบ้านรองรับในแต่ละสถานที่ท่องเที่ยว และมี Campsite สำหรับรองรับรถบ้านในแต่ละเมืองตลอดทาง

 

  • นอร์เวย์อีกหนึ่งประเทศในฝันที่แม้จะเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องค่าคอรงชีพที่สูงลิบ แต่ก็มีธรรมชาติที่สวยงามอยู่มากมายหลายแห่ง ข้อดีสำหรับผู้ที่ขับรถบ้านท่องเที่ยวที่นี่ คือมี Campsite ที่สามารถจอดรถบ้านพักค้างคืนได้ฟรีมากมายหลายแห่ง และเป็นประเทศที่ค่อนข้างให้อิสระนักท่องเที่ยวในการตั้งแคมป์ มีเส้นทางการขับรถบ้านทอดยาวใต้จรดเหนือของประเทศ ซึ่งคุณจะได้พบกับที่ราบสูง ภูเขา ป่าไม้ หมู่บ้านสวยงามเป็นเอกลักษณ์ และฟยอร์ด (อ่าวเล็ก ๆ บริเวณชายฝั่งทะเล ถูกน้ำกัดเซาะจนเว้าแหว่งเกิดเป็นความสวยงาม) ถือว่าเป็นประเทศที่ทัศนียภาพสวยคุ้มค่าแก่การไปเยือน

 

สำหรับใครที่ไม่เคยขับรถเที่ยวโดยรถบ้าน เสน่ห์ของการท่องเที่ยวแบบนี้คือ การเหมือนได้พกบ้านไปเที่ยวด้วย เที่ยวเสร็จก็ขึ้นรถมาพักผ่อนยืดเส้นยืดสายได้สบาย ๆ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือความปลอดภัย เพราะคุณใช้ชีวิตอยู่บนรถและบนท้องถนนเสียเป็นส่วนใหญ่ โปรดศึกษากฎจราจรพื้นฐานในแต่ละประเทศให้ดี และปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

 

ลอยลมชมทัศนียภาพสวย ๆ ด้วยบอลลูนกันเถอะ

เมื่อเอ่ยถึงการขึ้นบอลลูน เชื่อว่าคงเป็นอีกหนึ่งความฝันของใครหลายคน ที่ถวิลหาอยากขึ้นไปอยู่บนยานพาหนะรูปทรงแปลกตาสีสันงดงาม ทำให้เกิดความรู้สึกอัศจรรย์ใจทุกครั้งที่พบเห็น แม้ว่าจะราคาค่อนข้างสูง แต่ครั้งหนึ่งในชีวิตถือว่าเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่าและน่าประทับใจ ส่วนคนที่ลังเลเพราะกลัวความสูงนั้นก็ไม่ต้องเป็นกังวล รับรองว่าความสวยของทัศนียภาพที่ได้เห็นนั้นจะทำให้รู้สึกตื่นตาตื่นใจจนลืมความรู้สึกกลัวไปเลย เราขอแนะนำสถานที่ 3 แห่ง ที่รับรองว่าสวยตะลึงและคุ้มค่ากับการขึ้นบอลลลูนเป็นที่สุด

 

  • คัปปาโดเกียประเทศตุรกี คัปปาโดเกียมีภูมิประเทศที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ จนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางธรรมชาติและวัฒนธรรมแห่งแรกของประเทศตุรกี เกิดจากการปะทุครั้งใหญ่ของภูเขาไฟ 2 ลูก เมื่อหลายล้านปีก่อน พ่นเถ้าถ่านทับถมครอบคลุมทั่วบริเวณ ต่อมาได้ถูกลมและฝนกัดกร่อนจนกลายเป็นหินรูปทรงประหลาด สวยงามสลับซับซ้อน มนุษย์ยุคโบราณที่มาพบบริเวณนี้จึงทำการสกัดหินเป็นโพรงเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย ปัจจุบันบางส่วนได้ถูกอนุรักษ์ไว้ บางส่วนยังมีผู้อยู่อาศัยและบางส่วนได้รับอนุญาติให้ทำเป็นโรงแรมที่พัก
    การขึ้นบอลลูนชมทัศนียภาพที่นี่ ราคาประมาณ 200 USD (ประมาณ 6,000 กว่าบาท)

 

  • พุกามประเทศพม่า เชื่อว่าหนึ่งใน Bucket List ของการท่องเที่ยวด้วยบอลลูนในใจนักท่องเที่ยวหลายคนต้องมีที่นี่แน่นอน พุกามคือดินแดนแห่งเจดีย์ 4,000 องค์ เป็นอาณาจักรเก่าแก่ของพม่า เชื่อกันว่าบริเวณนี้แต่เดิมเคยมีเจดีย์มากกว่า 10,000 องค์ แม้ต่อมาจะสูญสลายไปตามกาลเวลา แต่เท่าที่มีอยู่ในปัจจุบันก็งดงามเพียงพอที่จะทำให้จิตนาการได้ถึงความรุ่งเรือง และความยิ่งใหญ่ในอดีต
    การขึ้นบอลลูนชมทัศนียภาพที่นี่ ราคาประมาณ 350 USD (ประมาณ 9,000 กว่าบาท)

 

  • ลักซอร์ประเทศอียิปต์ ผู้ที่หลงใหลในอารยธรรมสองฟากฝั่งลุ่มแม่น้ำไนล์ไม่ควรพลาด เพราะที่นี่เป็นศูนย์รวมของสถาปัตยกรรมยิ่งใหญ่โบราณกว่า 4,000 ปี ทางฝั่งตะวันออกมีวิหารลักซอร์ วิหารคานัค ทางฝั่งตะวันตกมีหุบเขากษัตริย์ สุสานฟาโรห์ทุตอังค์อามุน (ตุตันคาเมน) วิหารฟาโรห์หญิงฮัตเชปซุส สุสานเหล่าขุนนางและวิหารฟาโรห์รามเสสที่สองและสาม นอกจากได้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ในอดีตแล้ว การท่องเที่ยวบนบอลลูนนี้คุณยังจะได้เห็นทัศนียภาพที่น่าทึ่งของอาคารบ้านเรือนในปัจจุบัน และพื้นที่ทำการเกษตรริมแม่น้ำไนล์ด้วย
    การขึ้นบอลลูนชมทัศนียภาพที่นี่ ราคาประมาณ 100 USD (ประมาณ 3,000 กว่าบาท)

 

ราคาแพ็กเกจทัวร์ขึ้นบอลลูนในแต่ละที่ มีหลายราคาแตกต่างกันไปตามมโยบายของแต่ละบริษัท การขึ้นบอลลูนในแต่ละครั้งนั้นต้องอาศัยปัจจัยด้านสภาพอากาศเป็นหลัก จึงควรเลือกบริษัทที่ชัดเจนในนโยบายด้านความปลอดภัย โดยควรพิจารณาจากผลงานที่ผ่านมาของบริษัท และประสบการณ์ของกัปตันประกอบด้วย