กีฬาที่สามารถไปคนเดียวได้โดยไม่ต้องง้อใครเลยก็เห็นจะเป็นการวิ่งนี่แหละ แต่การวิ่งบนถนนปกติอาจจะธรรมดาไป ตอนนี้เราเลยเห็นคนไปวิ่งเทรลกันเยอะขึ้น แล้วการวิ่งเทรลต่างจากวิ่งปกติอย่างไร เรามีเทคนิคที่ดีมาฝากกัน
การวิ่งเทรล (Trail Running) เป็นการวิ่งและการเดินเขาผ่านเส้นทางธรรมชาติ เช่น ลุยเข้าไปในป่า เดินขึ้นเขา ทุ่งหญ้า ผ่านลำธาร น้ำตกซึ่งมีทั้งก้อนหิน ทราย ดินโคลน เส้นทางเหล่านี้ไม่ได้เรียบเหมือนพื้นถนนทั่วไป ดังนั้นการวิ่งเทรลก็ต้องยากขึ้นมาอีกพอสมควร ดังนั้นนักวิ่งเทรลมือใหม่ หรือมือเก่าก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจให้พร้อมทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการซ้อมวิ่งที่นักวิ่งหลายคนควรทำเป็นประจำก่อนถึงเวลาลงวิ่งจริง เพราะการซ้อมนี่แหละที่ทำให้การออกไปวิ่งในวันจริงประสบความสำเร็จ ในที่นี้ไม่จำเป็นว่าคุณจะต้องได้รางวัล หรือได้ถ้วยเสมอไป แค่คุณสามารถวิ่งได้จนจบเส้นทางและไม่ได้รับบาดเจ็บนั่นก็ถือว่าสุดยอดแล้ว
เทคนิคการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนวิ่งเทรล และอุปกรณ์ที่จำเป็น
1.การซ้อมและการสำรวจเส้นทางวิ่ง ควรสำรวจเส้นทางที่เรากำลังจะออกไปวิ่ง เพื่อที่จะได้รู้ว่าเราจะเจอกับอะไรบ้าง ส่วนใหญ่การวิ่งเทรลเราจะได้รับกราฟแสดงเส้นทางมาพร้อมกับ BIB ซึ่งจะแสดงความสูงชันของพื้นที่นั้น ๆ ตรงนี้ถ้าเราศึกษาไปดี ๆ ก็จะได้รู้ว่าเราควรวิ่งแบบไหนช่วงไหนควรเซฟพลังงาน และควรจัดการกับตัวเองอย่างไร ถึงจะสามารถวิ่งได้ไปจนจบเส้นทางโดยไม่หมดแรงไปก่อน
2.การเลือกรองเท้าสำหรับวิ่งเทรล การทำความรู้จักกับพื้นที่ที่เราไปวิ่ง ยังช่วยให้เราเลือกรองเท้าวิ่งให้ถูกกับสภาพพื้นที่ อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่า สนามเทรลนั้นเป็นพื้นที่ธรรมชาติ เราอาจจะเจอเนินหิน ดิน โคลนในระหว่างทาง หรือบางจุดอาจจะมีลำธารไหลผ่าน รองเท้าจึงต้องเป็นรองเท้าสำหรับวิ่งเทรลโดยเฉพาะและส่วนใหญ่จะถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานที่ต้องพิชิตสิ่งเหล่านี้อยู่แล้ว สังเกตว่าพื้นรองเท้าจะมีปุ่มไว้สำหรับยึดเกาะพื้น และมีความตื้น ลึก แตกต่างกันไป ถ้าลึกมากก็สามารถยึดเกาะพื้นได้มากขึ้น การซัพพอร์ตก็จะดีขึ้นด้วย แม้ว่าน้ำหนักจะมากขึ้นก็ตาม แต่ก็ช่วยให้เราปลอดภัยหากต้องเดินขึ้นเนินที่ลาดชันสูงนั่นเอง
3.เทรกกิ้งโพล หรือไม้ค้ำที่ใช้ค้ำยันเวลาเดินขึ้น-ลงเขา เพื่อช่วยผ่อนแรงขา เทคนิคคือ กำลังหลักจะอยู่ที่ขาของเรา ไม้ค้ำจะช่วยพยุงในเวลาที่ขาอ่อนแรง ไม่จำเป็นต้องเอาออกมาใช้ตลอดทาง
4.ไฟติดหัว การวิ่งเทรล บางครั้งอาจจะต้องเริ่มสตาร์ทตั้งแต่เช้ามืด แสงไฟจึงสำคัญมาก จำเป็นอย่างมากที่นักวิ่งจะต้องเห็นเส้นทางชัดเจนเพื่อความปลอดภัยของเราเอง
5.น้ำดื่ม สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยก็คือน้ำดื่มที่ต้องนำติดตัวไป เพราะการวิ่งเทรลนั้นจะสูญเสียพลังงานมากกว่าปกติเพราะต้องเจอกับความชันในเส้นทางวิ่ง ทำให้ต้องออกแรงมากกว่าปกติ รวมถึงปัจจัยต่าง ๆ เช่น สภาพอากาศที่ร้อนจัด การเสียเหงื่อมากอาจจะทำให้ร่างกายขนาดน้ำได้ ดังนั้นห้ามลืมพกน้ำไปด้วยเด็ดขาด
6. เกลือแร่และเจล เกลือแร่ควรแยกใส่ขวดน้ำเล็ก ๆ ไว้หรือใส่ขวดแบบนิ่มก็ได้ ส่วนเจลคือแหล่งพลังงานสำรองของร่างกาย ควรมีติดไว้ 1-2 ถุง หรือพิจารณาตามระยะทางที่เราวิ่ง ถ้ายังเป็นนักวิ่งเทรลระยะสั้นอาจจะไม่ต้องพกอะไรไปมากมาย ไม่อย่างนั้นอาจจะกลายเป็นเพิ่มน้ำหนักและกลายเป็นภาระสำหรับนักวิ่งไปเปล่า ๆ
7.อุปกรณ์อื่น ๆ ที่ช่วยปกป้องร่างกาย เช่น หมวก ปลอกแขน แว่นกันแดด ผ้าบัฟ เป็นต้น ควรเลือกหมวกที่มีน้ำหนักเบา ช่วยระบายอากาศได้ดี แว่นตาที่ช่วยป้องกันรังสียูวี ปลอกแขนป้องกนไม่ให้ผิวไหม้ เพราะอย่างที่รู้กันว่า กว่าจะวิ่งจบ อาจจะต้องเจอกับแสงแดดที่ร้อนจัด ซึ่งเป็นอันตรายต่อผิว
หวังว่าเทคนิคการเตรียมตัวทั้งหมดนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่อยากจะไปวิ่งเทรลไม่มากก็น้อย ที่สำคัญเตรียมร่างกายและกำลังใจให้พร้อมรับรองว่าคุณต้องทำได้สำเร็จแน่นอน