กิจกรรมต้องโดนเมื่อไปเที่ยว “เกาะล้าน”            

ตัวเลือกแรกเมื่อถึงช่วงซัมเมอร์ของเมืองไทย (เมษายน-พฤษภาคม) คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจากไปดับร้อน ที่ทะเล หรือเกาะน้อยใหญ่ต่าง ๆ วันนี้เรามีหนึ่งเกาะน้ำใสไม่ไกลกรุงเทพฯ และใช้งบประมาณน้อยกว่าเกาะอื่นมาฝากกัน นั่นก็คือ “เกาะล้าน” นั่นเอง

“เกาะล้าน” เป็นเกาะในอ่าวไทย อยู่ในเขตพัทยา จังหวัดชลบุรี เป็นเกาะที่ไม่ใหญ่มาก แต่ปี ๆ หนึ่งต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติไม่หยุดหย่อน เกาะล้านนั่งเรือข้ามฝากจากพัทยาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว ใช้งบไม่มากในการท่องเที่ยว อาหารไม่แพง  หากใครคิดว่าไปเกาะล้านไม่รู้ทำอะไรนอกจากนอนรีสอร์ท เล่นน้ำทะเลเฉย ๆ ตามมาเลย!  เรามีกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟ มาให้ตามรอยกัน ต้องทำให้ครบนะ

เช่ามอเตอร์ไซค์ลุยเกาะล้าน

                เกาะล้านถึงจะไม่ใหญ่ แต่ก็เดินถึงกันลำบาก อันดับแรกที่จะต้องทำคือ เช่ามอเตอร์ไซค์ ซึ่งหาเช่าง่ายมาก เรียกว่ามีคู่กับทุกรีสอร์ท บางที่ก็ให้ฟรีอีก ค่าเช่าอยู่ประมาณ 300 บาท เติมน้ำมันให้เต็มถัง ไม่ต้องกลัวหมด ขี่วนรอบเกาะไปได้เลย แต่ว่าต้องมีสกิลขี่มอเตอร์ไซค์ที่ค่อนข้างแข็ง เพราะทางลาดชันเยอะมาก ส่วนสาเหตุที่ไม่ที่นี่ไม่ใช้รถยนต์สัญจรก็เพราะความจำกัดของพื้นที่นั่นแหละ เราจะเห็นรถกะป้อเล็ก ๆ เท่านั้น

ตะเวนเล่นน้ำตามหาดต่าง ๆ  

เกาะล้านถึงแม้จะไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีหาดต่าง ๆ ให้เล่นหลายที่ ทั้งหาดนวล หาดตาแหวน หาดตายาย และหาดเทียน ถ้ามีมอเตอร์ไซค์แล้วก็ตระเวนเล่นน้ำให้ครบเถอะ ฟินมาก แต่ละหาดก็บรรยากาศต่างกัน น่าเก็บรูปสวย ๆ ทั้งนั้น

ถล่มกินซีฟู้ดให้พุงกาง

ไปทะเลทั้งทีก็ต้องไปกินซีฟู้ด บนเกาะล้านราคาอาหารซีฟู้ดถือว่ากำลังน่ารัก ถือเงิน 500-1000 บาทก็สามารถกิน กุ้ง ปลา ปู ฯลฯ สบาย ๆ ราคาไม่อัพมาก มีทั้งร้านนั่งชิลล์ในตลาด หรือร้านหรูนั่งริมทะเลก็มีให้เลือกได้ตามความต้องการ

แวะถ่ายรูปกับท้องทุ่ง

แลนมาร์คลับ ๆ อย่าบอกใครก็อยู่ตรงนี่แหละ ระหว่างทางที่จะไปหาดนวล จะเป็นถนนเส้นยาวไม่มีบ้านคน ตรงนี้เต็มไปด้วยพืชพรรณธรรมชาติ ภูเขาสวยมาก เหมือนไม่ได้อยู่บนเกาะเลย เหมาะกับการเก็บภาพประทับใจกลับบ้านอย่างมาก

ส่งโปสต์การ์ดกลับบ้าน

                ก่อนกลับบ้านใกล้ ๆ กับท่าเรือก่อนกลับตัวพัทยา จะมีโซนขายของที่ระลึกอยู่ ถ้าใครชอบเสี่ยงโชค ชอบลุ้นก็แนะนำว่า ให้ลองส่งโปสต์การ์ดกลับบ้านดู ว่าจะใช้เวลากี่อาทิตย์ โดยแต่ละร้านจะมีตู้ไปรษณีย์พร้อมหยอด โปสเตอร์ก็น่ารักอยู่นะ
เราคงจะช่วยไขคำตอบให้ได้แล้ว ว่าไปเกาะล้าน ต้องไปโดนกิจกรรมอะไรบ้าง อย่าลืมไปเที่ยวกันนะ รับรองเปิดทริปมิติใหม่อย่างแน่นอน สำหรับการเดินไปเกาะล้านจะขับรถไปเองก็ขึ้นมอเตอร์เวย์สาย 7 ไปได้เลย ถ้ารถตู้ รถทัวร์ ขึ้นที่หมอชิต 2 หรือเอกมัยก็ได้

 

เก่าแต่เก๋า  4 ตลาดย้อนยุค ถ่ายภาพสวย ของกินเพียบ!

                เทรนด์การท่องเที่ยวปีนี้ มีวี่แววว่าโบราณสถาน วัดวาอาราม ตลอดจนสถานที่กลิ่นอายเก่า ๆ จะกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ถ้าไม่อยากตกเทรนด์ วันนี้จะพาไปเซอร์เวย์ ตลาดเก่า ๆ ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มาให้เลือกกัน มีทั้งเก่าแก่จริงและจำลองขึ้นมา แต่ละที่ได้บรรยากาศมากหวนคืนวันเก่ามาก ถ่ายรูปสวย แถมอาหารการกินก็ครบสมบูรณ์ จะมีตลาดไหนบ้าง ติดตามกัน

ตลาดสามชุก สุพรรณบุรี

                ตลาดแห่งนี้มีอายุยืนยาวมากกว่า 100 ปี ได้รับการอนุรักษ์รักษาอย่างดี ได้รับความนิยมมากในทั้งชาวไทย และต่างชาติ  ภายในมีร้านค้ามากกว่า 100 ร้าน ตลาดเป็นลักษณะห้องแถวเก่า เดินเพลิน ๆ ไม่น่าเบื่อ หน้าตลาดมีสะพานไม้ขนาดใหญ่ เหมือนเป็นทางเข้าออก ตรงนี้เป็นแลนมาร์คที่นิยมถ่ายรูปที่สุด อาหารการกินมีหลายชนิดให้ลิ้มลอง ทั้ง ลูกชิ้นยักษ์, ข้าวห่อใบบัว, หมูแดดเดียว จะซื้อกลับหรือนั่งกินที่ร้านก็ได้บรรยากาศเว่อร์ ที่ตั้งของตลาดอยู่ที่อำเภอสามชุก ริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน  เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 7.00 -18.00 น.

ตลาดเพลินวาน หัวหิน

ถ้าใครไปหัวหินก็ขับเลยมาสักนิดก็จะเจอตลาดเก่า หน้าตาคล้ายโรงสีมีชื่อแปลกว่า “เพลินวาน” คอนเซ็ปต์ของตลาดก็พาให้เราเพลิดเพลินกับวันวานนี่แหละ ภายในจำลองบรรยากาศเก่า คล้ายงานวัด  มีการจัดจุดถ่ายรูปไว้ทั่วตลาด มีทั้งหมด 3 ชั้น  ประกอบไปด้วยร้านอาหารร้านของของฝาก ร้านของเล่นเก่า ๆ ร้านกาแฟ ครบถ้วน อาหารของตลาดเพลินวานอร่อยหลายอย่าง ต้องลองไปชิมดู วันหยุดจะคนเยอะหน่อย เข้าชมฟรีเปิดทุกวัน และปิดประมาณ4ทุ่ม

ตลาดน้ำ 4 ภาคพัทยา พัทยา

อีกหนึ่งตลาดเก่าจำลองเชิงอนุรักษ์ที่น่าโดน ต้องยกให้ที่นี่ เพราะเขารวมของขึ้นชื่อ วิถีชีวิตความเป็นไทย ครบ 4 ภาคไว้ที่เดียวกัน บรรยากาศร่มรื่นกลางแม่น้ำ จำลองวิถีชีวิตของพ่อค้าแม่ค้าริมน้ำได้ดี อาหารอร่อย เลือกตามใจเลย นอกจากเดินชิลล์แล้วยังมีกิจกรรมอื่น ๆให้ทำ เช่น ล่องเรือ, เรือสะเทินน้ำสะเทินบก, สาธิตการนวดแผนไทยโดยผู้เชี่ยวชาญ คนไทยเข้าชมฟรี ตัวตลาดมองเห็นง่ายอยู่ติดถนนสุขุมวิท ห่างจากพัทยาประมาณ 2.5 กิโลเมตร เท่านั้นเอง

ตลาดน้ำอัมพวา สมุทรสงคราม

ตลาดน้ำเก่าแก่ที่ได้รับความนิยมสูงสุดก็ต้องที่นี่เลย เราจะได้เห็นวิถีชีวิตการค้าขายริมน้ำ พายเรือขายของจริง ๆ ไม่ใช้ตัวแสดงแทน บ้านเรือนในตลาดจะเป็นบ้านเรือนเก่าที่ชาวบ้านอาศัยอยู่จริง และได้รับการอนุรักษ์มายาวนาน สำหรับอาหารและขนม ที่ก็ขึ้นชื่อและราคาไม่แพง มีให้เลือกเยอะ ทั้งก๋วยเตี๋ยวเรือ หอยทอด ผัดไท อาหารทะเล ขนมไทย ฯลฯ เปิดบริการวันศุกร์- อาทิตย์ 12.00-20.00 น. ถ้าใครยังไม่อยากกลับก็หาโฮมสเตย์พัก นั่งเรือชมหิ่งห้อยได้เลย

                นี่แค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ปัจจุบันสถานที่ท่องเที่ยวแนวนี้มีเยอะมาก เลือกไปได้ทุกสัปดาห์เลยยังได้ แถมในการเดินทางแต่ละครั้งก็ใช้งบประมาณไม่เยอะ ไปเช้าเย็นกลับ หรือนอนค้างคืนเที่ยวที่อื่น ๆ ก็สามารถ

 

“ชัยนาท” จังหวัดลับ ๆ กับ 4 สถานที่ท่องเที่ยวต้องโดน     

                ใครที่ยังไม่มีแผนท่องเที่ยวในใจสำหรับวันหยุดหน้า หากอยากหาที่เที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ไหว้พระ ชมนก ชิมของอร่อย อยากจะเชิญชวนไปเที่ยว จังหวัดลับ ๆ ของภาคกลาง อย่างจังหวัด “ชัยนาท” กันหน่อยดีกว่า จังหวัดนี้เป็นจังหวัดขนาดเล็กอยู่ติดกับจังหวัดใหญ่อย่างสุพรรณบุรีและนครสวรรค์ ทำให้ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก หรือผ่านไปเท่าไรนัก แต่ขอบอกเลยว่าที่เที่ยวที่กินของที่นี่ มีเยอะและสวยงามไม่แพ้จังหวัดอื่น ๆ เลย จะมีที่ไหนบ้าง? วันนี้รวมมาให้แล้ว!

1.สวนนกชัยนาท

                เพลิดเพลินตากับนกนานาสายพันธุ์ ที่ถูกรวบรวมครบที่เดียว โดดเด่นด้วยกรงนกใหญ่ ที่สามารถไปเดินชมพักผ่อนหย่อนใจแบบชิลล์ ๆ มีนกสารพัดชนิดเดินผ่านหน้าเลย นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ไข่นก ร้อยเรียงประวัติความเป็นมา การกำเนิดของนกพันธุ์ต่าง ๆ อควาเรียมขนาดใหญ่ ชมปลาไทยในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา พิพิธภัณฑ์อวกาศ และส่วนจัดแสดงโชว์ต่าง ๆ เพลินตา อีกอย่างที่ไม่ควรพลาดคือ หุ่นฟางนกยักษ์ ที่ตั้งโชว์ไว้รอบสวนนกชัยนาท สวยงาม และเหมือนจริง เป็นฝีมือของชาวบ้านท้องถิ่น ล่าสุดเปิดบริการสวนน้ำเพิ่มแล้ว เรียกว่าครบวงจร

2.วัดปากคลองมะขามเฒ่า

                สายบุญไม่ควรพลาด ที่จะมานมัสการพระครูวิมลคุณากร (ศุข) หรือ หลวงปู่ศุขสักครั้ง วัดปากคลองเก่าแก่คู่บุญชาวชัยนาทมาช้านาน ภายในวัดเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ศุข ทั้ง รูปหล่อขององค์หลวงปู่ศุขและหุ่นขี้ผึ้ง ศาลากุฏิและกรุพระของหลวงปู่ศุข ภาพถ่ายของหลวงปู่ศุขฉบับจริง ภาพฝีพระหัตถ์ของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ และตลาดของฝากท้องถิ่นบริเวณหน้าวัด  วัดปากคลองมะขามเฒ่า ตั้งอยู่ที่อำเภอวัดสิงห์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 25 กิโลเมตรเท่านั้น

3.เขื่อนเจ้าพระยา

เขื่อนทดน้ำแห่งแรกของประเทศไทย สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2500 สร้างความอุดมสมบูรณ์ให้ชาวชัยนาทมากกว่า 60 ปี สามารถเดินขึ้นไปชมความงามบนสันเขื่อนได้เลย ชมวิว 360 องศา ถ่ายรูปสวย ๆ นอกจากนี้ยังมองเห็นวิถีชีวิตของชาวชัยนาทจากระยะไกล ๆ ทั้งการดำน้ำหาปลา การทอดแห ฯลฯ บริเวณข้างเขื่อนมีตลาดปลาที่จับขึ้นมากันสด ๆ และของขึ้นชื่อจังหวัดชัยนาท สามารถซื้อไปประกอบอาหารได้ อิ่มอร่อยอย่างแน่นอน ตัวเขื่อนตั้งอยู่ที่อำเภอสรรพยา ห่างจากอำเภอเมืองประมาณ 20 กิโลเมตร

4.เขื่อนเรียงหิน

                คอมมูนิตี้ยามเย็น ของชาวชัยนาท เป็นคันกั้นน้ำ ที่มีหินน้อยใหญ่เรียงตัวสวยงาม ตั้งอยู่บริเวณหลังศาลากลาง ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาเพลินตา พร้อมของกินอิ่มอร่อย รวมทั้งสวนสาธารณะ สนามกีฬาขนาดใหญ่ ครบครัน เดินเล่นทอดน่องยาว ๆ ได้เลย บริเวณนี้มักจะมีงานอีเว้นท์ต่าง ๆ แวะเวียนมาจัดเสมอ เช่น งานส้มโอขาวแตงกวา งานหุ่นฟางนก ฯลฯ

สำหรับของฝากจากจังหวัดนี้ ก็ได้แก่ ผลไม้ขึ้นชื่อ อย่าง “ส้มโอขาวแตงกวา”  ซึ่งโดดเด่นด้วยรสชาติหวานซ้อนเปรี้ยว เนื้อนิ่ม ทานอร่อย มีจำหน่ายแทบทุกที่ของจังหวัด ยังไงถ้าได้แวะเวียนไป ก็อย่าลืมแวะซื้อมาฝากเพื่อน หรือคุณพ่อคุณแม่นะ ฟินมาก

 

ท่องเที่ยวแบบเนิร์ด ๆ  กับ 4 พิพิธภัณฑ์ รอบกรุงเทพฯ      

ใครอยู่กรุงเทพฯ หรืออยากเที่ยวแบบไม่มีใครเหมือนยกมือขึ้น วันนี้เราจะพาไปเที่ยวแบบเด็กเรียนหน่อย ๆ  กับพิพิธภัณฑ์แขนงต่าง ๆ รอบกรุงเทพ-ปริมณฑล เดินทางง่ายไม่ไกล แถมได้ความรู้ วันหยุดนี้ต้องหาเวลาว่างไปแล้วล่ะ

พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ

ประตูสู่โลกวิทยาศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในไทย ครบถ้วนความรู้สายวิทย์ทุกด้าน! ภายในแบ่งเป็น 3 พิพิธภัณฑ์ ย่อย ได้แก่ พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาและพิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ แต่ละโซนขนเรื่องเด็ดเกี่ยวกับวิทย์มาครบ ทั้งการกำเนิดโลก วิวัฒนาการสิ่งมีชีวิต เทคโนโลยีในไทย ภูมิปัญญาไทย ฯลฯ เดินทั้งวันก็ไม่หมด  ที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ อยู่ที่ คลอง 5 ปทุมธานี โดดเด่นด้วยตึกลูกบาศก์ตั้งตระหง่าน ราคาบัตรเข้าชมผู้ใหญ่/ครู อาจารย์ อยู่ที่ 50 บาท นักเรียน/นักศึกษา  ผู้สูงอายุ เข้าชมฟรี แต่ถ้าแบบเหมา ๆ ชมครบ  3 ที่ เพียง 100 บาทเท่านั้น

มิวเซียมสยาม

พิพิธภัณฑ์มิติใหม่ ที่ไม่ใช่แค่เดินดู แต่สามารถเปิดสัมผัสกับนิทรรศการต่าง ๆ ได้ ภายใต้คอนเซ็ปต์  “Play + Learn = Plean”  เดินชมเพลิน ๆ เรียนรู้ความเป็นมาของประเทศไทยในทุกมิติ และสัมผัสเทคโนโลยี กิจกรรมสร้างสรรค์ใหม่ ๆ ตลอดเวลา ภายในทั้งนิทรรศการถาวร นิทรรศการหมุนเวียน และอีเว้นท์สร้างสรรค์ เช่น สอนทำหัวโขน ทำอาหารไทย ตระหนักรู้ตัวตน เพศ ฯลฯ  ที่ตั้งของมิวเซียมสยามอยู่บริเวณท่าเตียน ใกล้วัดโพธิ์  ค่าเข้าชม นิสิต/นักศึกษา 50 บาท ผู้ใหญ่ 100 ถ้าไปเป็นหมู่คณะก็จะได้ราคาพิเศษขึ้นไปอีก

หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

ถึงแม้จะไม่มีนิทรรศการประจำเหมือนพิพิธภัณฑ์ที่อื่น ๆ แต่ที่นี่รวบรวมและพลัดเปลี่ยนนิทรรศการศิลปะ ทุกแขนงในไทย มากมากกว่า 15 ปี ตัวตึกสูงตระหง่านกลางสยาม มีหลายชั้น แต่ละชั้นจะมีนิทรรศการมาโชว์ผลงาน เช่น เทศกาลภาพยนตร์สร้างสรรค์, ศิลปะสนทนา, นิทรรศการดินน้ำ ป่า ฟ้า  ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีร้านจำหน่ายผลงานศิลปะ ร้านกาแฟ นั่งชิลล์สบาย ๆ  ถ่ายรูปสวยมา ต้องไปโดนสักครั้งจริง ๆ หอศิลป์ตั้งอยู่ติด BTS สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ  เข้าชมฟรี  ไม่มีค่าใช้จ่ายใด  ๆ

พิพิธภัณฑ์ศิริราช

                มอบความรู้เรื่องแพทย์ โรงพยาบาล และประวัติศาสตร์ควบคู่กัน ต้องที่นี่เลย ภายในแบ่งเป็น 2 โซนได้แก่ พิพิธภัณฑ์ศิริราชพิมุขสถาน รวบรวมวัตถุโบราณทางประวัติศาสตร์ หายากไว้ให้ชม รวมทั้งภูมิปัญญาไทย ความเป็นวิถีชีวิตชาวไทย ส่วนอีกโซนคือพิพิธภัณฑ์การแพทย์ศิริราช แบ่งอีกเป็น 6 โซนย่อย ตามสายการแพทย์ เช่น ปรสิตวิทยา, พยาธิวิทยา, กายวิภาค เป็นต้น เราจะได้เห็นเครื่องมือแพทย์จริง สัตว์ อวัยวะคนดองของจริง ความพิเศษคือมีโซนสำหรับผู้พิการทางสายตาด้วย นอกจากนี้เที่ยวพิพิธภัณฑ์ เสร็จเดินชิลล์วังหลัง ท่ามหาราช ท่าพระอาทิตย์ต่อเลย ร้อยเรียงเป็นสตอรี่เดียวกัน ค่าบริการสำหรับผู้ใหญ่ อยู่ที่ท่านละ 80 บาท สำหรับเด็ก นิสิตนักศึกษา 25 บาท

                ได้เที่ยวชิลล์ ๆ ในราคาย่อมเยารอบกรุงเทพฯ แถมยังได้ความรู้เพิ่ม เปิดประสบการณ์ใหม่ อีกต่างหาก ถ้าใครว่าง ๆ ก็อย่าลืมแวะเวียนไปพิพิธภัณฑ์ทั้งหลายนะ เพราะว่าเป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าและต้องให้การสนับสนุนจริง ๆ